ตำรวจเมืองสตูล เรียก "น้องล่า" เข้าสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายถูกขโมย "เหนียวไก่" หลังโพสต์เฟซบุ๊กจนมีคนแห่เข้าไปดูแล้วกว่าล้าน พร้อมกับเรียกสอบพยานแวดล้อม สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าคนร้ายไม่ใช่คน แต่น่าจะเป็น "สุนัขคาบไปกิน"  

หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปในสื่อโซเชียลฯ น.ส.ขนิษฐา จันทร์สว่าง หรือ "น้องล่า" หรือ "ไลล่า" อายุ 15 ปี ชาวจ.สตูล อยู่บ้านเลขที่ 35/5 ถนนศุลกานุกูล อ.เมือง จ.สตูล โพสต์คลิปต่อว่าคนขโมยข้าวเหนียวไก่ ที่ซื้อมาจะกิน แต่ถูกขโมยไปขณะจอดรถเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ และกลายเป็นประเด็นดังภายในชั่วข้ามคืน มีคนเข้าไปชมคลิปดังกล่าวแล้วกว่าล้านครั้ง ส่วน "น้องล่า" ก็กลายป็นคนดังไปด้วย ถึงขนาดมีคนติดต่อจะให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้ากันเลยทีเดียว

ในส่วนของคดี "ขโมยเหนียวไก่" ทาง พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล เข้าไปตรวจสอบสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดย พ.ต.ท.จักรพันธุ์ คงแก้ว รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสตูล พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม สว.สส. ร.ต.อ.ไพโรจน์ พิจิตรบรรจง พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัว น.ส.ขนิษฐา จันทร์สว่าง ไปสอบปากคำ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขา 4 แยกเจ๊ะบิลัง ถนนศุลกานุกูล อ.เมือง จ.สตูล รวมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อม

...

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ร.ต.อ.ไพโรจน์ พิจิตรบรรจง พนักงานสอบสวน ได้สรุปว่า จากเหตุเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2557 เวลา 00.44 น. กรณีที่ น.ส.ขนิษฐา จันทร์สว่าง นำข้าวเหนียวไก่ ราคา 30 บาท วางไว้ในตะกร้าหน้ารถ จยย. โดยจอดไว้ข้างร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น สาขา 4 แยกเจ๊ะบิลัง ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จากนั้นข้าวเหนียวไก่ได้หายไป ต่อมา น.ส.ขนิษฐา ได้ลงเฟซบุ๊กผ่านสื่อออนไลน์ และได้มีการออกข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์นั้น

"ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ติดตามตัว น.ส.ขนิษฐา มาสอบปากคำ เพื่อสอบถามรายละเอียด ทราบว่าตามวันเวลา ที่เกิดเหตุ น.ส.ขนิษฐา ได้ไปซื้อข้าวเหนียวไก่ มาจากร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็ได้นำไปวางไว้ในตะกร้า หน้ารถ จยย. ซึ่งจอดไว้ข้างร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น แล้วได้เดินไปเพื่อจะออนไลน์เงินเข้าโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นได้เดินกลับมาที่รถ จยย. ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ปรากฏว่าข้าวเหนียวไก่ได้หายไป ทำให้ น.ส.ขนิษฐาโกรธและเครียดมาก เชื่อว่ามีบุคคลมาลักข้าวเหนียวไก่ของตนไป จึงได้อัดเป็นคลิปส่งภายในวันเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุไม่นานผ่านโทรศัพท์มือถือ จนเป็นข่าวดัง และ น.ส.ขนิษฐา ให้การว่า ตนเองไม่ได้ติดใจดำเนินคดีกับผู้ใด และตนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีบุคคลใดลักไปจริงหรือไม่ เนื่องจากหลังจากหายโกรธได้สอบถามกับแม่ค้าบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบว่าจะมีสุนัขมาคอยกินอาหารอยู่บริเวณที่เกิดเหตุหลายตัว และเคยมาลักกินอาหารของชาวบ้านที่วางไว้ในตะกร้ารถ ซึ่งจอดบริเวณร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง จึงเชื่อว่าน่าจะมีสุนัขมาคาบไปกินมากกว่า" ร.ต.อ.ไพโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ นายศักดิ์ศรี ศรสวัสดิ์ ผจก.ร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ สาขาที่เกิดเหตุดังกล่าว เชื่อว่า ข้าวเหนียวไก้ของ น.ส.ขนิษฐา ที่หายไป ไม่น่าจะมีคนมาลักเอาไป แต่เชื่อว่ามีสุนัขมาคาบไปกินมากกว่า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสุนัขที่มาคอยกินอาหารจากร้านค้าอยู่เป็นประจำ

เช่นเดียวกับ นายวีรศักดิ์ เงินเจริญ ซึ่งทำงานที่ร้านอะไหล่รถ ห่างจากร้านเซเว่นฯ ประมาณ 30 เมตร ให้การว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนเคยวางข้าวเหนียวไก่ไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ จยย.เช่นเดียวกัน และจอดไว้ข้างร้านเซเว่นฯ ปรากฏว่าในวันดังกล่าว พบว่ามีสุนัขมาคาบไปกิน จึงเชื่อว่าข้าวเหนียวไก่ของ น.ส.ขนิษฐา ที่หายไป คงถูกสุนัขมา คาบไปกินมากกว่า ไม่น่าจะมีคนมาลักไป

ในตอนท้าย ร.ต.อ.ไพโรจน์ พิจิตรบรรจง ได้สรุปว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในทางอาญา แต่น่าจะเชื่อว่า มีสุนัขมาคาบข้าวเหนียวไก่ของ น.ส.ขนิษฐา ไปกิน ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏข้างต้น อย่างไรก็ตาม หากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป