อาคาร เดอะ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ตึกระฟ้าที่ถูกทอดทิ้งมานานเกือบ 20 ปี แต่วันนี้กลับได้รับความสนใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง หลังช่างภาพหนุ่มพบศพชายชาวต่างชาติผูกคอเสียชีวิตปริศนา บริเวณชั้น 43 ของอาคารหลอน...

ในวินาทีที่ตึกหลอนกลางกรุง กำลังตกเป็นเป้าสงสัยของผู้คนในสังคมว่า เหตุไฉนที่ดินผืนสวย เรียกทรัพย์เช่นนี้ จึงไม่มีผู้ใดไขว่คว้ามาเป็นเจ้าของ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีคำตอบชวนพิศวง!

ที่ดินเก่าแก่หลายสมัย สู่ตึกหลอนกลางกรุง
ตึกร้างกลางกรุงแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนย่านเจริญกรุง ตำบลบ้านทวาย อำเภอบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร โฉนดเลขที่ 5490 โดยมีจำนวนที่ดินทั้งหมด 2 ไร่ 88.5 ตารางวา เป็นอาคารสูง 47 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 636 ห้อง มีพื้นที่ตัวอาคารทั้งหมด 95,300 ตารางเมตร 

แรกเริ่มเดิมที ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินพระราชทานในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าฯพระราชทานแก่เจ้าพระยาท่านหนึ่ง จนต่อมามีการซื้อขาย จำนอง ไถ่ถอนโอนกรรมสิทธิ์เรื่อยมา จนตกมาอยู่ในมือของนายเกรียงไกร สั่งทวีผล ขายให้แก่บริษัท สาธร ยูนีค จำกัด และจึงเป็นที่มาของ อาคาร สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ในที่สุด...

...

แต่เดิม นายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง มีโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ที่จะพัฒนาที่ดินแปลงนี้เป็นคอนโดมิเนียมหรู สูงตระหง่าน 47 ชั้น มีจำนวนกว่าหกร้อยห้อง โดยมีราคาขายอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท/ตร.ม. ทว่าแผนการทุกอย่างกำลังไปได้สวย ตึกทรวดทรงล้ำสมัย สร้างเสร็จไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงแค่ตกแต่งภายในเพียงเท่านั้น แต่แล้วทุกอย่างกลับต้องมาสะดุดลงเพียงเพราะ นายรังสรรค์ ถูกจับในคดีจ้างวานฆ่า นายประมาณ ชันซื่อ ประธานศาลฎีกา โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายรังสรรค์ 25 ปี จึงเป็นเหตุให้ เดอะ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นอันต้องล้มพับโครงการไปกลางคัน เพราะนายรังสรรค์ ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ ได้ทั้งสิ้น

จนล่าสุด พบผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ ผูกคอตายปริศนา อยู่บริเวณห้องน้ำชั้น 43 ของตึก และปรากฏเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้ และเสมือนเสียงเพรียกหรืออะไรก็มิทราบได้ ทีมข่าวได้เดินทางเข้าไปที่ตึกร้างดังกล่าว และมีโอกาสได้พูดคุยกับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้น ได้ใจความว่า “คนแถวนี้ไม่มีใครเขาขึ้นไปตึกนี้หรอก ไอ้ที่ขึ้นไปกันโครมๆ นั่นคนที่อื่นทั้งนั้น คนแถวนี้เขารู้ดีว่าที่นี่เป็นอย่างไร ใครเขาจะไปกล้าขึ้น” ประทุม ชาวบ้านที่มีบ้านพักอาศัยติดอยู่กับอาคารหลอนมานานกว่า 30 ปี พูดพลางแหงนหน้ามองขึ้นไปบนตึก


ยุคลูกเข้าสะสาง ขายต่อ 1,800 ล้านบาท เหลือสร้างต่อ เก็บงานแค่ 20%
ในช่วงปีพ.ศ.2546 นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ ลูกชายนายรังสรรค์ ได้เข้าไปสะสางปัญหาอันไม่รู้จบของโครงการ เดอะ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ท่ามกลางปัญหาทางการเงิน และชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล โดยนายพรรษิษฐ์ มีแนวคิดที่จะนำอาคารแห่งนี้ ไปขายให้แก่นักลงทุนในราคาประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อนำเงินดังกล่าวใช้คืนเจ้าหนี้ ซึ่งได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ประมาณ 500 ล้านบาท (ธนาคารเกียรตินาคิน ได้ซื้อโครงการนี้จาก องค์กรเพื่อปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) หลังจาก บล.ไทแม็กซ์ฯ เจ้าหนี้รายใหญ่ถูกปิดกิจการและขายทอดตลาดโครงการดังกล่าว) หนี้ค่าก่อสร้างของบริษัท สี่พระยา จำกัด ประมาณ 100 ล้านบาท และในส่วนของลูกค้าอีกกว่า 600 ล้านบาท

...

“ในปี 2533 สาธร ยูนีค ขายตารางเมตรละ 2 หมื่น ปัจจุบันย่านนี้ขายเกินตารางเมตรละ 8 หมื่นบาท ราคาขายทั้งโครงการวันนี้คือ 1,800 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าก่อสร้างต่อ ปัจจุบันโครงการนี้สร้างเสร็จแล้วประมาณ 80-90% เหลืองานระบบและตกแต่ง” พรรษิษฐ์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของรังสรรค์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไว้เมื่อปี 2551


ราคาประเมินที่ดิน รัฐ เทียบ เอกชน ต่างราวฟ้ากับเหว
ทางทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร รอบบัญชี พ.ศ.2555-2558 ตำแหน่งที่ดินของ เดอะ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ พบว่า ที่ดินแปลงนี้ มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 2 ไร่ 88.5 ตารางวา ตารางวาละ 260,000 บาท โดยราคาที่ดินทั้งแปลง มีราคาประเมินอยู่ที่ 231,010,000 บาท

“ต้องตรวจสอบตัวตึกเสียก่อนว่า อาคารมีความมั่นคงแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน หากนักลงทุนซื้อไปแล้ว อาจต้องทุบทำลายก่อนนำไปทำประโยชน์ เพราะระยะเวลาผ่านมาหลายปี แน่นอนย่อมมีมิจฉาชีพเข้าไปรื้อค้นเหล็ก หรือท่อต่างๆ อันเป็นโครงสร้างตึก เพื่อนำไปขายต่อในตลาดมืด ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนของการรื้อถอนก็มิใช่น้อยๆ ดังนั้น จึงต้องลงทุนมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และด้วยปัจจัยสำคัญในข้อนี้จึงไม่ดึงดูดให้นักลงทุนเกิดความสนใจ และเป็นผลให้ถูกปล่อยร้างมาเนิ่นนาน” แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร อธิบายชัดถ้อยชัดคำ

...

ขณะที่ ราคาประเมินที่ดิน จากนายโสภณ พรโชคชัย นักวิชาการด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้คร่ำหวอดด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ระบุว่า ราคาที่ดินแปลงนี้ ตารางวาละ 1,200,000 บาท โดยราคาที่ดินทั้งแปลง มีราคาประเมินอยู่ที่ 1,066,200,000 บาท

“แม้อาคารจะถูกพวกโจรดึง งัด ตัดเหล็กไปแล้ว แต่เหล็กที่ถูกฉาบด้วยปูนไปแล้วนั้น ไม่สามารถดึงออกมาได้ และยังคงมีความแข็งแรงอยู่ เพราะฉะนั้น ตัวอาคารย่อมหนุนให้ราคาที่ดินแปลงนี้สูงขึ้นหลายเท่าตัว” โสภณ พรโชคชัย วิเคราะห์ผ่านมุมมองของเอกชน ผู้มีประสบการณ์โชกโชนในการประเมินราคาที่ดิน

ส่วนชาวบ้านในละแวกนั้น มีความเชื่อว่า เงาของตึกดังกล่าวพาดไปยังบริเวณของวัดยานนาวา อันเป็นอารามเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกันตัวอาคารที่ก่อสร้างตรงข้ามกับวัด แน่นอนว่า ย่อมมีโอกาสที่เดอะ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ จะตั้งอยู่บนสุสานเก่าของวัด และลักษณะของตึกร้างยังมีความคล้ายคลึงกับโลงศพอีกด้วย

ที่ดินแปลงสวย ใจกลางกรุง แต่ไร้ซึ่งผู้สนใจพินิจหา...หลายคนเชื่อเรื่องคุ้มกำไร หลายคนใส่ใจเรื่องทำเลเหมาะสม...แล้วคุณล่ะ คิดว่าเพราะอะไร นักลงทุนไทย-เทศ จึงไม่กล้าควักกระเป๋า ลงเงินให้แก่ที่ดินผืนงาม ?

...

เตรียมพบกับตอนที่ 3 (ตอนสุดท้าย) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของความเชื่อ เรื่องเล่าขาน บรรดาอาถรรพณ์ต่างๆนานา พร้อมกับตอบโจทย์ชวนสงสัยที่ว่า “ที่ดินผืนนี้ฝืนเข้าไปก่อสร้างสวนหลักความเชื่อ ผิดหลักฮวงจุ้ย ท้าทายสิ่งลึกลับหรือไม่​?” EP.3มีคำตอบ!...