เมื่อครั้งที่ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ดำรงตำแหน่งเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ได้ทรงจัดตั้งโครงการแห่งพระองค์ไว้หลายโครงการ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ ได้แก่...

1. โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

เดิมชื่อ 'โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก' ก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ที่ทรงตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทรงเลี้ยงดูพระโอรสด้วยพระกษีรธารา (น้ำนม) ของพระองค์เอง และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้รับการถวายพระกษีรธาราจากพระมารดานานถึง 7 เดือน ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันครอบครัว และการมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กและเยาวชนของภาครัฐและเอกชน อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสถาบันครอบครัว และลดปัญหาสังคมอีกทางหนึ่ง

...

ทั้งนี้ ได้ก่อตั้งโครงการนำร่องใน 4 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่โครงการในพระองค์ 904 กทม., อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, อ.เมือง/ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้มีการขยายผล จึงได้มีพระดำริให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ เพื่อเป็นศูนย์ต้นแบบในการดำเนินงานโครงการฯ ระดับภาค 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง จ.ราชบุรี ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา และภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช

โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ เป็นการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวโยงกับความผูกพันในครอบครัว ช่วยให้ครอบครัวเกิดความเข้มแข็ง มีความเป็นอยู่ที่ดี เน้นเรื่องปากท้องของประชาชน โดยกำหนดกิจกรรมใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว (Data Center) ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา (Training Center) และศูนย์บริการโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว (Service Center)

2. ศูนย์ศรีทวีรัก

เนื่องด้วยการประเมินประชากรของไทย พบว่า อัตราจำนวนประชากรผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่เกิน 10 ปี สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ขณะดำรงตำแหน่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงตระหนักว่าผู้สูงอายุเป็นบุคคลที่ในอดีตทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติไว้มากมาย สมควรที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ตอบแทนจากสังคม จึงทรงจัดตั้ง ‘ศูนย์ศรีทวีรัก’ ซึ่งมีความหมายว่า ศูนย์แห่งการแบ่งปันและเพิ่มพูนความรักขึ้นภายในเขตพระราชฐาน 193 เพื่อทำนุบำรุงและบริการผู้สูงวัย อายุระหว่าง 65-80 ปี ให้ได้รับการพักผ่อนอย่างมีความสุขในบั้นปลายชีวิต

ทั้งนี้ ทรงเน้นรูปแบบการดำเนินงานคล้ายคลึงกับศูนย์เด็กเล็ก โดยการให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุมาฝากดูแลในช่วงกลางวัน เพื่อไปประกอบอาชีพ ให้ผู้สูงอายุได้พบปะสังสรรค์และรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในวัยเดียวกัน และศูนย์แห่งนี้จะเป็นต้นแบบของการจัดบริการสวัสดิการสังคม เพื่อการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ ตลอดจนเติมเต็มช่องว่างระหว่างผู้สูงอายุ ครอบครัว และสังคมในสภาพปัจจุบัน

...

3. สตูดิโอศุโขโยคะ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ได้ใช้พื้นที่ควบคุมในโครงการส่วนพระองค์ 904 ถนนสุโขทัย จัดตั้ง ‘สตูดิโอศุโขโยคะ’ เพื่อให้ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ และประชาชนทั่วไป ได้ยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย และส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส ตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ ภายในสตูดิโอศุโขโยคะ ได้รับการตกแต่งสวยงามสไตล์มินิมัลลิสต์ ด้วยวัสดุธรรมชาติและลวดลายไม้เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยห้องฝึกโยคะแบบกระจกโปร่ง เปิดรับแสงจากธรรมชาติ

สำหรับคอร์สโยคะมีทั้ง ‘ฮอต โยคะ’ ศาสตร์แห่งโยคะร้อนที่ฝึกอยู่ภายในห้องที่มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ‘เจนเทิล โยคะ’ เน้นความสมดุลของร่างกาย ‘พลัส โยคะ’ เทคนิคการเรียนรู้ความเคลื่อนไหวของร่างกาย พร้อมกำหนดลมหายใจด้วยท่าสุริยนมัสการ และ ‘โยคะ ฟลาย’ ศาสตร์หลากหลายแขนงมาผสมผสานกัน ทั้งโยคะ พีลาตีส การเต้น และเทคนิคกายกรรม เพื่อเสริมสร้างความสมดุลของร่างกาย

...

4. ศิลปาชีพ 904 เฮาส์โชว์ คอลเลกชั่นออกแบบจากผ้าขาวม้า

ในงาน ‘ศิลปาชีพ 904 เฮาส์โชว์’ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงมีส่วนร่วมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงสร้างสรรค์งานดีไซน์ใหม่ๆ จากผ้าขาวม้าและผ้าปุยเฉียง โดยผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชั่นนี้ มีทั้ง กระบุง ตะกร้า กระเป๋า และเครื่องประดับ

พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ โปรดผ้าขาวม้า เมื่อเสด็จไปที่ต่างๆ ประชาชนจะนำผ้าขาวม้ามาตกแต่งบริเวณงาน พระองค์จึงทรงขอซื้อมา แล้วนำมาดีไซน์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของผ้าขาวม้า และเป็นการช่วยชาวบ้านที่ทอผ้าขาวม้า รวมไปถึงเพื่อช่วยผู้ประสบภัย ในถุงยังชีพที่ประทานให้ ก็จะใส่ผ้าขาวม้าลงไปด้วย เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้กันเยอะๆ

สำหรับการออกแบบงานแต่ละชิ้นนั้นไม่เหมือนกัน เนื่องจากทรงวาดรูปไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับพระอารมณ์ในขณะนั้น ทำให้ลวดลายในแต่ละชิ้นที่ทรงออกแบบจะไม่ค่อยเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ราคาผลิตภัณฑ์ในร้าน ศิลปาชีพ 904 พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงให้ตั้งในราคาที่พอเหมาะ เพื่อให้ประชาชนทุกระดับสามารถซื้อได้

...

หลังจากที่ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับไปยัง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เพื่อกลับไปใช้ชีวิตที่เรียบง่ายที่บ้านเกิด ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จากวัดประดู่ พระอารามหลวง อ.วัดเพลง จำนวน 9 รูป มาประกอบพิธีทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารเช้าพระในบ้านทุกเช้าเป็นเวลา 9 วัน พร้อมกับนายอภิรุจและนางวันทนีย์ สุวะดี บิดามารดา โดยมีชาวบ้านที่สนิทและคนใกล้ชิดครอบครัวเดินทางมาร่วมทำบุญด้วย.