จากกรณีปลาในกระชังของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้ในแม่น้ำป่าสัก บริเวณพื้นที่ อ.แก่งคอย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง และ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ตายเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมโรงงาน กรมเจ้าท่า กรมประมง รวมถึงหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเร่งแก้ปัญหา หากพบว่าเกิดจากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานจะให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด การแก้ปัญหาเบื้องต้น ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่นำปลาที่ตายขึ้นจากน้ำ และกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ลงไปตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานทุกแห่งว่าได้มาตรฐาน และใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยย้ำว่าการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติถือว่าเป็นอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อม รัฐบาลให้ทุกหน่วยงานจริงจังกับการบังคับใช้กฎหมาย

นายธีรทัศน์ ศิริแดง ประมงจังหวัดสระบุรี เผยว่า กรณีที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเสียหาย 177 ราย 680 กระชัง ปลาตายไปกว่า 430,400 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 38,736,000 บาท สำหรับสาเหตุเบื้องต้นที่ปลาตายมาจากขาดออกซิเจน

...

แต่อะไรเป็นสาเหตุทำให้น้ำขาดออกซิเจน จะต้องตรวจสอบต่อไป เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการลักลอบปล่อยสารเคมีลงไปในน้ำ กับเกิดจากอุณหภูมิของอากาศที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันของฤดูกาลที่มักจะเกิดพายุฤดูร้อน ล่าสุด ผู้ว่าฯ จ.สระบุรีได้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี อุตสาหกรรม และประมง ขึ้นมาหาสาเหตุที่แน่ชัด โดยนำซากปลาที่ตายในแม่น้ำป่าสัก และดินท้องน้ำ ไปดำเนินการตรวจสอบทางเคมี จากนั้นจึงนำผลการตรวจสอบที่ได้มารวมกันเพื่อประมวลหาสาเหตุร่วมกัน คาดว่าจะรู้ผลในปลายเดือนเมษายนนี้

และเพื่อหาทางป้องกันปัญหาที่อาจเกิดซ้ำขึ้นมาอีก ทางประมงจังหวัดได้ให้เจ้าหน้าที่ออกประกาศเตือนเกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชัง ให้ติดตั้งเครื่องเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้มากขึ้น และคอยเฝ้าระวังตรวจสอบปลาที่เลี้ยงไว้ หากพบว่าเกิดมีอาการว่ายแกว่งไปแกว่งมา หรือมีการลอยคอขึ้นมาให้เห็นจำนวนมาก ให้รีบตักปลาขึ้นมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ พร้อมกับแจ้งทางประมงอำเภอเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในทันที.