รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับอธิบดีกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่สถานทูตลาวประจำประเทศไทย เปิดตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ จากทั้งหมด 30 ตู้ ส่งมาจากลาวผ่านประเทศไทยจะส่งต่อไปยังประเทศจีน สงสัยมีการซุกซ่อนไม้พะยูง เถื่อนของไทย พบไม้พะยูงซุกอยู่ในตู้กว่าครึ่ง รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเผยสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ตรงกับในใบแสดงสินค้า ส่วนจะเป็นไม้พะยูงหรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบ พร้อมเตรียมเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่เหลือเพื่อตรวจสอบ
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์จากประเทศลาวเชื่อซุกไม้พะยูงไทยส่งต่อไปจีนรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่ห้องประชุมศูนย์เอกซเรย์ สำนักงานศุลกากรแหลมฉบัง ภายในท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่ศุลกากรแหลมฉบัง ตัวแทนท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยนางสุพัน แก้วคำเพ็ด ที่ปรึกษาทูตเศรษฐกิจและการค้า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประจำประเทศไทย ร่วมประชุมทำข้อตกลงในการเปิดตู้สินค้าตู้คอนเทนเนอร์ 30 ตู้ ที่ส่งมาจาก สปป.ลาว เพื่อส่งต่อไปยังประเทศจีน โดยมีการสำแดงว่าเป็นไม้ประดู่ ซึ่งมีการตรวจดูภาพจากเครื่องเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ มีพิรุธเนื่องจากน้ำหนักเกินกว่าที่สำแดงไว้ตู้ละ 15-30 ตัน ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้น พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไปที่ท่าเทียบเอ-0 อยู่ห่างศูนย์เอกซเรย์ สำนักงานศุลกากรแหลมฉบัง ราว 300 เมตร พบว่าตู้ที่ 1 มีกระสอบบรรจุไม้แปรรูปกว่า 10 กระสอบ วางปิดบังด้านหน้า ด้านในมีท่อนไม้พะยูงขนาดใหญ่วางซ้อนกันเป็นจำนวนมาก ส่วนอีก 5 ตู้ที่เหลือมีไม้พะยูงแปรรูปกว่าครึ่งค่อนตู้คอนเทนเนอร์ ที่เหลือจะเป็นไม้ชิงชัน และไม้ประดู่แปรรูป ยัดด้วยกล่องใส่เมล็ดพันธุ์ไม้หายากต่างๆ
...
สำหรับการเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้รับรายงานจากสายว่า จะมีการลักลอบนำไม้พะยูงจากประเทศไทยส่งไปบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ที่ สปป.ลาว แล้วผ่านกระบวนการศุลกากรส่งกลับเข้ามาในไทยเพื่อส่งต่อ ไปยังประเทศจีน กระทั่งวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพบตู้คอนเทนเนอร์ 30 ตู้ ประทับตราผ่านกระบวนการศุลกากรลาวขนส่งทางแพข้ามมาประเทศไทยที่ท่าแม่น้ำโขง บ้านนาหินโหง่น ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี พื้นที่ความรับผิดชอบของด่านศุลกากรเขมราฐ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าตรวจ สอบแต่บริษัทที่รับขนย้ายได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเปิดอ้างว่าต้องขออนุญาตผ่านสถานทูตตามสนธิสัญญาไซเตส เนื่องจากเป็นสินค้าผ่านแดน เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงอายัดตู้สินค้าไว้ทั้ง 30 ตู้ เพื่อตรวจสอบดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยว่า วันนี้ได้เอกซเรย์และสุ่มตรวจตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้จากทั้งหมด 30 ตู้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมทั้งมีตัวแทนจากบริษัทนำเข้าสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ด้วย เบื้องต้นพบว่าสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ไม่ตรงกับในใบแสดงสินค้า ส่วนไม้ในตู้ทั้ง 6 ตู้ที่เปิดจะเป็นไม้หวงห้าม หรือไม้พะยูงหรือไม่ ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้มาตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงทราบผล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนายหนึ่งเปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้หากพบมีการกระทำผิดกฎหมายต้องแยกเป็นส่วนๆ การแจ้งเท็จผิดสำแดง สำนักงานศุลกากรจะเป็นผู้รับผิดชอบไม้พะยูง ไม้ต้องห้ามนำออกต่างประเทศ กรมป่าไม้จะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนในการดำเนินคดี ดีเอสไอรับผิดชอบ สำหรับการลักลอบส่งออกไม้พะยูงไปต่างประเทศนั้น เดิมจะมีการตัดไม้ในไทยก่อนส่งออกไปยังลาวผ่านประเทศเวียดนามไปยังปลายทางที่จีน แต่เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างเวียดนามและจีน ทำให้มีการเปลี่ยนเส้นทางลักลอบขนไม้โดยยังเป็นการตัดไม้จากไทย ส่งไปบรรจุใส่คอนเทนเนอร์ที่ลาว ก่อนขนย้อนกลับ เข้าไทยเพื่อส่งขึ้นเรือไปถึงประเทศปลายทางคือจีน ซึ่งคาดว่าไม้พะยูงที่พบในวันนี้มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท
ที่กรมป่าไม้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดการไม้ของกลางที่มีค่า (ไม้พะยูง ไม้สัก) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม โดยที่ประชุมอนุมัติให้ไม้พะยูงและไม้สักที่คดีสิ้นสุดแล้ว ซึ่งวางกองอยู่ตามศูนย์ต่างๆ ของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 1,400 คิวบิกเมตรให้กรมยุทธโยธาทหารบก ดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ ตามที่กองทัพบกทำหนังสือร้องขอมา โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบตัวอาคาร ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ มอบไม้ของกลางมีค่าให้หน่วยราชการอื่นจำนวนมากขนาดนี้ ทั้งนี้มีการแจ้งในที่ประชุมว่า ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณมาแล้วสำหรับการขนส่งไม้มีค่าดังกล่าวจำนวน 2.4 ล้านบาท ซึ่ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว. ทรัพยากรฯ มีคำสั่งว่า จะต้องขนย้ายไม้ทั้งหมดมาไว้ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จ.พระนครศรีอยุธยา ให้เสร็จภายในเดือนนี้
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า การส่งมอบไม้มีค่า โดยเฉพาะไม้พะยูงกับไม้สักของกลางที่คดีความสิ้นสุดแล้ว 1,400 คิวบิกเมตร ครั้งนี้เป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ที่สุดตามนโยบายรัฐบาล ที่จะนำเอาไม้มีค่าไปใช้ประโยชน์ในหน่วยราชการวัด หรือมูลนิธิ แทนการเอาไปเผาทิ้ง หรือนำไปขายในท้องตลาด การขนย้ายไม้พะยูง จะตรวจสอบร่วมกันอย่างเข้มงวด รถบรรทุกที่ผ่านเส้นทางของกรมทางหลวงจะต้องผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำด่านป่าไม้ทุกจุด ก่อนนำไปส่งให้ อ.อ.ป.ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา รถทุกคันที่ขนไม้ไปนั้นจะติดระบบติดตามจีไอเอสเพื่อติดตามการขนย้ายอย่างใกล้ชิดด้วย