ของโบนันซ่า ส่วนที่แข่งรถ ไม่มี‘เอกสาร’ มากกว่า100ไร่
สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบที่ดินสนามแข่งรถ “โบนันซ่า” เป็นที่ดิน น.ส.3 ก. 5 แปลง เนื้อที่ 55 ไร่เศษ 2 แปลง มีนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจคนดังเป็นเจ้าของ ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เผยแจ้งความดำเนินคดีในส่วนที่ดิน 103 ไร่ ที่ไม่มีเอกสารสิทธิแล้ว จากนั้นใช้ ม.25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่อไป
เตรียมตรวจสอบสนามกอล์ฟ เนื้อที่ 250 ไร่ ยืนยันเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง รมว.ยุติธรรมเผยการตรวจสอบ “โบนันซ่า” อยู่ในขั้นตรวจสอบหลักฐาน จะได้ตอบได้ว่าที่ผ่านมาทำไมไม่ดำเนินการ
สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้าตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินสนามแข่งรถโบนันซ่า สปีดเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล หมู่ 11 หมู่บ้านโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจคนดัง หลังชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กองทัพภาคที่ 2 ดีเอสไอ และ ปปง. นำโดย พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 บุกเข้าตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน กว่า 100 ไร่
ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินสนามแข่งรถโบนันซ่า เมื่อตอนสายวันที่ 3 เม.ย. นายมลศักดิ์ จงรักษ์ หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือสั่งการให้ทางสำนักงานที่ดิน จ.นครราชสีมา สาขาปากช่อง ตรวจสอบเอกสารสิทธิบริเวณสนามแข่งรถในโบนันซ่า พร้อมกำชับให้รายงานผลในวันที่ 7 เม.ย.นี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าบางส่วนมี นส.3 ก. ซึ่งออกมาหลายปีแล้วโดยการเดินสำรวจ ส่วนที่ดินอยู่นอกเขต นส.3 ก. เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่จะต้องเข้าไปดูแลรับผิดชอบว่าจะดำเนินการอย่างไร และหากพบเอกสารสิทธิออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ต้องรายงานให้นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา และรายงานไปยังกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนแก้ไขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป
...
ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ตนยังสั่งให้ตรวจครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 กม. จากจุดเกิดเหตุ เพื่อดูว่ามีส่วนไหนอีกที่มีปัญหาอีกหรือไม่ โดยช่วงแรกจะเป็นการตรวจเอกสารก่อนแล้วตรวจจากแผนที่แสดงในเขตที่ดินของรัฐ เช่น แนวเขตป่าไม้ถาวร แนวเขตป่าสงวนว่า สำหรับพื้นที่ที่สร้างสนามแข่งรถและบ้านพักตากอากาศ เท่าที่ลงไปตรวจมีการสร้างออกมาในนอกเขตของ นส.3 ก.ซึ่งเจ้าของเองก็ยอมรับและยินดีที่จะส่งคืนพื้นที่ แต่จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตนได้ประสานไปยังฝ่ายความมั่นคงคือ พ.อ.สมหมาย บุษบา ว่าที่ดินแปลงนี้อยู่คาบเกี่ยวกับเขตป่าสงวน แห่งชาติ การจะออกโฉนดต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ถ้าคาบเกี่ยวพื้นที่ป่าต้องให้ทางป่าไม้มาดูด้วย ทางผู้ครอบครองเลยยังไม่มาขอออกโฉนด
ด้านนายวัชระ ขำพรหมราช หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง กล่าวว่า ได้รับหนังสือประสานจาก อบต. ขนงพระ ขอให้ไปตรวจสอบพื้นที่จริงของสนามแข่งรถโบนันซ่าตามเอกสาร นส.3 ก. ซึ่งฝ่ายรังวัดที่ดินจะเข้าไปตรวจสอบร่วมกับ อบต.ขนงพระ เพื่อดูว่าพื้นที่ตาม นส.3 ก. อยู่บริเวณใด และลำรางสาธารณะ และ ถนนสาธารณะอยู่ตรงไหน เพื่อที่ อบต.ขนงพระ จะตรวจต่อไปว่ามีการก่อสร้างรุกลำรางหรือถนนสาธารณะหรือไม่ สำหรับพื้นที่สนามแข่งรถมีเอกสารเป็น นส. 3 ก. จำนวน 5 แปลง รวมเป็นเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา โดยทั้ง 5 แปลงเป็นการเดินสำรวจออก นส. 3 ก.โดยช่างรังวัดจากกรมที่ดิน ส่วนรายละเอียดคงต้องให้ นายจิระศักดิ์ สุจริตตานันท์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง เป็นผู้ให้ข้อมูล
นายวัชระกล่าวต่อว่า ผู้ครอบครองที่ดินตามที่ระบุใน นส. 3 ก. ได้แก่ แปลงที่ 1 นส.3 ก. เลขที่ 925 เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา มีบริษัท ซับม่วง จำกัด เป็นเจ้าของ ออก นส.3 ก.เมื่อปี พ.ศ.2519 โดยนางสอน คำพลกรัง เป็นผู้นำเดินสำรวจ หรือเป็นเจ้าของเดิม แปลงที่ 2 นส.3 ก. เลขที่ 926 เนื้อที่ 9 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา มีนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เป็นเจ้าของ นายพันธ์ คำพลกรัง เป็นผู้นำเดินสำรวจ แปลงที่ 3 นส.3 ก. เลขที่ 927 เนื้อที่ 16 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา มีนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เป็นเจ้าของ นายบุญส่ง คำพลกรัง เป็นผู้นำเดินสำรวจ แปลงที่ 4 นส.3 ก. เลขที่ 928 เนื้อที่ 16 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา มี น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล เป็นเจ้าของ นายเขียว แวะสันเทียะ เป็นผู้นำเดินสำรวจ และแปลงที่ 5 นส.3 ก. เลขที่ 930 เนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 20 ตารางวา มี น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล เป็นเจ้าของ นางเทพ นพรัตน์ เป็นผู้นำเดินสำรวจ
ส่วนนายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวถึงการตรวจสอบสนามแข่งรถโบนันซ่าบุกรุกพื้นที่ป่าว่า ในส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิแสดงความเป็นเจ้าของจำนวน 103 ไร่ จากการครอบครองใช้ประโยชน์ทั้งหมด 151 ไร่นั้น ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากช่อง เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่กรมป่าไม้ต้องดำเนินการคือ การประกาศใช้มาตรา 25 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ให้มีการรื้อถอน และเตรียมฟื้นพื้นที่ให้กลับเป็นผืนป่าธรรมชาติต่อไป ใช้เวลาหลังจากนี้อีกไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งทางเจ้าของยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอน
นายอรรถพลกล่าวว่า ส่วนที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังจะเข้าไปตรวจสอบสนามกอล์ฟเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ กรมป่าไม้อยู่ระหว่างการรอประสานงานเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบอยู่ เบื้องต้นนั้นทราบว่าทางเจ้าของขอเวลาในการรวบรวมเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะเป็นประมาณสัปดาห์หน้า อย่างไร ก็ตาม หากได้รับการประสานมาจากทางทหารก็ต้องเข้าไปรังวัด และเปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ทางเจ้าของนำมายืนยันความถูกต้อง
ต่อข้อถามว่าการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ของโบนันซ่าครั้งนี้เป็นเรื่องของการเมือง เพราะก่อนหน้านี้โบนันซ่าเคยเปิดสถานที่ให้เป็นที่ประชุมของคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายอรรถพลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง การตรวจสอบเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้อยู่แล้ว ครั้งนี้ได้รับการประสานมาจากกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ สำหรับพื้นที่อื่นรอบๆเขาใหญ่มีการบุกรุกทั้งป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยาน แห่งชาติ กรมป่าไม้ต้องเข้าไปตรวจสอบไม่มีการยกเว้นที่ไหนทั้งสิ้น เป็นแผนระยะยาวที่เรียกว่า ยุทธการทวงคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกทั่วประเทศ
...
ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวย้ำว่า เวลานี้ชุดพยัคฆ์ไพร ที่นำทีมโดยนาย ชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้าน การป้องกันและปราบปราม อยู่ระหว่างการทำยุทธการป่าสักยั่งยืน พร้อมทีมงานความมั่นคง ทหาร และตำรวจในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เข้าตรวจยึดกลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ปลูกยางพาราในลุ่มน้ำป่าสักทั้งหมด ตั้งเป้าหมายตามข้อมูลที่เคยสำรวจเอาไว้ว่าจะดำเนินการยึดคืนให้ได้ 20,000 ไร่ เมื่อเสร็จจากพื้นที่ดังกล่าวก็จะออกปฏิบัติการพื้นที่อื่นๆต่อไป โดยยืนยันว่าทุกพื้นที่หากมีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริงจะไม่มีการยกเว้นการปฏิบัติอย่างเด็ดขาด และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจสอบการบุกรุกป่าของโบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า คดีเพิ่งดำเนินการยังอยู่ในขั้นการตรวจสอบหลักฐาน แต่ ก็พอเห็นภาพแล้ว ต้องรอให้ชัดเจน เพราะบอกแล้วว่าต้องชัดเจน และต้องเป็นธรรม กลั่นแกล้งใครไม่ได้ ขณะนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับโบนันซ่า เพราะเรื่องยังไม่จบ ต้องให้เวลาสอบทุกหน่วย เมื่อถามว่า ทางโบนันซ่าระบุว่ามีเอกสาร ภ.ท.บ.5 กับ น.ส.3 ก. พล.อ.ไพบูลย์ตอบว่า เอาน่า อย่าไปลงลึก ตนเข้าใจ แต่ประชาชนต้องเข้าใจด้วย อย่าไปเร่งรัด เรามีระบบนี้ขึ้นมาแล้วจะได้ตอบได้ว่าทำไม 3-4 ปี ถึงไม่ดำเนินการ