ชี้คำสั่งคุรุสภาสบช่องวิ่งรอก กรรมการบางคนส่อฮั้วเสนอชื่อพวกพ้อง
ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ อดีตเลขาธิการคุรุสภา และที่ปรึกษาสหพันธ์องค์กรครูอีสาน เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นเรื่องคัดค้านการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกและสรรหาต่อนายตวง อันทะไชย ประธานกรรมาธิการการศึกษา (กมธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีผู้ร้องเรียนและส่งข้อมูลความไม่ชอบมาพากลในการคัดเลือกและสรรหาดังกล่าวมาถึงตนเป็นจำนวนมาก ปัญหาข้อผิดพลาดที่เกิดความไม่เป็นธรรมอยู่ตรงที่คำสั่งของคุรุสภา เลขที่ 14/2557 เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ที่ลงนามวันที่ 22 ส.ค.2557 โดย ศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา ที่ให้อำนาจหน้าที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯชุดนี้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและกลั่นกรองผู้ได้รับการเสนอชื่อจากเขตพื้นที่ฯ และจากการเสนอชื่อโดยกรรมการคุรุสภาให้เหลือด้านละ 2 คน รวมเป็น 4 คน เพื่อเสนอให้คุรุสภาเห็นชอบ และส่งให้ ก.ค.ศ. พิจารณาต่อไป คำสั่งดังกล่าวเป็นที่มาของการวิ่งรอกเสนอชื่อผู้ที่ต้องการเป็นผู้แทนคุรุสภากันอย่างล้นหลามเกินความคาดคิด
ดร.องค์กรกล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลพบว่ากรรมการคุรุสภา 9 คนจาก 12 คน ร่วมกันเสนอชื่อคนของตนเองและพรรคพวกจำนวน 195 ราย กรรมการบางคนเสนอชื่อพรรคพวกตนเองถึง 50 รายชื่อ บางคนเสนอ 39 รายชื่อ และ 22 รายชื่อตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวเปิดโอกาสและมีช่องว่างให้อนุกรรมการบางคนแสวงหาประโยชน์เป็นเงินทอง เพราะเพียงแค่การเสนอรายชื่อก็สามารถเรียกเก็บเงินได้แล้ว รายละ 50,000-100,000 บาท ต่อการเสนอชื่อ 1 รายชื่อ พอถึงเวลากลั่นกรองก็ร่วมกันฮั้วคัดเลือกคนของตนเองอย่างเป็นระบบ ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่ากระบวนการคัดเลือกดังกล่าวขาดหลักธรรมาภิบาล มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีการเรียกรับประโยชน์จากผู้สมัครในเขตภาคอีสานกันอย่างถ้วนหน้า จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ก.ค.ศ. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วส่งเรื่องกลับให้คุรุสภาทบทวนอีกครั้ง ทุกคนจะรับได้ในวิธีการดังกล่าว ซึ่งในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ตนจะแถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมกับเข้ายื่นหนังสือกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เพื่อให้ดำเนินการชะลอและตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง พร้อมทั้งจัดการกับขบวนการที่ทำให้เกิดความไม่โปร่งใสในครั้งนี้ต่อไป.
...