พบหมู่บ้านไกลปืนเที่ยง ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ชาวบ้าน104หลังคาเรือนไม่เคยมีไฟฟ้าใช้ เพราะกรมป่าไม้ไม่อนุญาตให้ กฟภ.เข้ามาปักเสาเดินสาย เคยถวายฎีกาสมเด็จพระเทพฯ แต่เรื่องไปค้างอยู่ที่อธิบดีฯ   

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.น่านว่า พบหมู่บ้านชื่อ บ้านห้วยโทน หมู่ 2 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน จำนวน 104 หลังคาเรือน ราษฎร 506 คน ประสบความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องทนอยู่อย่างยากลำบากมานาน จนชาวบ้านถวายฎีกาต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อ 10 มี.ค.57 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ชาวบ้านมีความหวังจะได้ใช้ไฟฟ้า แต่เรื่องไปติดค้างติอยู่ที่การพิจารณาของกรมป่าไม้ เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติดอยภูคาและป่าผาแดง

นายเมธวัฒน์ พุทธิธาดากุล นายก อบต.ดงพญา และนายศุภัทรพงศ์ ศุทธกูลการณ์ ผู้ใหญ่บ้านห้วยโทน ได้ร่วมกันให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านห้วยโทน ได้รับความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เวลากลางคืนต้องใช้เทียนไข ตะเกียงน้ำมัน และไฟฉายเป็นหลัก ทำให้หลายบ้านต้องเสี่ยงกับไฟไหม้บ้าน ชาวบ้านไม่สามารถเก็บรักษาถนอมอาหารได้เพราะไม่มีตู้เย็น ที่สำคัญไม่สามารถรับรู้ข่าวสารจากภายนอกได้เลย ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เวลาเกิดภัยพิบัติการช่วยเหลือจะเข้าถึงชาวบ้านได้ช้ามาก และยังมีปัญหาเรื่องถนนเข้าหมู่บ้านระยะทาง 9 กิโลเมตรที่เป็นดินลูกรัง ในช่วงหน้าฝนชาวบ้านจะได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะคนป่วย และเด็กนักเรียน 67 คน ที่ต้องเดินทางออกไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนสปัน ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ

นายศุภัทรพงศ์ ผู้ใหญ่บ้านห้วยโทน ได้กล่าวด้วยว่า หากกรมป่าไม้อนุญาตการใช้พื้นที่ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาปัว จะสามารถดำเนินการให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้ภายในะเวลา 3 เดือน แต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.57 ที่ผ่านมา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 แพร่ ได้ตอบ กฟภ.ปัวมาว่า ได้ส่งเรื่องการขออนุญาตปักเสาเดินสายไฟฟ้าให้กรมป่าไม้พิจารณาแล้ว อ้างถึงหนังสือ ลว.9 ต.ค.2556 ที่เสนออธิบดีกรมป่าไม้ว่าสมควรอนุญาต แต่ล่วงเลยมากว่า 5 เดือนก็ยังเงียบหาย

...

"ชาวบ้านใช้แผงโซลาร์เซลล์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น อีกอย่างในพื้นที่บ้านห้วยโทนมีอากาศเย็น และแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ" ผู้ใหญ่บ้านห้วยโทนกล่าว.