ผู้ใหญ่หลายท่านออกมาตะโกนก้องร้องว่า เราส่งออกไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ผมขอแย้งสักนิดเถิด ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดี ดัชนีศักยภาพการส่งออกของไทยกับคู่แข่งในอาเซียนก็จะต้องร่วงลงไปคล้ายกัน แต่นี่ การประเมินดัชนีศักยภาพการส่งออกของไทยต่ำกว่าทุกประเทศ ตอนนี้อยู่ในระดับ 180 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอาเซียนอยู่ที่ 205
มูลค่าการส่งออกของไทยเติบโตต่ำที่สุดในช่วง 5 ปี
สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยใน พ.ศ.2557 ยังไม่กระไรนัก ทุกวันนี้ เรายังส่งออกกุ้งสดและกุ้งแช่แข็งไปตลาดสหภาพยุโรปได้ โดยเสียภาษี 4.2%
แต่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ชาติรัฐในสหภาพยุโรป 28 ประเทศจะไม่ให้จีเอสพีกับคุณอีกต่อไปแล้ว นั่นหมายความว่า กุ้งสดและกุ้งแช่แข็งของไทยจะต้องโดนภาษีสูงถึง 12% กุ้งปรุงแต่งของไทยที่ส่งไปขายในตลาดสหภาพยุโรปตอนนี้โดนภาษีแค่ 7% หลังจาก 1 มกราคม 2558 กุ้งปรุงแต่งของไทยจะโดนภาษีที่สูงถึง 20%
ไม่ใช่แค่กุ้งอย่างเดียวเท่านั้น ตั้งแต่ 00.01 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ชาติรัฐในสหภาพยุโรป 28 ประเทศจะตัดภาษีสินค้าไทย 6,200 รายการ
ผู้ใหญ่หลายคนใจดำ ท่านออกมาโกหกประชาชนว่า อย่าไปตกใจเลย การใช้สิทธิประโยชน์ทางอัตราภาษีศุลกากรที่ยุโรปให้ไทยนั้น จิ๊บจ๊อย เพียงไม่กี่หมื่นล้านบาท
ท่านพูดออกมาได้ยังไง นี่ท่านฝังประชาชนทั้งเป็นแล้วนะครับ มหันตภัยรออยู่ข้างหน้า แต่ท่านกลับไม่บอกความจริงกับประชาชนให้เตรียมตัว ผมขอยกสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางอัตราภาษีศุลกากร (GSP) มารับใช้ เอาแค่สถิติ พ.ศ.2556 เพียงปีเดียวก็ได้ มีมูลค่าถึง 9,052.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราแลกเปลี่ยนในวันนี้คือ 32.9496 บาท/ดอลลาร์ นั่นหมายถึงเป็นเงิน 298,267.35 ล้านบาท เป็นเงินเกือบ 3 แสนล้านบาทนะครับ
พ.ศ.2558 คนไทยจะอยู่กันอย่างไร?
...
รัฐบาลไทยเจรจาการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ไม่ทัน เรื่องนี้จะสร้างความหิวโหยให้กับปากท้องของคนไทยมากเหลือเกิน พี่ออยบ้านอยู่ท้ายซอยร้อยสี่ มีลูก 3 คน อยู่ในวัยกำลังเรียน กำลังกิน กระทบมากที่สุด เพราะโรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มที่ปทุมธานีเลิกจ้าง โดยผู้ส่งออกบอกเจ้าของโรงงานว่า คุณส่งของไปขายใน 28 ประเทศในสหภาพยุโรปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ปีก่อนๆ ผมยังพอส่งสินค้าของคุณไปแข่งกับเครื่องนุ่งห่มจากประเทศอื่นไหว เพราะเรายังได้จีเอสพี เขาจึงเก็บภาษีแค่ 10% แต่เพราะรัฐบาลปัจจุบันเจรจาการค้าอะไรสักอย่างไม่ทันนี่แหละ ทำให้ไทยต้องเสียภาษีนำเข้าในสหภาพยุโรปสูงถึง 20%”
“จะแก้ไขยังไงครับนาย?” เดิมเจ้าของโรงงานเรียกคุณสมชายผู้ส่งออกคนนี้ว่าคุณสมชายบ้าง เฮียสมชายบ้าง ทว่าวันนี้ คุณสมชายคือพระเจ้า ยิ่งใหญ่ขนาดสามารถบันดาลให้โรงงานของตนเองอยู่หรือตายก็ได้ คุณสมศักดิ์จึงเปลี่ยนสรรพนามของคุณสมชายเป็น ‘นาย’
“คุณต้องย้ายโรงงานไปตั้งที่ญวน หรือประเทศรอบไทย รัฐบาลประเทศพวกนั้นเขายังเจรจากับสหภาพยุโรปได้อยู่ อย่างญวนนี่ รัฐบาลเขาเก่ง ก็เลยยังคงได้สิทธิพิเศษจีเอสพี เอ้อ พม่าก็ได้ ลาวก็ได้ เขมรก็ยังได้อยู่นะ”
“ถ้าส่งสินค้าโรงงานของผมไปขายยุโรปไม่ได้ ผมและครอบครัวจะขอความเมตตากรุณาอนุเคราะห์จากนาย ขอนายช่วยส่งไปขายที่ตลาดสหรัฐฯให้หน่อย ผมจะตายจริงๆครับนาย ผมมีภาระต้องส่งธนาคารทุกเดือน เดือนละเป็นล้านบาท นึกว่าสงสารลูกๆผมเถอะ”
“คุณไม่รู้ดอกหรือ ว่าเดี๋ยวนี้ เครื่องนุ่งห่มของไทยที่จะส่งไปขายที่ตลาดสหรัฐฯ จะต้องโดนโขกภาษีนำเข้าถึง 30% ในขณะที่รัฐบาลญวนไปเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ และได้รับการต่ออายุจีเอสพี เสียภาษีนำเข้า 10% ไปอีก 3 ปี นี่ผมจะบอกเอาบุญนะ ถ้าญวนเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP กับสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ก็จะได้ลดภาษีนำเข้าเครื่องนุ่งห่มไปยังสหรัฐฯลงเหลือ 0% เฮ้ย คุณสมศักดิ์ คุณจะเอาอะไรไปสู้กับเขา เพราะคุณต้องเสียภาษีนำเข้าสูงถึง 30% อนาคตโรงงานของคุณมันจบไปแล้ว คุณไม่ใช่เถ้าแก่อีกต่อไปแล้ว”
“ใครทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ครับนาย?”
“ก็คุณนั่นแหละ ปีที่แล้ว ผมจำได้ว่าคุณออกไปทำร้ายประเทศของคุณทุกคืน คุณทุบหม้อข้าวของตัวคุณเอง และของคนไทยทั้ง 67 ล้าน คุณนั่นแหละ คุณ....”
คุณนิติ นวรัตน์