สปช.มีมติเห็นชอบ โครงการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ภาคครัวเรือน ช่วยลดปริมาณไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้า ทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟ ตั้งเป้า 5 ปีแรก มีการติดตั้งโซลาร์รูฟ 1 แสนชุด...
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช.เป็นประธาน เพื่อพิจารณารายงานการศึกษาเรื่อง โครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี (ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและอาคาร) ตามที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สปช. พิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร กรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ระบบโซลาร์รูฟเป็นการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งอยู่บนหลังคาของบ้านและอาคาร ผู้ติดตั้งสามารถใช้ไฟฟ้าที่ตัวเองผลิตได้ ช่วยลดปริมาณไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้า ทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ขณะเดียวกันปริมาณไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้ ยังขายให้แก่การไฟฟ้าเพื่อเป็นรายได้เสริมได้อีก
โครงการดังกล่าวดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องรอกฎหมายใหม่ เพียงแค่ครม.มีมติส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี ก็สามารถดำเนินโครงการได้ทันที คาดว่าช่วง 5 ปีแรก ปี 58-63 จะมีโซลาร์รูฟ ขนาดไม่เกิน 10 กิโลวัตถ์ สำหรับบ้านอยู่อาศัย เกิดขึ้น 1 แสนชุด มีกำลังการผลิต 500 เมกกะวัตต์ และในอนาคต 20 ปี จะมีการติดตั้ง 1 ล้านชุด มีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 5,000 เมกะวัตต์ หากรัฐบาลส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์อย่างครบวงจรแล้ว ประเทศไทยจะก้าวเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของอาเซียนใน 10 ปีข้างหน้า
จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกสปช.แสดงความเห็น ซึ่งสปช.ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ติดตั้งโซลาร์รูฟเสรี แต่มีข้อท้วงติงในรายละเอียดหลายเรื่อง อาทิ ขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยกู้แก่ประชาชนที่จะนำเงินมาติดตั้งโซลาร์รูฟ เนื่องจากการติดตั้งระบบดังกล่าวใช้เงินค่อนข้างสูง ตลอดจนความคุ้มค่าในการคืนทุน อาจจะไม่ใช่ระยะเวลา 10 ปีตามที่คณะกรรมาธิการฯระบุ แต่อาจนานถึง 30 ปี ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าในการลงทุน ขณะเดียวกันขอให้รัฐบาลสนับสนุนการทำวิจัยเรื่องการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพราะเป็นพลังงานที่สะอาด และฟรี หากนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของประเทศ
...
ภายหลังสมาชิกสปช.อภิปรายจนครบทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบในหลักการรายงานการศึกษาเรื่อง โครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟ ด้วยคะแนน 206 ต่อ 15 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสปช. เพื่อนำรายงานดังกล่าวส่งให้ครม.พิจารณาต่อไป.