กปปส.ยันหนุนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คาดสัปดาห์หน้าการจัดตั้งกรรมาธิการฯจะแล้วเสร็จ ด้าน "พระสุเทพ" สั่งแกนนำงดเคลื่อนไหวการเมือง...

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ (กปปส.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสัดส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ยังไม่มีความหลากหลายว่า ทุกคนที่ได้รับเลือก ล้วนมีความรู้ความสามารถทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ และยังมีโควตาจาก คสช.และรัฐบาลอีก จึงเชื่อว่า จะมีการสรรหาคนที่มีประสบการณ์ความรู้ด้านกฎหมายการร่างรัฐธรรนูญ มาเพิ่มในส่วนที่เห็นว่าขาดได้

ส่วนที่รัฐบาลอยากให้คู่ขัดแย้งร่วมพูดคุยถึงแนวทางปฏิรูปประเทศนั้น กปปส.ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แต่ฝ่ายตรงข้ามพยายามวาดภาพให้เห็นว่า นปช.เป็นคู่ขัดแย้ง และที่ผ่านมายืนยันตลอดว่า กปปส.ไม่สนใจตัวบุคคล ใครเข้าร่วมทำให้เกิดการปฏิรูปเราก็ยินดี และแม้ว่าจะไม่มีตัวแทน กปปส.เข้าร่วมก็ตาม เราก็พร้อมสนับสนุน เพราะเน้นที่ผลงานมากกว่า อย่างไรก็ตามจากนี้ไป กปปส.จะเริ่มตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวทางการปฏิรูปประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็กำลังเดินหน้าจัดตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าก็จะเสร็จสิ้น

...

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาถือเป็นวันครบรอบ 1 ปีการชุมนุมของกปปส. ซึ่งกปปส.ได้มีการจัดพิธีอุปสมบทหมู่จำนวน ภายใต้ชื่อโครงการ "บวชพระเพื่อปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว" และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมของ กปปส.ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีแกนนำมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายจุมพล จุลใส น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร นายแซมดิน เลิศบุศก์ เป็นต้น

ส่วนกิจกรรมการเคลื่อนไหวทางการเมือง เห็นว่า การชุมนุมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ สามารถปลุกจิตสำนึกให้คนไทยให้ต่อต้านเผด็จการทางรัฐสภา รณรงค์การปฏิรูปประเทศ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารประเทศ กปปส.จึงขอหยุดความเคลื่อนไหวทางการเมืองไว้ก่อน ซึ่งพระสุเทพ ปภากโร (สุเทพ เทือกสุบรรณ) บอกให้แกนนำทุกคนปล่อยวางสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ และขอให้แกนนำให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและ คสช.ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ส่วนพระสุเทพ จะบวชต่อไปให้ครบ 204 วันตามจำนวนที่ กปปส.ชุมนุม ซึ่งจะครบกำหนดประมาณต้นเดือน ก.พ.2558 แต่จะลาสิกขาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพระสุเทพ.