ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน ทรงมีรับสั่งให้เพิ่มผู้เรียนสายอาชีวศึกษามากขึ้น โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่จะทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้เรียนสายอาชีพ มากขึ้น และทรงเห็นว่าหากจะหาแนวทางเพิ่ม ผู้เรียนสายอาชีวศึกษาได้จริง ก็ไม่ควรใช้วิธีประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว เพราะจะไม่เกิดผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากเด็กที่เรียนอยู่สายสามัญโดย เฉพาะเด็กในเมืองจะไม่สนใจที่จะเรียนต่อสายอาชีพอยู่แล้ว ดังนั้น ทรงแนะให้เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการของผู้เรียน โดยให้เน้นกลุ่ม เด็กในโรงเรียนขยายโอกาส ที่มีอยู่ประมาณ 7,000 โรง กลุ่มโรงเรียนชายแดน หรือกลุ่มโรงเรียน ประจำตำบล เพราะโรงเรียนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเข้าเรียนต่อสายอาชีพมากที่สุด ขณะเดียวกันทรงเห็นควรให้วิทยาลัยอาชีวะส่งครูมาสอนวิชาชีพในโรงเรียน สพฐ. ทั้งนี้ สพฐ.พร้อมสนองรับสั่ง

ดร.กมลกล่าวอีกว่า สมเด็จพระเทพฯยังมีรับสั่งเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยเฉพาะสาขาขาดแคลน อาทิ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่ทรงเห็นว่าคุรุสภาควรให้คนเก่งที่ไม่ได้จบสายครูสาขาที่ขาดแคลนเข้ามาเป็นครูได้ โดยไม่ปิดกั้น ตั้งแต่การรับสมัครสอบ แต่ให้สร้าง กติกาว่าให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภากำหนดภายใน 2 ปี หากทำไม่ได้ก็ให้ออกจากระบบได้ โดยตนได้กราบทูลชี้แจงไปว่า ขณะนี้คุรุสภาได้อนุญาตให้ครูสาขาขาดแคลนสายอาชีวะเข้ามาเป็นครูได้ก่อน ซึ่งสมเด็จพระเทพฯทรงอยากให้อนุโลมให้โรงเรียนสังกัด สพฐ.ด้วย.

...