นายกฯร่วมกราบ ครูเก่านวลนรดิศ

นายกฯร่วมงานวันครูประจำปี 2558 ที่คุรุสภาพร้อมกราบคารวะคุณครูสมัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมที่สอนเลขและภาษาอังกฤษ ย้ำคำจะเร่งแก้ปัญหาหนี้สินของครู สั่งกระทรวงศึกษาธิการคืนเวลาสอนแก้ระบบการประเมิน ชี้การสอนเด็กต้องใช้ทั้งไม้แข็ง ไม้อ่อน ย้ำตนเองได้ดิบได้ดีโตมาได้เพราะไม้เรียว ด้านครูนายกฯปลื้มลูกศิษย์สุดยอดรู้ปัญหาบ้านเมืองดี เรียกร้องทุกฝ่ายให้กำลังใจเลิกชูนิ้วต่อต้าน ขณะที่คุรุสภายื่นข้อเสนอเรียกร้องคืนความสุขให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง ส่วนงานวันครูทั่วประเทศคึกคัก ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมน้อมรำลึกพระคุณครู

เวียนมาบรรจบอีกปีสำหรับ “วันครู” ที่ตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปีและถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง โดยเป็นวันที่ศิษย์ทุกคนจะพร้อมใจกันน้อมรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ที่คอยอบรมสั่งสอน ศิษย์ ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ศิษย์ ซึ่งความรับผิดชอบในการอบรมสั่งสอนของคนเป็นครู นับเป็นภาระหน้าที่ ที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ เพราะกว่าคนคนหนึ่งจะเติบโตมีวิชาความรู้ ผู้เป็นครูต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดและเปรียบเสมือนเป็นครูคนแรก ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ที่เป็นครูจะให้วิชาความรู้เท่านั้น ครูบางคนยังดูแลแม้กระทั่งการใช้ชีวิตของลูกศิษย์ เพื่อหล่อหลอมให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม สำหรับคำขวัญวันครูปีนี้ มาจากฝีมือการประพันธ์ของเด็กหญิงอนุสรา ชื่นบาล จังหวัดอ่างทอง ที่ชนะเลิศประกวด ได้แก่ “เกียรติครูยิ่งใหญ่ น้อมใจบูชา เลิศล้ำคุณค่า ศรัทธาพระคุณ”

ทั้งนี้ ในวันครู 16 ม.ค.58 มีการจัดกิจกรรมแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแก่เหล่าบูรพาจารย์ทั่วประเทศ โดยในส่วนกลาง กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดงานวันครูเป็นครั้งที่ 59 ภายใต้หัวข้อ “ครูดีศรีแผ่นดิน” ที่คุรุสภาและเมื่อเวลา 07.30 น. หลังเสร็จพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันครูแล้ว พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา เดินทางไปยังหอประชุมคุรุสภา ถวายเครื่องสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประธานอนุกรรมการจัดงานวันครู อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ และนางจุไรรัตน์ แสงบุญนำ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดคำฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ทำนองสรภัญญะ ต่อมานายชัยอนันต์ แก่นดี ครูอาวุโสในประจำการ นำผู้ร่วมชุมนุมกล่าวคำปฏิญาณตน

...

เวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงานและคารวะครูอาวุโส สมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัด นวลนรดิศ ได้แก่ นางบุญมา รัตนอุบล และนางวิจิตรา ไชยภัฎ พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับรางวัลคุรุสภา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่าวันนี้ถือเป็นวันมงคล สิ่งแรกที่ตนนึกถึงคือ นึกถึงคุณแม่ เพราะแม่เป็นครู ที่สอนให้ตนเป็นคนดีมาจนถึงวันนี้และมีโอกาสได้พบกับครูที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ รวมถึงได้พบกับครูที่ได้รับรางวัล ถือเป็นตัวแทนของครูทั่วประเทศ วันนี้เป็นวันครูของแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานแนวทางและแนวคิดไว้แล้วแต่ปัญหาคือ จะนำไปสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ตัวอย่างเช่น ในกองทัพมีด็อกเตอร์ไม่ต่ำกว่า 300 คน แต่ปัญหาคือ ทำงานร่วมกันไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนทำอะไรด้วยความตั้งใจ อดทน และอยากทำ แต่บางครั้งการบังคับก็มีความจำเป็น

นายกฯกล่าวอีกว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไป การศึกษาต้องก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก และทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนตัวตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหาในทุกเรื่อง โดยขณะที่มอบรางวัลให้ครู มีครูบางคนมากระซิบอยากให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน และสวัสดิการครู เรื่องนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงไปรื้อดูว่าจะแก้อะไรได้อย่างไร รวมถึงปัญหาในเรื่องอื่นๆที่ต้องไปดู ทั้งเวลาของครูที่หายไปจากห้องเรียน ทั้งที่ถูกเกณฑ์ไปรับผู้ใหญ่ เสียเวลาไปกับการประเมิน ส่วนเรื่องปัญหาการกวดวิชา ไม่ได้ห้าม แต่กระทรวงต้องไปแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้ปกครอง

นายกฯกล่าวอีกว่า ต้องไปคิดว่า จะสร้างคนอย่างไรให้มีคุณภาพทัดเทียมนานาชาติ ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ ต้องอาศัยกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพหลัก ในการสร้างคนให้มีความรู้คู่คุณธรรม มีเหตุมีผล ไม่ถูกชักนำไปได้ง่าย การสอนเด็กต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง เมื่อก่อนก็ถูกตีถึงโตขึ้นมาเป็นตนทุกวันนี้ และเรียนรู้ว่าถ้าเราไม่ทำผิดก็จะไม่ถูกตี แต่เดี๋ยวนี้ครูตีเด็กไม่ได้ เพราะจะถูกฟ้องร้อง จึงต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าจะทำอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องการขึ้นเงินเดือนครู จะขึ้นให้เฉพาะครูไม่ได้ เพราะต้องอิงกับระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน แต่อาจทำได้ในรูปแบบการให้ค่าตอบแทนพิเศษ

ในช่วงท้ายของการปราศรัย นายกฯได้ขอให้ครูในห้องประชุมร่วมกันร้องเพลงแม่พิมพ์ของชาติ หลังเพลงจบ นายกฯได้กล่าวว่า เมื่อฟังแล้วน้ำตาจะไหล คิดถึงแม่ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดเพลงพระคุณที่สามให้ผู้ที่มาร่วมงานในหอ ประชุมฟัง และบอกว่า อยากให้ ศธ.เผยแพร่เพลงเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

จากนั้นนายนิวัตร นาคะเวช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา มอบข้อเสนอเพื่อการพัฒนาวิชาชีพต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันครู 16 ม.ค.58 โดยเรียกร้องให้คืนความสุขให้นักเรียน ด้วยการกำหนดนโยบายห้ามครูทอดทิ้งงานสอนไปทำหน้าที่อื่นในระหว่างที่มีภาระงานสอน พร้อมมีกฎหมายกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสื่อ ตำราเรียน คืนความสุขให้สังคม ด้วย การกำหนดนโยบายให้บรรจุนักศึกษาทุนครูมืออาชีพไปสอนยังโรงเรียนที่คุณภาพต่ำ และเร่งพัฒนาโรงเรียนทุกโรงให้มีคุณภาพเท่าเทียมกัน กำหนดนโยบายเร่งด่วนให้มีการติดตั้งอินเตอร์เน็ตสาธารณะความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และคืนความสุขให้ครู ด้วยการกำหนดนโยบายให้ครูเอกชนมีวิทยฐานะเช่นเดียวกับครูสังกัดอื่น ให้ข้าราชการครูและคณาจารย์เกษียณอายุราชการตามปีการศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งให้ครูมีบัญชีเงินเดือนให้เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นเดียวกับบัญชีเงินเดือนของข้าราช อัยการหรือตุลาการ

...

ด้านนางบุญมา รัตนอุบล ครูของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอนวิชาคณิตศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ในสมัย ม.ต้น กล่าวว่า ครูอวยพรให้ท่านนายกฯทำงานให้ดี ช่วยชาติบ้านเมือง และไม่ได้ฝากอะไร เพราะมีคนฝากปัญหาถึงนายกฯมากแล้ว แต่อยากเรียกร้องให้เราทุกคนช่วยกันให้กำลังใจนายกฯ อย่ายกนิ้วอะไรให้ท่านอีกเลย และจากการที่ครูนั่งฟัง นายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องของครูเกือบ 2 ชั่วโมง รู้สึกซาบซึ้งและคิดว่าสุดยอดจริงๆ เพราะท่านก็มีแม่เป็นครู ภรรยาก็เป็นครู จึงเชื่อว่านายกฯ พร้อมที่จะช่วยเหลือครูแน่นอน แต่ครูก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการทำหน้าที่ของครูให้ดีที่สุด

ส่วนนางวิจิตรา ไชยภัฎ ครูสอนภาษาอังกฤษนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครูบอกกับนายกฯว่า ครูภูมิใจ และขอให้รักษาสุขภาพ