ชาวเมืองเชียงใหม่ เตรียมตัวรับปัญหาหมอกควันปกคุลมเมืองในหน้าแล้ง ที่มีสาเหตุมาจากการเผาป่า ผวจ.แถลง ทำทุกวิถีทาง ล่าสุด จับเผาป่าแล้ว 1 ราย ขณะที่ หน.ส่ิงแวดล้อม ระบุ ปีนี้ใบไม้แห้งในป่ามีมาก ปัญหาไฟป่าส่อเค้ารุนแรง...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 58 นายชนะ แพ่งพิบูลย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถึงการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในหน้าแล้ง ที่เข้ามาปกคลุมเมืองเชียงใหม่ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและการท่องเที่ยวของเชียงใหม่า ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยทำงานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งศูนย์วอร์รูมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมมีการเผยแพร่รณรงค์ประชาชนสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดเผา และแบ่งเวลาในการชิงเผา
นายชนะ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าไปแล้ว 1 ราย ในพื้นที่ อ.อมก๋อย และอยู่ในห้วง 60 วันห้ามเผา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย. 58 ซึ่งปัญหาที่พบจากการดูจุดฮอตสปอตแผนที่พิกัดดาวเทียม พบว่า ไฟป่าเกิดจากพื้นที่ป่าสงวนฯ มากที่สุด เนื่องจากมีประชาชนเข้าไปอาศัยทำกินอยู่ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่าสงวนฯ ทำให้มีการเผาไร่เผาป่ากันมาก และกำลังประสานไปยังกรมป่าไม้หาแนวทางแก้ไขอยู่ ประกอบกับขณะนี้มีลมฝ่ายใต้ได้พัดเอาหมอกควันไฟป่ามาจาก จ.ลำปาง และลำพูน เข้ามายัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ ทำให้มีหมอกควันไฟหนาขึ้น
"วันนี้ ค่า AQI ของคุณภาพอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังอยู่ที่ 68 ยังไม่เกินมาตรฐานที่ 100 และค่าปริมาณฝุ่นละอองขณาดเล็ก PM 10 อยู่ที่ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังไม่เกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษที่ 120 ถือว่าคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ได้ไปหารือกับศูนย์ฝนหลวงภาคเหนือ ซึ่งทางศูนย์ฯพร้อมจะขึ้นทำฝนหลวง หากความชื้นในอากาศมีเพียงพอ ขณะเดียวกันนั้น หากสถานการณ์วิกฤติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของอากาศยานของสนามบินเชียงใหม่ ทางจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อขอสนับสนุนเครื่องบิน ซี 130 บรรทุกน้ำจำนวน 1 หมื่นลิตรต่อเที่ยว มาบินโปรยน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นในอากาศ" ผวจ. เชียงใหม่ กล่าว
...
ทางด้าน นายประหยัด อนันต์ประดิษฐ์ หน.กลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าปี้นี้จะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณเชื้อเพลิงใบไม้สะสมอยู่ในป่าจำนวนมาก และปัญหาไฟป่าก็เกิดจาก 5 อำเภอเสี่ยงภัย ที่เกิดปัญหาซ้ำซากในพื้นที่ทางตอนใต้ ได้แก่ อ.ฮอด อมก๋อย จอมทอง แม่แจ่ม และเชียงดาว ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 1,000 หมู่บ้าน ที่ต้องเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่า.