นับตั้งแต่นาทีที่อัยการฝรั่งเศส แถลงข่าวสุดช็อก ทำให้ชาวโลกต้องตกตะลึง นายแอนเดรียส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยชาวเยอรมัน ของสายการบินเยอรมันวิงส์​ มีความจงใจ หรือมีเจตนา บังคับเครื่องบินโดยสาร เที่ยวบิน 4U 9525 พุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ 150 ศพ

คำถามที่ดังกระหึ่มตามมา ก็คือ นายแอนเดรียส ลูบิตซ์ นักบินหนุ่มชาวเยอรมัน คนนี้คือใคร ? และเพราะสาเหตุใด ที่ทำให้ ลูบิตซ์ นักบินหนุ่ม อายุเพียง 28 ปี จึงก่อโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญถึงขนาดนี้?

ข้อมูลจากกล่องดำ ที่พบในบริเวณเครื่องบินตก บ่งชี้ว่า ลูบิตซ์ ได้ฉวยโอกาสตอนกัปตันลุกเดินออกจากห้องนักบินไปทำธุระส่วนตัว รีบล็อกประตู และไม่ยอมให้กัปตันเข้ามาในห้องได้อีก ในช่วงก่อนเครื่องบินตก อีกทั้งข้อมูลจากเครื่องรับส่งเรดาร์ ยังแจ้งว่า มีคนในห้องนักบินตั้งระบบ ‘ออโตไพลอต’ หรือระบบขับเคลื่อนเครื่องบินโดยอัตโนมัติ ด้วยการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ปรับระดับเพดานบินใหม่ จาก 38,000 ฟุต ให้เหลือเพียง 100 ฟุต!

...

เรียกว่า รายงานดังกล่าวสนับสนุนคำแถลงอัยการฝรั่งเศสให้มีน้ำหนักมากขึ้นไปอีก ว่า นายลูบิตซ์ จงใจบังคับเครื่องบินพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ พาดหัวข่าวนี้ ว่า ‘ตั้งโปรแกรมสังหาร’ เลยทีเดียว

ทำไม หรือเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ ลูบิตซ์ ลงมือก่อหายนะร้ายแรงครั้งนี้ !! ทั้งที่เมื่อพลิกดูประวัติของเขาแล้ว อาชีพนักบิน ถือเป็นอาชีพที่ลูบิตซ์ใฝ่ฝันอยากจะเป็น

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ลูบิตซ์ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมเครื่องร่อน ‘LSC Waterwald e.V.’ ที่เมืองมอนตาบอร์ บ้านเกิด ทางตะวันตกของเยอรมนี มาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มน้อย วัยเพียง 14 ก่อนจะมุ่งมั่นเดินตามความฝันของตนเอง ด้วยการเป็น ‘นักบิน’ อาชีพ

ขณะที่ ตามคำบอกเล่าของเพื่อนสนิทมิตรสหาย และเพื่อนบ้าน ของลูบิตซ์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นักบินผู้ช่วยหนุ่มคนนี้ เป็นคนเงียบๆ แต่ก็มีความสนุกสาน และเขาก็มีความสุขจากการทำงานเป็นนักบินมาก

โดยเพื่อนบ้านยังเล่าวว่า ลูบิตซ์ยังชอบวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นชีวิตจิตใจ และพวกเขามักเห็นลูบิตซ์ วิ่งจ๊อกกิ้งกันเป็นประจำ

ส่วนด้านการเรียน ลูบิตซ์จบระดับมัธยมปลายเมื่อปี 2550 และปีต่อมา เขาก็เข้าเรียนฝึกหัดเป็นนักบินกับโรงเรียนสอนการบินของบริษัทลุฟต์ฮันซา เพียงแต่จากคำแถลงของนายคาร์สเทน สปอห์ร ซีอีโอของบริษัทลุฟต์ฮันซา ซึ่งเป็น ‘บริษัทแม่’ ของสายการบินเยอรมันวิงส์ บอกว่า ลูบิตซ์หยุดพักการเรียนหลายเดือน เมื่อ 6 ปีก่อน แต่เขาก็กลับมาเข้าเรียนการบินอีกครั้ง และสามารถเรียนจนจบตามหลักสูตร

...

ขณะที่นสพ.แทบบลอยด์ ‘เยอรมนี’ รายงานอ้างคำบอกเล่าของเพื่อนนักบินว่า นายลูบิตซ์ เคยเข้ารับการรักษาอาการของโรค Burn-Out Syndrome หรือความเครียดที่เกิดจากภาวะคาดหวังเกี่ยวกับตัวเองสูง
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองไม่แล่น นอนไม่หลับ และทำให้ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง

