หมอณรงค์ ปลัด สธ. เดินทางมาอุบลฯ ร่วมงาน "ธรรมาภิบาลในกลไกการอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารณสุข" ย้ำ ไม่ยึดติด ตำแหน่งก็แค่หัวโขน ทบทวนคำสั่งหรือไม่ ให้คนย้ายไปคิดเอาเอง
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 13 มี.ค.58 ที่สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี บรรดาแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จังหวัดอุบลราชธานี ต่างมารวมตัวกันถือป้ายข้อความให้กำลังใจ และรอมอบช่อดอกไม้ให้กับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถูกคำสั่งย้ายด่วนให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาร่วมกิจกรรมของกระทรวงสาธารณสุข ที่จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยเที่ยวบินสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบิน DD9312 โดยมีนายแพทย์สุรพล ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดอุบลราชธานี และนายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ร่วมต้อนรับและให้กำลังใจด้วย
สำหรับการเดินทางมาจังหวัดอุบลราชธานีในครั้งนี้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากได้รับการเชิญให้มาเป็นประธานเปิดงานประชุมโครงการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างระบบธรรมาภิบาล ในกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 3/2558 ณ ห้องสัตตบงกช แกรนด์ โรงแรมอุบลบุรี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมร่วมบรรยายในหัวข้อ "ธรรมาภิบาลในกลไกการอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารณสุข" ซึ่งถูกเชิญไว้นานแล้ว แต่เมื่อมีคำสั่งย้าย จึงมาร่วมงานในฐานะผู้บรรยาย และนายวัชระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานแทน โดยการประชุมในครั้งนี้ มีบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในเขตพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด 20 จังหวัด มาร่วมประชุมกว่า 100 คน
...
โดย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย หลังได้รับดอกไม้ให้กำลังใจว่า ตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ตำแหน่งเป็นเพียงหัวโขน และไม่อยากให้เรื่องย้ายตนทำให้แนวคิดปฏิรูปประเทศของรัฐบาลต้องชะงัก และในกระทรวงสาธารณสุขยังมีงานที่ต้องทำการปฏิรูประบบอยู่หลายอย่าง สำหรับการที่มีกลุ่มแพทย์ชนบทออกมาเคลื่อนไหว ให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งย้ายตนนั้น ต้องให้คนที่สั่งย้ายไปคิดเอาเอง ตนไม่มีความเห็นและยังคงเดินหน้าทำงานตามปกติในฐานะหมอคนหนึ่งต่อไป
ขณะที่ นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนตัวที่ได้ทำงานกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ในตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาประมาณ 2 ปี ตนรู้สึกเสียดาย เพราะท่านเป็นคนดี ทำงานเพื่อประชาชน ส่วนการเคลื่อนไหวของบุคลากรในโรงพยาบาลตนไม่ได้ห้าม เป็นอิสระทางความคิดของแต่ละคน ซึ่งต้องอยู่ในขอบเขต และไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน.