เรียกว่ากลายเป็นเรื่องร้อนอีกเรื่อง เมื่อมีผู้เผยแพร่ คลิปสุดฉาว เป็นภาพหญิงเปลือยกาย แสดงกิริยาไม่เหมาะสมภายในฟิตเนสแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่ เอบิ เซาน่า แอนด์ ฟิตเนส ภายในซอยโรจนมิน เขตวังทองหลาง ซึ่งพบ นายสุรพันธุ์ สุระวัฒนาพงศ์ ผู้จัดการร้านดังกล่าว ทั้งนี้ นายสุรพันธุ์ ได้เปิดเผยกับ "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยออนไลน์" อย่างหมดเปลือก

นายสุรพันธุ์ เล่าว่า ได้เปิดธุรกิจ เซาน่า แอนด์ ฟิตเนส มาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการเป็นลูกค้าประจำ โดยในแต่ละวันจะมีลูกค้ามาใช้บริการประมาณ 100 คน ต่อวัน ในช่วงระยะเวลาที่เปิดทำการ ตั้งแต่ 12.00-00.00 น. โดยคิดค่าบริการหัวละ 200 บาท โดยลูกค้าที่มาใช้บริการจนเกิดเรื่องนั้น เบื้องต้นเป็นกลุ่มลูกค้าประจำ ที่รู้จักคุ้นเคยกันดี โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ได้บอกกับตนว่า วันที่เกิดเรื่องนั้น มีการจัดฉลองปีใหม่กันในกลุ่ม แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาทำอะไรแบบนี้ คาดว่าด้วยความสนุกจนทำให้เกิดเหตุเรื่องเลยเถิดขึ้น

...

นายสุรพันธุ์ กล่าวต่อว่า หลังจากมีคลิปแพร่กระจายออกไป จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่ร้าน ตนเองก็ไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มลูกค้าที่จัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงจนเลยเถิดดังกล่าวได้ จนถึงกระทั่งตอนนี้ ส่วนจะมีการฟ้องร้องกับกลุ่มบุคคลที่ทำให้ธุรกิจเสียหายหรือไม่นั้น คงยังบอกไม่ได้ เพราะคงต้องหารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

นายสุรพันธุ์ ยืนยันในท้ายที่สุดว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ดำเนินธุรกิจมา ไม่เคยมีการทำอะไรผิดกฎหมาย และที่ผ่านมาลูกค้าที่มาใช้บริการ ก็ไม่เคยมีการทำอะไรผิดกฎหมายเช่นกัน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ทำให้ธุรกิจเสียชื่อเสียง แต่เชื่อมั่นว่า หลังจากได้ชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ากลับคืนมาได้แน่นอน

ขณะที่ อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การอ้างว่าลูกค้ามาจัดงานเลี้ยงแล้วออกมาลักษณะนี้นั้น คิดว่าอ้างไม่ขึ้น เพราะตัวเองเป็นเจ้าของกิจการแล้วลูกค้ามาจัดทำอะไรนอกเหนือการควบคุมนั้น คิดว่าไม่สามารถอ้างได้ นอกเสียจากว่าเป็นการเช่าสถานที่จัดงาน เช่น งานอีเวนต์ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นก็ยังพออ้างได้ แต่หากทำธุรกิจในลักษณะแบบนี้ คิดว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้

อ.ประมาณ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีหญิงสาวเปลือยกาย อาจจะโดนข้อหาอนาจาร มีโทษปรับ ส่วนเจ้าของกิจการ อาจจะโดน มาตรา 287 คือ ผู้ใด ทำเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้า ในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือ ยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือ สิ่งอื่นใดอันลามก ซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก หมายถึงการแสดงนี้ด้วย จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน

แต่หากเป็นธุระจัดหา อาจจะเข้าข่ายมาตรา 282 ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 3-15 ปี และปรับตั้งแต่ 6,000 บาทถึง 30,000 บาท ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุไม่เกิน 15 ปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท

...

อ.ประมาณ กล่าวยังบอกอีกว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องมาดูที่ใบอนุญาต เพราะไม่ว่าจะประกอบกิจการใดก็ต้องมีใบอนุญาต แต่หากทำแบบนั้นจริงๆ ก็ไม่มีใครอนุญาตอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้อาจจะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ซึ่งอาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้

"ส่วนหากเป็นอย่างที่เขาอ้างจริง ว่าลูกค้าแอบมาจัดงานในลักษณะดังกล่าว เจ้าของกิจการสามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้ ส่วนจะเสียหายเรียกเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของทางร้าน นอกจากนี้ ยังโดนคดีอาญา ที่ทางเจ้าพนักงานจะต้องดำเนินคดีต่อด้วย" อ.ประมาณ กล่าว