ชาวบ้าน ต.พวา อ.แก่งหางแมว ผวาโขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ลงจากเขามาหากินในพื้นที่การเกษตร แตกตื่น ไม่กล้าออกไปกรีดยางในช่วงกลางคืนหวั่นอันตราย ด้าน จนท.จัดกำลังคุ้มครองหวั่นกระทบกับชาวบ้าน เตรียมผลักดันช้างป่ากลับเขา
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ม.9 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี หลับรับแจ้งว่ามีโขลงช้างป่าหลายสิบตัว เข้ามาหากินในสวนยางของชาวบ้าน พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว โดยโขลงช้างป่า ยังคงจับกลุ่มวนเวียนหากิน ไม่ยอมกลับขึ้นเขา ส่งผลให้ชาวบ้านที่ทำมาหากิน และพักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อน ไม่กล้าออกกรีดยางในช่วงกลางคืน
เบื้องต้น นายพิทักษ์ ยิ่งยง หัวหน้าพิทักษ์ป่าคลองคก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมชุดเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ชุดทหารพรานกองร้อยที่ 13 ตลอดจน ชุด ชรบ.ตำรวจชุมชน หน่วยอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่าบ้านคลองคก และผู้นำท้องถิ่นในหมู่บ้าน รุดเข้าพื้นที่ พร้อมร่วมกันผลักดันโขลงช้างป่าให้กลับขึ้นเขา แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากช้างป่าโขลงนี้ เจ้าหน้าที่ เผยว่า มีอยู่ประมาณ 70-80 ตัว จึงเป็นเรื่องยากต่อการผลักดันกลับขึ้นเขาไป
...
นายพิทักษ์ หัวหน้าพิทักษ์ป่าคลองคก กล่าวว่า ช้างป่าที่พบนั้น ในกลุ่มโขลงของช้างป่าชุดแรก มีอยู่ประมาณ 40 กว่าตัว ได้เดินมากจากเขตเขาอ่างฤาไน ฝั่งหัวเขาไผ่ ได้มารวมตัวกับกลุ่มเขาป้อมอีกเกือบ 25-30 ตัว จากนั้น จึงได้มารวมตัวปักหลักหากินพื้นที่บ้านพวา รอยต่อ ม.9-1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมผู้นำชุมชนในหมู่บ้าน ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่ใกล้เคียงใช้ความระมัดระวัง ในการขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น และเจ้าหน้าที่ยังฝากถึงผู้ใดที่พบเห็นช้างป่ากรุณาอย่าได้ทำร้ายช้างโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการยิงปืน หรือจุดประทัดส่งเสียงดัง หรืออันใดที่ทำให้เกิดเสียงดังก็ตาม อาจจะทำให้ช้างตกใจแตกตื่น ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของท่านได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งหากไม่มีความจำเป็นควรพักอาศัยอยู่ในบ้าน หรือหากพบเห็นช้างป่า ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือผู้นำชุมชนในหมู่บ้านให้ทราบทันที