ทพ.ร่วมกับตำรวจ ทหาร และพิทักษ์ป่า บุกจับแก๊งพรานและคนตัดไม้ที่หากับป่าเขาอ่างฤาไน ผู้ต้องหา6คนกำลังชำแหละซากกวางขนาดใหญ่ ตะลึงมีปืนเพียบ ทั้งไรเฟิล อูซี่ อ้างแค่รับซื้อจากคนล่ามาแล่เนื้อขาย  แฉมีหลายกลุ่มที่รุมทึ้งป่าผืนนี้...   

เมื่อเวลา18.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2558  ร.ต.เดชสิทธิ์ ดำดง ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1306 กรมทหารพรานที่ 13 ได้รับแจ้งจากอาสาสมัครพิทักษ์ป่าว่า มีกลุ่มชาวบ้าน4-5 คนกำลังช่วยกันชำแหละซากสัตว์ป่าอยู่บริเวณด้านหลังบ้านเลขที่ 98 ม.7 บ้านร่มโพธิ์ทอ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จึงประสานขอกำลังจากนายประยูร พงษ์พันธุ์ หน.ศูนย์จัดการหน่วยพิทักษ์ป่าที่ 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พ.ต.ท.พิริยะพงษ์ พงษ์สุวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าตะเกียบ ร.ต.มรกต แก้วกล้า หน.ชุดควบคุม ร้อย รส.ร.112 พัน 1 พล.ร.11 นำกำลังเข้าตรวจสอบ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน คือ นายลิขิต บุญธรรม หรือกึ่ม อายุ 28 ปี เจ้าของบ้าน หัวหน้าแก๊ง พร้อมพวกอีก 5 คนมีนายจิระศักดิ์ แก้วบุญเรือง อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา นายสมาน งามล่ำ อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.สำเภาอุน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ น.ส.รสนา งามล่ำ อายุ 32 ปี นางพรสวรรค์ สุขยินดี อายุ 26 ปี อยู่ชาวบ้าน ม.14 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ และนางแจ๋ว สุขยินดี อายุ 62 ปี

ยึดของกลางอาวุธปืนอูซี่ 1 กระบอก ปืนยาวไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนยาวอัดลม 1 กระบอก ปืนลูกกรดยาว 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 107 นัด กระสุนปืน AK-47 ขนาด 7.62 มม.จำนวน 15 นัด กระสุนปืนคาร์บิน กระสุนลูกซองเบอร์ 12 อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุตเศษอีก 6 เล่ม

...

นอกจากนี้ ยังพบซากกวางป่าเพศเมียขนาดใหญ่ถูกชำแหละตัดส่วนหัวไปแล้ว 1 ซาก เนื้อกวางชำแหละ 40 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง วิทยุมือถือสื่อสาร 2 เครื่อง ตราชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง ถังแช่เนื้อ 2 ถัง ไฟฉายส่องสว่าง 5 กระบอก เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก 1 เครื่อง

จากการตรวจค้นบริเวณบ้านอย่างละเอียด ยังพบไม้ตะเคียนแปรรูปขนาดใหญ่ 2 ท่อน อยู่บนรถอีแต๋น โดยมีการนำดินมากลบทับปิดอำพรางเอาไว้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจอายัดรถจักรยานยนต์ 4 คัน และรถยนต์กระบะอีซูซุดีแม็คซ์สีขาว ทะเบียน บม 7941 ฉะเชิงเทราอีก 1 คัน

สอบสวนนายลิขิต บุญธรรม หรือกึ่ม ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่ได้เป็นคนพาพวกออกไปล่าสัตว์ เพียงแต่รับซื้อมาจากพ่อค้าคนหนึ่ง ชื่อนายเก่ง บ้านอยู่เขาพริกในเขตอ.บ่อทอง จ.ชลบุรี โดยซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 120 บาท แล้วนำมาชำแหละขายต่อในหมู่บ้านกิโลกรัมละ 200 บาท โดยนายเก่ง จะมีทีมงานออกล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน บริเวณเขาพริก ทั้งกวาง เก้ง หมูป่า ก่อนนำไปมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ฉะเชิงเทราและชลบุรี ซึ่งล่าสุดได้รับซื้อเนื้อกวางป่าและซากหนังมาจากนายเก่ง ส่วนหัวและเนื้อบางส่วน นายเก่งเอาไปขายให้ลูกค้าคนอื่นแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ตามพรบ.คุ้มครองสัตว์ป่า และ พรบ.อาวุธปืน นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านร.ต.เดชสิทธิ์ ดำดง ผบ.ร้อย ทพ.1306 กรมทหารพรานที่ 13 กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นรายสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดไม้ และล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนมานาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าแกะรอยติดตามดูพฤติกรรมมานานเช่นกัน จนกระทั่งสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง ทั้งเนื้อสัตว์ป่า ไม้ตะเคียนท่อน2ท่อน และแปรรูปอีกจำนวนหนึ่ง

ร.ต.เดชสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากป่าเขาอ่างฤาไน มีพื้นที่กว้างใหญ่มากครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออกคือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้วและฉะเชิงเทรา ยังเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดของภาคตะวันออก ทั้งทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า จากความหลากหลายของพื้นที่ป่าผืนนี้ ขบวนการลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า จึงมีอยู่ในหมู่บ้านรอบๆป่าหลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง บ้านเขาพริก บ้านเขาวง บ้านเขากล้วยไม้ บ้านหนองขาหยั่ง ในเขตอ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา อุปกรณ์ที่ใช้ดักส่วนใหญ่จะเป็นบ่วงแร้วทำด้วยลวดสลิง แร้วคันเบ็ด เป็นต้น ส่วนอาวุธก็มีปืนแก๊ป ปืนอัดลมหรือปืนลูกซองยาวใส่ลูกโดด สำหรับล่าสัตว์ใหญ่ จำพวก กระทิง วัวแดง จึงเป็นการยืนยันได้ว่า กลุ่มพรานกลุ่มนี้ตั้งใจเข้าไปล่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่

ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 1306 กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากกลุ่มพรานซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆป่าแล้ว ยังมีกลุ่มพรานจากนอกพื้นที่ในเขตอ.พนมสารคาม สนามชัยเขต และอ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งจากพื้นที่จ.ชลบุรี ติดต่อว่าจ้างชาวบ้านให้เป็นผู้นำทางเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกกลุ่มหนึ่งคือ คนในพื้นที่ซึ่งไปทำงานอยู่ตามจังหวัดต่างๆหรือในกรุงเทพ ก่อนถึงหน้าเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ จะติดต่อกลับไปภูมิลำเนา ให้เตรียมเนื้อสัตว์ป่าเอาไว้ฉลอง โดยชักชวนเพื่อฝูงที่ทำงานด้วยกัน ไปร่วมฉลองด้วย

"ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปราม ตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกควบคู่กันไปทั้งลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ รวมทั้งได้ดำเนินการฝึกอบรมสร้างเครือข่ายภาคประชาชนตามหมู่บ้านรอบป่าทั้ง 5 จังหวัด คอยสอดส่อง เป็นหูเป็นตาและแจ้งข้อมูลความเคลื่อนไหวของพรานป่าหรือกลุ่มคนแปลกหน้าที่เข้าไปในป่า อบรมให้ความรู้ สร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านรักป่า หวงแหนป่า ตามพระราชเสาณีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า ‘พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า’ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี" ร.ต.เดชสิทธิ์ กล่าว.

...