ขวัญแก้ว วัชโรทัย, มร.ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส (ที่ 2 จากขวา), มร.ดาเนียล เบรลาส์ (ซ้ายสุด), ดร.อดิเทพ เวณุจันทร์, ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา 2 ผู้แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มาร่วมในงานด้วย.
สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และเจ้านายไทยในโลซานน์” หนังสือบันทึกความทรงจำของครูส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งรวบรวมโดย “ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส” ลูกชายคนสุดท้องของ เกลย์อง เซ.เซไรดารีส ผู้มีบทบาทและหน้าที่ครูส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 โดยในหนังสือได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ และภาพสำคัญของพระบรมราชวงศ์ช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตลอดจนเอกสารสำคัญที่ครอบครัว เซ.เซไรดารีส ได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งในงานมี นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มาเป็นประธาน พร้อมด้วย มร.ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส และ มร.ดาเนียล เบรลาส์ นายกเทศมนตรีเมืองโลซานน์ ได้บินตรงจากสวิตเซอร์แลนด์มาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ ที่ ลิฟวิ่งแกลลอรี 1 ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
มร.ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส ผู้รวบรวมบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ไทย กล่าวว่า ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการจัดทำหนังสือเล่มนี้ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า ควรจะทำในฐานะเป็นผู้รู้เห็นในเหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ ความยากของการทำหนังสือเล่มนี้ คือการรวบรวมเนื้อหาของหนังสือ และพระราชดำรัสต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมาย จึงต้องเลือกสรรเอา และต้องละเอียดอ่อน เพื่อที่จะให้ผู้อ่านทั้งชาวสวิส และชาวไทย ได้เข้าใจในเรื่องเดียวกัน ซึ่งตนใช้เวลาถึง 4 ปี ในการเรียบเรียง นอกจากนี้ต้องทำภาพถ่ายฟิล์มเก่า ให้เป็นภาพดิจิตอลด้วย ส่วนไฮไลต์ของหนังสือเล่มนี้ อยู่ในทุกๆหน้าทั้ง 500 หน้า เพราะว่าเป็นหนังสือที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงในเหตุการณ์นั้นๆ นอกจากนี้ยังมีคนจีนที่สนใจประวัติศาสตร์ไทยและรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากให้แปลเป็นภาษาจีนด้วย
...
โอกาสนี้ผู้รวบรวมยังกล่าวต่ออีกว่า ความรู้สึกของตนที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงจะสัมผัสได้จากหนังสือเล่มนี้ที่ฝังอยู่ในจิตใจ ซึ่งความประทับใจที่มีเป็นพิเศษก็คือ พระราชหัตถเลขาของพระราชวงศ์ทั้ง 4 พระองค์ ที่เขียนถึงพ่อของตน ทรงเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ร้านอาหารจีน ซึ่งเป็นร้านเดียวที่เจนีวา และเป็นร้านประจำที่เสด็จฯไปเสวยอาหารเอเชีย พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บเชอร์รี่จากสวนที่ประทับ “วิลล่าวัฒนา” มาพระราชทานแก่เจ้าของร้าน เพื่อแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยอาหารร้านนี้ จึงมีของเล็กๆน้อยๆมาฝาก สิ่งนี้แสดงให้ตนเห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อคนรอบข้างเสมอ สมัยเด็กตนไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯใกล้ชิด เพราะตนอายุน้อยกว่าพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 19 ปี พี่ชายตนซึ่งอายุมากกว่า 20 ปี ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯในช่วงที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์
ในฐานะผู้จัดทำหนังสือประวัติศาสตร์เล่มดังกล่าว นิติกร กรัยวิเชียร นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ภาพถ่ายในหนังสือถือเป็นภาพถ่ายที่สำคัญยิ่งเชิงประวัติศาสตร์ประเทศ ไทยและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพถ่ายที่แทบไม่เคยได้เห็นเลย เพราะบันทึกโดยพระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงของในหลวงทั้งสองพระองค์สมัยประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งสะท้อนถึงพระราชจริยวัตรสมัยทรงพระเยาว์ ส่วนเนื้อหาได้เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาที่ไม่เคยมีใครได้ทราบมาก่อน เป็นเรื่องในครอบครัวพระบรมราชวงศ์ที่น่าตื่นเต้น สำหรับหนังสือเล่มนี้ได้จัดพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในภาษาไทยและอังกฤษ โดยต้นฉบับเป็นภาษาฝรั่งเศส ผู้สนใจสามารถหาซื้อหนังสือได้ที่ศูนย์หนังสือเอเชียบุ๊คส์ทุกสาขา ในราคาเล่มละ 699 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย.