มาอีกโจรคนเดิมสวมหมวกกันน็อกสีขาว ขี่จยย.บุกจี้ร้านเซเว่นฯ ในท้องที่สน.บางชัน 2 แห่ง หลังจากวันที่ผ่านมาจี้ไปแล้ว 3 แห่ง ทำสถิติ 2 วัน จี้ 5 ร้าน พนักงานดูวงจรปิดแล้วเชื่อเป็นคนเดียวกัน ชุดสืบสวน บก.น.4 ลงพื้นที่ช่วยล่า...
ภายหลังมีคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในท้องที่ สภ.บางชัน และหัวหมาก 3 ร้านรวด เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ร.ต.ท.ไอศรรย์ ปถมสันติพงศ์ พนักงานสอบสวน สน.บางชัน รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น 2 สาขา จุดแรกที่อมรพันธ์ คอนโดมิเนียม กลางซอยสวนสยาม 12 แขวงและเขตคันนายาว และสาขาซอยราษฎร์พัฒนา หรือซอยมิสทีน แขวงและเขตสะพานสูง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และฝ่ายสืบสวน บก.น.4
ร้านแรกสาขาอมรพันธ์ คอนโดมิเนียม ซอยสวนสยาม 12 เจ้าหน้าที่พบพนักงานประจำร้านเป็นหญิง 3 คน ยังอยู่ในอาการตกใจ ยืนรอให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. มีคนร้ายชาย 1 คน รูปร่างผอม สูงประมาณ 170-180 ซม. สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาว สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ทับเสื้อเชิ้ตสีม่วงด้านใน กางเกงขาสามส่วนสีครีม เดินเข้ามาในร้านที่หน้าเคาน์เตอร์ ทำท่าข่มขู่คล้ายจะชักอาวุธมีด เสียงพูดเป็นน้ำเสียงของวัยรุ่น บอกให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน แต่พนักงานร้านบอกไม่มีเงิน ก่อนที่พนักงานสาวทั้ง 3 คน จะวิ่งออกไป คนร้ายจึงหยิบเพียงช็อกโกแลต 1 แท่ง ไม่ได้ทรัพย์สินอย่างอื่น ออกจากร้านไป
ส่วนร้านที่ 2 สาขาซอยมิสทีน พบ นายปกรณ์ ปรีแก้ว พนักงานของร้าน ยืนให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะทำงานอยู่กับพนักงานอีกคนเป็นหญิง พบคนร้ายชาย 1 คน เดินเข้ามาในร้าน หยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ ตนบอกให้ถอดหมวกกันน็อกออก คนร้ายจึงเปิดเสื้อโชว์อาวุธมีด พร้อมบอกให้เปิดลิ้นชักนำเงินออกมา ด้วยความกลัวจึงหยิบเงินในลิ้นชัก จำนวน 1,300 บาท เมื่อคนร้ายได้เงินได้หลบหนีออกจากร้านไป
...
เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อทั้ง 2 สาขา พบคนร้ายเป็นคนเดียวกัน และเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ทั้ง 3 สาขา เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) หลังจากนำภาพกล้องวงจรปิดให้พนักงานของร้านดู ยืนยันว่า มีลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และสวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาวเหมือนกัน ต่างเพียงชุดที่สวมใส่ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 จึงร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ก่อนที่จะไปก่อเหตุอีก.