แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส มรณะ “อีโบลา” จะดูเหมือนเรื่องไกลตัว เนื่องจากพื้นที่อันตรายถูกจำกัดโซนอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีการติดเชื้อครั้งแรกในยุโรป พยาบาลสเปนเผอเรอเอาถุงมือป้องกันที่ปนเปื้อนจากการดูแลรักษาพยาบาลหมอสอนศาสนาไปสัมผัสกับใบหน้าตนเองจนติดเชื้อล้มป่วยอาการหนัก ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

เพราะจากรายงานที่กระทรวงสาธารณสุขสเปนเปิดเผย พบว่าหลังที่พยาบาลเคราะห์ร้ายดังกล่าวติดเชื้อ เจ้าตัวก็ได้ลางานเดินทางไปพักร้อนพร้อมกับครอบครัว ก่อนที่จะกลับมาแล้วเชื้อจึงค่อยแสดงอาการ

แม้จะมีการกักตัวสามี คนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมงาน แต่จะทราบได้อย่างไรว่า ระหว่างที่ไปเที่ยวจะนำเชื้อไปติดต่อใครบ้าง ถึงอีโบลาจะไม่แพร่เชื้อทางอากาศ แต่ก็ติดต่อกันทางสารคัดหลั่ง อาทิ น้ำมูก น้ำลาย เหงื่อ

ผ้าเช็ดตัวในโรงแรมที่แม่บ้านเก็บไปทำความสะอาด แก้วน้ำในร้านอาหาร ใบธนบัตร สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้มีโอกาสทั้งสิ้นที่จะได้รับเชื้อไป ซึ่งพอคนเหล่านี้เดินทางกลับบ้านอะไรไป กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายไปแล้ว เพราะอย่าลืมว่ากว่าเชื้อจะฟักตัวแสดงอาการ ก็ใช้เวลาตั้งแต่ 2 ถึง 21 วัน

เหมือนกับกรณีของนายโธมัส ดันแคน ชาวอเมริกันเชื้อสายไลบีเรีย ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ซึ่งในตอนนั้นเครื่องสแกนที่สนามบินก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากตอนมาถึงเชื้อยังไม่สำแดงฤทธิ์

ขนาดนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจสอบผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังสหรัฐฯ โดยให้เริ่มตรวจตั้งแต่สนามบินต้นทางก็ยังถูกตั้งข้อสงสัยจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ตรงเรื่องระยะการฟักตัวของเชื้อนี่แหละ ว่าจะรู้ได้อย่างไรถ้าไม่จับตรวจจริงๆจังๆ

...

จึงอยากจะถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบ้านเรา ว่ามีการเตรียมพร้อมอะไรมากกว่านี้หรือไม่ เพราะเท่าที่ไปเห็นมาในสนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีแค่ป้ายประกาศชี้แจงเกี่ยวกับไวรัสอีโบลา พร้อมกับจุดตรวจอุณหภูมิก่อนถึงด่านเช็กหนังสือเดินทาง ที่มีเจ้าหน้าที่กึ่งหลับกึ่งตื่นนั่งอยู่ไม่กี่คน

อีกอย่างที่มองข้ามกัน องค์การอนามัยโลกเคยระบุแล้วว่า ถึงผู้ติดเชื้อจะรอดตายหายดี แต่อีโบลาก็ยังอยู่ในน้ำเชื้ออสุจิได้นานถึง 3 เดือน คือถ้ามีอะไรกันนี่ก็รับรองว่ามีสิทธิโดนเต็มๆ

เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นานาชาติต่างรู้จักและก็อยากมา ระมัดระวังตัวไว้ก่อนน่าจะดีกว่ามานั่งแก้เมื่อสายเกินไปนะครับ.

ตุ๊ ปากเกร็ด