กรณีพื้นที่ ส.ป.ก.หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา ที่มีการนำพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ไปสร้างอาคารพาณิชย์ หอพัก ที่อยู่อาศัย จนเกิดกรณีพิพาทในเรื่องที่ดินเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นจนสาวไปถึงอาคารสูงนับร้อยหลังที่สร้างบนพื้นที่ ส.ป.ก. 4-01 จนเป็นเรื่องฉาวขึ้นมา ทาง ส.ป.ก.จึงใช้ช่องของกฎหมาย ทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกโดยหามาตราที่สามารถใช้พื้นที่เกษตรกรรมในเชิงพาณิชย์ได้และให้มีการเช่าพื้นที่กับ ส.ป.ก. ถือเป็นการผิดวัตถุประสงค์คำว่าที่ดินใช้เพื่อเกษตรกรรม จนเป็นที่มาของคำว่า “พะเยาโมเดล” ที่จะสามารถนำไปพลิกแพลงใช้ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ทั่วประเทศตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ทางสำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จากส่วนกลางได้จัดทีมงานให้มีการเกณฑ์ผู้สื่อข่าวจากเชียงใหม่ให้เดินทางไปดูพื้นที่ ส.ป.ก. 4-01 หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ที่มีการใช้พื้นที่ก่อสร้างอาคาร ที่พักหอพักอาคารพาณิชย์ขึ้นจำนวนมากในพื้นที่ ส.ป.ก.อย่างผิดประเภท แต่ทาง ส.ป.ก.ได้ใช้ข้อกฎหมายทำในสิ่งที่ผิดวัตถุประสงค์คำว่าพื้นที่เพื่อเกษตรกรรม มาเป็นการใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์โดยการเช่าพื้นที่จาก ส.ป.ก.เอง โดยพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นต้นแบบที่จะใช้ในพื้นที่อื่นๆได้แม้จะมีนักกฎหมายออกมาค้านก็ไม่เป็นผล และนอกจากพื้นที่แห่งนี้แล้ว ยังจะมีการนำผู้สื่อข่าวไปชมพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 หน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าการเพิกถอนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นที่อยู่อาศัยหรือธุรกรรมอื่นด้วยการเวนคืนแล้วโอนที่ดินไปอยู่ในกรมธนารักษ์แล้วให้กรมธนารักษ์ปล่อยให้เช่า เป็นวิธีหนึ่งที่ทำได้ตามกฎหมาย แต่ทาง ส.ป.ก.กลับไม่มีการโอน ไปแต่กลับมาเก็บค่าเช่าเองและที่สำคัญปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 หน้า ม.พะเยา ที่มีการก่อสร้างเป็นที่อยู่ อาศัยและการพาณิชย์ก่อนที่จะมีกฎหมายบังคับใช้อาจเข้าข่ายการใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ และหากยึดกฎหมายก็ต้องเพิกถอนสถานเดียว
...
เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า “มีข้อเสนอวิธีแก้ปัญหา ให้ตนออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ ส.ป.ก.ที่กลายเป็นชุมชนเมืองไปแล้ว ให้พ้นสภาพการเป็นที่การเกษตร แต่ตนไม่อยากใช้วิธีนี้ เพราะถ้าเพิกถอนพื้นที่ให้กลายเป็นที่ว่าง ผู้ที่ใช้ที่ดินผิดประเภท ก็จะใช้ช่องว่างนี้ตีความเข้าข้างตัวเองให้ตัวเองได้ประโยชน์ คนที่มีเจตนาเช่นนี้มีอยู่มาก ถ้าเราทำตามวิธีนี้ ก็จะรักษาที่ดินเพื่อการเกษตรไม่ได้ กลายเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ ของ ส.ป.ก.ไปในที่สุด ส่วนทางออกเรื่องนี้คือ ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเข้ามาตีกรอบว่า ขนาดของเมืองที่เหมาะสมควรจะหยุดอยู่แค่ไหน ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ โดยรอบมหาวิทยาลัยพะเยาเท่านั้นแต่รวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ของ ส.ป.ก. ที่ความเจริญเข้าไปถึงจนสภาพที่ดินมีแนวโน้มเปลี่ยนไปจากการเกษตรกรรม หากกรมโยธาฯ วางผังเมืองแล้วเสร็จ ก็จะให้โอนที่ดิน ส.ป.ก. ที่อยู่ในเขตเมืองเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ เพื่อเก็บผลประโยชน์เข้ารัฐเสีย”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายประพันธ์ เทียนวิหาร นายก อบต.แม่กา เจ้าของพื้นที่ที่มี ส.ป.ก. 4-01 หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ถึงเรื่องที่ทางสำนักงาน ส.ป.ก.จะนำผู้สื่อข่าวทั้งท้องถิ่นเชียงใหม่และส่วนกลางไปดูงานการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.4-01 หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อจะใช้เป็นต้นแบบ “พะเยาโมเดล” นายประพันธ์ ตอบว่า ทราบเพียงว่ามีบริษัทออร์แกนไนท์ ประสานเข้ามาเท่านั้น ว่าทางเลขา ส.ป.ก.คนใหม่จะนำสื่อมวลชนมาดูพื้นที่ ส.ป.ก.หน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทราบเลย ส่วนสำหรับการจัดการพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ให้มีการเช่าจาก ส.ป.ก.นั้น ในส่วนเทศบาลตำบลแม่กาก็สามารถเข้าไปวางแผนผังเมือง สามารถจัดการ ระบบต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง การจัดการขยะและน้ำเสียและเทศบาลยังใช้กฎหมายเข้าไปควบคุมอาคารหอพักได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะก่อนหน้านั้น ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดได้เลย.