ตามรายงานของเยอรมัน นิวส์ เว็บไซต์ สปีเกล ระบุว่า ลูบิตซ์ ได้เข้ามาทำงานกับสายการบินเยอรมันวิงส์ เมื่อเดือนก.ย. 2556 เริ่มจากการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ต่อมาได้ทำหน้าที่คอยมอนิเตอร์ หรือติดตามดูอุปกรณ์ต่างๆ ตามด้วย การติดต่อสื่อสารกับหอควบคุมการบิน กระทั่งได้เป็นนักบินผู้ช่วย โดยจะคอยช่วยกัปตันขับเครื่องบินในช่วงที่กัปตันพัก หรือรู้สึกไม่สบาย

บริษัทลุฟต์ฮันซ่า แจ้งว่า ลูบิตซ์ มีชั่วโมงบินรวม 630 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบิน 4U 9525 จะประสบเหตุตก ที่เชิงเทือกเขาแอลป์ หลังทะยานขึ้นจากสนามบินนานาชาติเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เพื่อจะมุ่งหน้าไปยังเมืองดุสเซลดอร์ฟ ของเยอรมนี เมื่อ 24 มี.ค.

...

ส่วน เจ้าหน้าที่ทางการเมืองดุสเซลดอร์ฟ เปิดเผยว่า ลูบิตซ์ได้เข้ารับการตรวจเช็กร่างกายเป็นประจำ ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา และผลการตรวจเช็กร่างกายก็ปกติแข็งแรงดี โดยซีอีโอบริษัทลุฟต์ฮันซา กล่าวว่า ลูบิตซ์แข็งแรงเต็ม 100 % ในการทำหน้าที่เป็นนักบินผู้ช่วย

อย่างไรก็ดี ตามความเห็นของนาย คลาวส์ รัดคี สมาชิกชมรมเครื่องร่อน บอกกับผู้สื่อข่าวเอพีเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เขาเพิ่งเจอลูบิตซ์ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ซึ่งลูบิตซ์ ก็ยังบอกเล่าเกี่ยวกับอาชีพนักบินของเขาด้วยความกระตือรือร้น โดยตามความเห็นของนายรัดคี ยืนกรานไม่เห็นด้วยกับคำแถลงของอัยการฝรั่งเศส ที่บอกว่า ลูบิตซ์จงใจบังคับเครื่องบินพุ่งชนเทือกเขาแอลป์!!

ส่วน ปีเตอร์ รูซเคอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกชมรมเครื่องร่อนแห่งนี้มานาน ยืนยันเช่นกันว่า ลูบิตซ์ ยังดูมีความสุขมาก เมื่อเขาได้เจอครั้งล่าสุด “ผมไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร แต่เท่าที่ผมรู้จัก แอนเดรียส การที่มีคนบอกว่า เขาจงใจทำลายเครื่องบินนั้น เป็นเรื่องที่ผมนึกไม่ถึง” นายรูซเคอร์ กล่าว

คงกล่าวได้ว่า สำหรับความคิดเห็นของเพื่อนร่วมชมรมเครื่องร่อน ที่รู้จักกับลูบิตซ์มานาน ไม่เชื่อว่า นักบินผู้ช่วยหนุ่มผู้นี้ ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก ตามที่นายไบรซ์ โรแบง อัยการฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนโศกนาฏกรรม 4U 9525  แถลง พร้อมกับชี้ว่า เบื้องต้น ไม่พบหลักฐานเบาะแสใดที่บ่งชี้ว่า ลูบิตซ์ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย เพียงแต่นายโรแบง ก็ปฏิเสธที่จะพูดเกี่ยวกับ ปูมหลังด้านการนับถือศาสนาของ  ลูบิตซ์

...

ขณะที่นายสปอห์ร ซีอีโอของบริษัทลุฟต์ฮันซา ซึ่ง มีสีหน้าเศร้ามาหลายวัน กล่าวสั้นๆ ว่า เขา ‘พูดไม่ออก’ เมื่อได้ยินคำแถลงของอัยการฝรั่งเศส และยังคงไม่สามารถเรียกหายนะครั้งนี้ ว่า เป็นการ ‘ก่อการร้าย’ หรือ เป็นการ ‘ฆ่าตัวตาย’ ของนักบินผู้ช่วยคนนี้ เพราะหากคนๆ เดียวคิดฆ่าตัวตายแล้วละก็ คงไม่ลากคนอื่นอีก 149 คนมาตายพร้อมเขาไปด้วยแน่

ภาพถ่ายของลูบิตซ์ ที่นั่งยิ้มอยู่ด้านหน้าสะพานโกลเดน เกต ในนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเขานำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถือเป็นรูปถ่ายภาพเดียวที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ หลังเรื่องราวโศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U 9525 พลิกกลับตาลปัตร อย่างคาดไม่ถึง

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็น ‘งานหนัก’ ของทีมสอบสวนที่ต้องพยายามหาหลักฐานต่างๆ มาพิสูจน์ยืนยันว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจ หรือสาเหตุที่ทำให้ลูบิตซ์ ตัดสินใจจบชีวิตตนเอง พร้อมกับยังทำให้ผู้โดยสาร และลูกเรืออีก 149 คน ต้องจากไปพร้อมกับเขาด้วยอย่างน่าสะเทือนใจเช่นนี้!!