ครึ้มฟ้าครึ้มฝนทั้งวัน จะออกไปเที่ยวก็กลัวฝนจะตก หน้าฝนแบบนี้จะตัดสินใจออกไปเที่ยวทั้งที ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือเปล่า เพราะคอยกังวลโน่น นี่ นั่น ตลอดเวลา จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณมีอีกหนึ่งทางเลือกสุดคุ้ม
วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปพบกับอีกหนึ่งทางเลือกการท่องเที่ยวที่ราคาน่าคบ รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะเร็วๆ นี้ ภาคเอกชนไทยรวมตัวกัน ผุดโครงการ One pack One price ราคาเดียวเที่ยวทั่วไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่นหลากหลายจุดหมายทั่วไทย
โดยได้คัดสรรเส้นทางการท่องเที่ยวคุณภาพ เพื่อเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวกว่า 45 จุดหมาย ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษเพียง 2,990 บาท ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เริ่มเปิดให้จองแพ็กเกจได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2558
งานนี้ ภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศไทย (สทน.) ออกโรงเปิดตัวโครงการนี้ด้วยตัวเอง พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่คุณพลาดไม่ได้ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
1. จังหวัดอุดรธานี
สถานที่แห่งแรกที่อยากแนะนำคือ 'วัดป่าภูก้อน' เป็นพุทธสถานบนภูเขาท่ามกลางธรรมชาติที่มีความวิจิตรงดงาม ซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักต่อนักท่องเที่ยวมากนัก ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง และป่านาโสม บ้านนาคำใหญ่ ตำบลบ้านก้อง และยังเป็นรอยต่อของสามจังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย
...
นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาด้วยต้นไม้นานาชนิด ยามเช้าจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกสวยงาม ยามค่ำคืนดื่มด่ำกับดวงดาวเต็มท้องฟ้า
ต่อมาคือ 'ป่าคำชะโนด' หรือเมืองชะโนด เป็นป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะ อยู่กลางทุ่งนา ในป่าเต็มไปด้วยต้นคำชะโนดบนพื้นที่ราว 20 ไร่ จากตำนานพื้นบ้านเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคและสิ่งลี้ลับต่างๆ บรรยากาศเงียบสงบ เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ จึงทำให้ป่าแห่งนี้ดูมีมนตร์ขลัง ราวกับหลุดไปอยู่อีกมิติหนึ่งเลยทีเดียว แต่นั่นก็ทำให้ป่าแห่งนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด
สถานที่แห่งสุดท้าย คือ 'บ้านเชียง' แหล่งโบราณคดีที่สำคัญ เป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ที่มีการขุดพบข้าวของเครื่องใช้คาดว่ามีอายุกว่า 5,000 ปี นอกจากนั้นยังจะได้รับชมการแสดงพื้นบ้านของคนท้องถิ่นตามแบบวิถีไทยอีกด้วย
2. กระบี่ (ทัวร์ 4 เกาะ)
ที่น่าสนใจมากๆ คือ 'ทะเลแหวก' ที่เกิดจากอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้เกิดเป็นหาดทรายสีขาวสะอาดตา เชื่อมทั้งสามเกาะ คือเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ จะเกิดเฉพาะก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเกาะทั้งสามได้ ราวกับเดินอยู่ท่ามกลางผืนท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนั้นยังสามารถดำน้ำดูปะการัง สัมผัสโลกใต้ท้องทะเลได้ด้วย
ต่อมาคือ 'เกาะปอดะ' ถือว่าเป็นเกาะที่สวยงามสมบูรณ์มากๆ เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ชมวิว และพักผ่อนหย่อนใจ
และสุดท้ายคือ 'อ่าวไร่เลย์' เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความงดงาม มีถ้ำพระนาง ถ้ำที่มีความวิจิตรตามธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อย สลับซับซ้อนแปลกตา
3. ระยอง (เกาะมันนอก เกาะมันกลาง เกาะมันใน)
เริ่มที่ 'เกาะมันใน' มีอ่าวที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะอ่าวหน้าบ้าน จะมีแนวปะการังที่สวยงาม ในส่วนของอ่าวโกงกางนั้นมีผืนทรายที่เรียบ เกาะมันในแห่งนี้ยังเป็นเกาะแห่งการเรียนรู้โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย
'เกาะมันกลาง' ใครที่ชอบความสงบต้องที่นี่เลย เพราะคนไม่พลุกพล่าน เป็นเกาะที่อิงธรรมชาติมากที่สุด ท่ามกลางสายลม แสงเเดด หาดสวยๆ น้ำทะเลใสๆ และยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากๆ
'เกาะมันนอก' เป็นเกาะเล็กที่อยู่นอกสุด ตอนกลางเป็นภูเขา เนื่องจากเป็นเกาะส่วนตัวจึงทำให้มีความสวยงามตามธรรมชาติ จะได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสๆ หาดทรายขาวนวลตา เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ชื่นชอบความสงบ ร่มเย็น ใกล้ชิดแบบธรรมชาติสุดๆ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ One pack One price ราคาเดียวเที่ยวทั่วไทยนี้ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่ www.tourdd.org เลยจ้า หน้าฝนก็หน้าฝนเหอะ ถ้าอยากจะออกไปเผชิญโลกซะอย่าง อะไรก็ฉุดไม่อยู่ จริงไหม?
...
ที่มาภาพส่วนหนึ่ง : พีอาร์งานแถลงข่าว OnepackOneprice และ TatRayongOffice