ชาวเน็ตระดมทุน แห่บริจาคช่วยเหลือ น้องการ์ตูน และผู้เป็นแม่ หลังเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน โดนรถพุ่งชนร้านสเต็กพังยับ ย่านบางบอน ผ่านไป 2 เดือน อาการยังไม่ดีขึ้น เจรจาค่าเสียหายไม่คืบ

วันที่ 21 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ย. เวลาประมาณ 22.20 น. เมื่อรถกระบะแต่งซิ่ง ของนางสาวน้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ที่นั่งมากับน้องสามี เสียหลักพุ่งเข้าชน บริเวณหน้าร้านสเต็ก ปากซอย บางบอน เอกชัย 19 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนคือ นายภานุทัต ศักดิ์สืบพรรณ สามีของเจ้าของร้าน และ ‘น้องการ์ตูน’ ลูกสาว วัย 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองกระเทือนเสียหายไป 1 ส่วน 4 และรถยนต์โตโยต้า ยาริส ของ น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่น้องการ์ตูนเสียหายยับเยิน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวเน็ต รวมถึงตัวคุณแม่น้องการ์ตูน ตั้งข้อสงสัยว่า มีการสลับตัวคนขับหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วคนที่ขับรถในคืนดังกล่าวจนประสบอุบัติเหตุคือน้องสามีวัย 19 ที่อ้างผ่านรายการข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า ตนขับรถไม่เป็น เรื่องนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.พิษณุ พรานพนัส ผู้กำกับ สน.บางบอน ระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดคืนวันเกิดเหตุ พบว่าผู้ขับรถจนเกิดอุบัติเหตุคือ น.ส.น้ำผึ้ง ไม่ใช่น้องสามีที่นั่งมาด้วยตามที่หลายฝ่ายสันนิษฐาน (ชมคลิป : https://www.facebook.com/video.php?v=220663571437209 )

น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่ของ ‘น้องการ์ตูน’ เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ตนไม่เชื่อว่า น.ส.น้ำผึ้ง เป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าว แต่เมื่อผลสรุปของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแล้ว ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่ยังรับไม่ได้คือ ค่าเสียหายรถยนต์ โตโยต้า ยาริส ที่ตนเรียกมาไป 3.5 แสน แต่ทางฝั่ง น.ส.น้ำผึ้ง ให้อู่กลางตีราคาพบว่าค่าเสียหายอยู่ที่ 2.8 แสน ซึ่งตนก็ยอมรับในราคาดังกล่าว แต่ขอรับเงินดังกล่าวเพื่อนำไปซ่อมเอง สุดท้ายทางฝั่ง น.ส.น้ำผึ้ง เจรจาขอลดเหลือเพียง 2 แสนบาท! ตนรับไม่ได้

ทางด้าน นายธาตรี ธนธรรมสุนทร ทนายความของ น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ตนได้ไปเป็นพยานไกล่เกลี่ยระหว่างลูกความ กับ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ของน้องการ์ตูน ด้านค่ารักษาพยาบาล ทางผู้ต้องหาคือ น.ส.น้ำผึ้ง ได้ยินดีรับผิดชอบทั้งหมด และจะเซ็นสัญญายอมรับสภาพหนี้กับทางโรงพยาบาล เมื่อการรักษาสิ้นสุด และน้องการ์ตูนได้ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งนอกจากค่าเสียหายของรถยนต์แล้ว ยังมีค่าสินไหมทดแทนราวๆ 12 ล้าน ที่แม่น้องการ์ตูน เรียกไปยังผู้ก่อเหตุ ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ โดยในวันที่นั่งไกล่เกลี่ยระหว่าง 2 ฝ่าย นายธาตรี กล่าวว่า ได้พูดเชิงหยอกล้อกับ น.ส.น้ำผึ้งว่า "น้ำผึ้ง...เธอไม่มีปัญญาหาเงินได้ เธอคงต้องไปโดดตึกตาย" ซึ่งคำพูดดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ส่งผลให้ชาวเน็ตไม่พอใจ และ สร้างเพจขายสินค้า บริการ โดยแอบอ้างชื่อทนายธาตรี เป็นจำนวนมาก จนในที่สุด เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ทนายธาตรี และ ภรรยา ได้ไปแจ้งความกรณีถูกแอบอ้างและก่อให้เกิดความเสียหาย ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

...

นายธาตรี ยังกล่าวต่อด้วยว่า “เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตนจะไม่เลือกรับเป็นทนายคดีดังกล่าว ตนเป็นทนายความมาราวๆ 30 ปี แต่ต้องเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว รู้สึกเสียใจอย่างมาก จนอยากจะผูกคอตาย หากตนพูดอะไรออกไป ทำให้ใครไม่พอใจ ตนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และขอความเมตตาชาวเน็ต นักเลงคีย์บอร์ด ให้หยุดการกระทำแอบอ้างชื่อตนในโลกออนไลน์ ตนอยากจะกราบ 3 ครั้ง” ทั้งนี้ระหว่างการสัมภาษณ์พบว่า เบอร์โทรศัพท์ของทนายธาตรี มีสายดังเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนใจอย่างมาก

สำหรับคดีที่ น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ขับรถประมาท จนทำให้นายภานุทัต ศักดิ์สืบพรรณ พ่อน้องการ์ตูนเสียชีวิต ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 มกราคม 2558 ส่วนคดีเรียกค่าเสียหายนั้น ตำรวจจะยื่นฟ้องต่ออัยการภายในอาทิตย์หน้า หลังจากนั้น และอัยการเตรียมนำขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี และไกล่เกลี่ยเป็นลำดับถัดไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สำรวจความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวในโลกโซเชียล พบว่ามีผู้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อาทิ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ The Dark Knights ll ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยังแอดมินเพจดังกล่าวได้ความว่า “เรื่องผ่านมาหลายเดือน คดีไม่มีความคืบหน้า จึงมีพลเมืองดีมาช่วยแจ้งเบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวให้ ส่วนบัญชีที่ตนแปะรับบริจาคอยู่บนหน้าเพจนั้น ยืนยันว่าเป็นของแม่น้องการ์ตูนจริงๆ”

ปิดท้ายด้วยคำพูดจากคุณแม่น้องการ์ตูน “จนถึงตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลน้องการ์ตูน ปัจจุบันพุ่งไปล้านกว่าบาทแล้ว ทางฝ่าย น.ส.น้ำผึ้ง ก็บ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอขอบคุณชาวเน็ต และคนไทยทุกคนที่ช่วยเหลือบริจาคค่ารักษาพยาบาลน้องการ์ตูน รวมถึงทุกคนที่ส่งข้อความให้กำลังใจตน ตนเชื่อว่าใครทำอะไร ย่อมได้รับผลในสิ่งนั้น ตอนนี้ตนได้มาเปิดร้าน ‘สเต็กลุงใหญ่’ อยู่บริเวณถนนราษฎร์บูรณะ ตรงข้ามสำนักงานใหญ่กสิกรไทย มีคนเข้ามาอุดหนุนและให้กำลังใจจำนวนมาก ตนต้องขอขอบคุณจริงๆ”