ทรุดหนัก!! ถนนเลียบคลอง หนองเสือ-หนองแค ขับรถระวังร่วง

เตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนน เส้นเลียบคลองตั้งแต่ อ.คลองหลวง ปทุมธานี จนถึงเลียบคลองระพีพัฒน์ใน อ.หนองแค สระบุรี ยังทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาภัยแล้งน้ำคลองแห้ง ถ้าขับไม่ระวัง อาจจะร่วงตกลงไปได้...

จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 7 ก.ค.) ถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ฝั่งขวา พื้นที่ 10 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี เยื้องจากที่ถนนเดิมที่ทรุดตัวจากคลองฝั่งซ้ายประมาณ 100 เมตร เกิดรอยแตกร้าวและเริ่มทรุดตัวลง ทำให้ต้องปิดการจราจร ไม่ให้รถวิ่งผ่าน

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่าถนนด้านซ้ายจากตัว อ.หนองแค ไป อ.หนองเสือ มีรอยแตกร้าวและทรุดตัวลงประมาณ 70-80 ซม. ยาว 100 เมตร โดยนายประกิจ หมีเปรม นายก อบต. หนองโรง เผยว่า ในระหว่างที่ตนและชาวบ้าน พร้อมอาสา ได้ออกตรวจถนนบริเวณริมคลองระพีพัฒน์ทั้งสองในพื้นที่รับผิดชอบ จนประมาณ 2 ทุ่ม จึงได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า บริเวณหลัก กม.ที่ 18-19 หมู่ 10 ต.หนองโรง ฝั่งคลองระพีพัฒน์ฝั่งขวา ถนนได้เกิดทรุดตัวและแตกร้าวเป็นรอยยาว จึงได้รุดมาดู พร้อมกับแผงหล็กมากันไว้เกรงชาวบ้านผ่านไปมาจะได้รับอันตราย และจากนี้ไปจะมีการจัดเวรยามคอยเฝ้าตลอด

อย่างไรก็ตามล่าสุด ถนนบริเวณดังกล่าวได้ทรุดตัวลงลึกไปอีกประมาณ 4 เมตร ยาว 100 เมตร จนเต็มพื้นที่บนถนน นายประกิจ หมีเปรม นายก อบต.หนองโรง จึงได้ประสานนายช่างกรมทางหลวงชนบท เพื่อนำอุปกรณ์และเครื่องจักรมาซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ พื้นที่ของ อ.หนองแค จ.สระบุรี บริเวณเส้นทางเลียบคลองน้ำระพีพัฒน์ ขณะนี้มีถนนทรุดตัวแล้ว 3 จุด จากสาเหตุภัยแล้ง ทำให้น้ำคลองแห้ง ดินใต้ถนนเกิดสไลด์ไหลลงคลอง

ขณะเดียวกัน ปัญหาได้เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.คลองหลวง และ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีด้วย โดยมีรายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ว่า ตั้งแต่ช่วงบริเวณคลอง 4 อ.คลองหลวง และคลอง 7 ถึง คลอง 14 อ.หนองเสือ น้ำในคลองแห้งขอด จนบางแห่งดินในคลองแห้งจนแตกระแหง ไม่เหลือร่องรอยของความเป็นคลอง โดยคลองทั้งหมดจะรับน้ำมาจากคลองระพีพัฒน์ซึ่งแห้งขอดเช่นกัน ขณะนี้มีคลอง 1 และคลอง 2 เท่านั้นที่มีน้ำ เนื่องจากชาวบ้านได้ช่วยกันกักน้ำไว้เพื่อใช้ทำนา ทำให้น้ำในคลองมีอยู่ประมาณ 1 เมตร จากคลองที่มีความลึก 5 เมตร 

ส่วนที่ชุมชนมัสยิดอัซซฮีลีน หมู่ 10 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ชาวบ้านในชุมชนที่ส่วนใหญมีอาชีพทำนาหญ้า ในพื้นที่ต้องใช้น้ำในการทำการเกษตร โดยใช้น้ำในคลอง 12 แต่พบว่า น้ำในคลอง 12 แห้งขอด ก้นคลองไม่มีน้ำ ทำให้นาหญ้าเริ่มแห้ง กอหญ้าที่ดำไว้ ไม่แตกยอดเพราะขาดน้ำ ชาวสวนบางรายต้องรื้อนาหญ้าทิ้ง เพราะยอดหญ้าแห้งตาย บางรายกักน้ำไว้ร่องสวนเล็กๆ ริมนาหญ้า เพื่อทยอยรดน้ำประทังยืดอายุนาหญ้า ซึ่งชาวสวนบอกว่าหากนาหญ้าขาดน้ำอีก 4-5 วัน จะเริ่มตายและตายจนหมดในที่สุด

นายเมธา ทวีกุลกิจชัย นายอำเภอหนองเสือ กล่าวว่า ในส่วนของเกษตรกรชาวสวน ไม่ค่อยน่าห่วง เพราะชาวสวนมีร่องน้ำในสวน ได้เก็บกักน้ำไว้ในสวนจนเต็มแล้ว จะห่วงก็พวกชาวนาข้าว นาหญ้า ไม้ดอกไม้ประดับ ที่ต้องใช้น้ำ และไม่มีร่องสวนไว้เก็บน้ำ ซึ่งทาง อ.หนองเสือ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเดือดร้อน ส่วนเรื่องถนนที่พัง ระบุว่าในจังหวัดมีถนนได้รับความเสียหาย ทรุด ดินริมตลิ่งสไลด์ จากภาวะภัยแล้งกว่า 100 แห่งแล้วโดยเฉพาะ อ.หนองเสือ และคลองหลวง ถนนพังมากที่สุด

ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 2 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ว่าเกิดเหตุถนนทรุด บริเวณถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตก โดยสภาพถนนทรุด ลาดเอียงไปทางริมคลองแต่มีเขื่อนปูนกั้นไว้ พื้นผิวถนนแตกทั้ง 2 เลน ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตรอยู่ใกล้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมถนน นอกจากนี้ยังพบรอยร้าวบริเวณพื้นที่ถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุอีก เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกและกรวยยางมากั้นเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามผ่าน

ด้านนายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วยนายสาคร อ่ำภิน รองนายก อบจ. ได้เดินทางตรวจสอบถนนที่ทรุดในเขตพื้นที่ อ.หนองเสือ พร้อมสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งแก้ปัญหา พบว่าถนนทรุดเกิดขึ้นในพื้นที่จุดใหญ่ๆ คือบริเวณหน้าสถานีอนามัยศาลาครุ คลอง 13 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ ซึ่งเพิ่งพังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีที่หมู่ 6 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เกิดรอยร้าว ดินสไลด์ ถนนทรุดทั้ง 2 เลน รวม 3 แห่ง และถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก หมู่ 5 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ ทรุดตัวเป็นระยะทางยาวกว่า 150 เมตร เป็นร่องลึกประมาณ 1 เมตร โดยริมถนน 1 เลนทรุดเอียงลงคลอง 13 เจ้าหน้าที่นำเชือกมากั้น และตั้งป้ายสัญญาณเตือน ซึ่งจุดนี้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงรอยร้าวเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนที่บริเวณถนนเลียบคลอง 14 เขต ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงชนบท ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนที่ทรุดลึกกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร 1 ช่องทางจราจร บริเวณหน้าร้านค้าชุมชน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนจึงขอฝากเตือนประชาชนที่ใช้ถนนในเส้นทางช่วงอ.หนองเสือ โดยเฉพาะเส้นเลียบคลอง ขอให้ขับรถช้าๆ และใช้ความระมัดระวังให้มาก.