ปอศ. สนธิกำลัง ตำรวจเชียงใหม่ บุกจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและไต้หวัน รวม 49 คน หลังใช้คฤหาสน์ยักษ์เชียงใหม่เป็นฐานทัพ โทรตุ๋นเหยื่อในเมืองจีนจนหลงเชื่อกว่า 100 ราย สูญกว่า 50 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 พ.ย. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้นำหมายค้นของศาล จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 215 ม.15 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ 2 ชั้นบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่
จากการตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน ได้ทำการปิดล้อมบ้านไว้หมดทุกด้าน ก่อนที่จะจู่โจมเข้าทำการตรวจค้นพบว่าภายในบ้านมีชาวจีนร่วม 30 คน กำลังอยู่ในห้องขนาดใหญ่ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมเข้ามาทำให้แตกฮือและพยายามจะวิ่งหลบหนีกัน แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ แต่ในช่วงชุลมุน มีวิ่งหลบหนีออกไปได้ 1 คน ภายในห้องพบอุปกรณ์ โทรศัพท์ เครื่องคอมพิเตอร์ และชุดสัญญาณอินเทอร์เน็ต จำนวนมากกว่า 100 รายการ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติไต้หวัน 34 คน สัญชาติจีน 15 คน รวม 49 คน
...
รอง ผบก.ปอศ เปิดเผยว่า การบุกเข้าจับกุมครั้งนี้เนื่องจากทางการไทยเราได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจีน ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกลวงประชาชนชาวจีน ให้ทำการโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นหนี้ธนาคาร หนี้บัตรเครดิต ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท โดยเช่าบ้านหลังนี้ในราคา เดือนละ 8.5 หมื่นบาท ส่วนในการดำเนินการก็จะขยายผลโดยประสานงานทางจีนเพราะผู้เสียหายทั้งหมดอยู่ที่จีน แต่ในส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไม่มีพาสปอร์ต จะต้องแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมืองก่อนส่งมอบให้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ว่าจะสามารถตั้งข้อหา อั้งยี่ หรือ ซ่องโจร ได้หรือไม่กับผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกจับกุม ซึ่งในขณะนี้ต้องให้ทางล่ามชาวจีนเข้ามาสื่อสารในการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด