ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว ทั้งในไทย และต่างประเทศ “คนในก็อยากออก คนนอกก็อยากเข้า” ชาวไทยไม่น้อย ที่เลือกไปเที่ยวต่างประเทศ เหตุผลคือได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ หรือบางทีออกไปเที่ยวต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเที่ยวในประเทศก็มี

ปัญหาที่สำคัญคือ โจร มิจฉาชีพ หรือความขี้หลงขี้ลืมของนักท่องเที่ยวเอง ทำให้ทรัพย์สินสูญหาย และหากในสัมภาระที่สูญหายประกอบไปด้วยกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์แล้ว ความวุ่นวายจะบังเกิดทันที

‘ไทยรัฐออนไลน์’ ได้รับการเปิดเผยจาก “กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ” ได้ความว่า หากนักท่องเที่ยวรู้ตัวว่าทรัพย์สินสูญหายให้รีบปฏิบัติตน ดังต่อไปนี้

กรณีหนังสือเดินทางหาย

1. รีบไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อดำเนินการแจ้งความ

2. นำใบแจ้งความมายื่นต่อสถานทูตเพื่อดำเนินการออกเอกสารยืนยันตนชั่วคราว (ใช้กลับประเทศไทยได้ครั้งเดียว)

กรณีกระเป๋าสตางค์หาย

1. รีบแจ้งความกับสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด หากโชคดีอาจมีคนนำมาส่งคืน 

2. ติดต่อสถานทูตไทยที่ใกล้เคียงในทันที หากเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างวันหยุดของสถานทูต สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ Hotline ของแต่ละสถานทูต

3. สถานทูตจะดำเนินการติดต่อญาติให้ผู้เสียหาย โดยสถานทูตจะเป็นตัวกลางให้ 

4. กรณีไม่มีญาติ หรือติดต่อญาติไม่ได้ ผู้เสียหาย สามารถหยิบยืมเงินจากทางสถานทูตได้ แต่ต้องเซ็นสัญญา 2 ฉบับ สัญญาฉบับแรกคือ สัญญารับสภาพหนี้ และสัญญาชดใช้เงินคืน โดยจำนวนเงินที่ให้ยืมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนั้น

ยืมมาแล้วอย่าคิดชิ่ง!

...

หากกลับสู่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางกระทรวงการต่างประเทศ มีเวลาให้คุณชดใช้หนี้ที่ยืมมาเป็นเวลา 2 ปี ระหว่างนี้ที่คุณยังใช้หนี้ไม่หมด คุณจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ จนกว่าจะใช้หนี้ครบทุกบาททุกสตางค์

ข้อควรรู้

การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้น ควรถ่ายสำเนาหนังสือเดินทาง / ตั๋วเครื่องบิน ไว้ 1-2 ฉบับ และแยกเก็บไว้ต่างหากกับกระเป๋าพกพาหลัก หากสูญหายจะยังพอมีหลักฐานได้ สะดวกต่อการดำเนินการของเจ้าหน้าที่และผู้ติดต่อ 

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการดูแลรักษาทรัพย์สิน และระมัดระวังให้อยู่ในสายตาตลอด จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด