ซีอีโอปัจจุบัน
ในขณะที่อุตสาหกรรมแฟชั่นโลกกำลังถูกครอบครองโดยกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาลเพียงไม่กี่กลุ่ม เป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งที่น่าค้นหาคำตอบว่า เหตุใดแบรนด์เครื่องหนังอายุเก่าแก่กว่า 6 ทศวรรษของฝรั่งเศส เช่น “ลองฌอมป์” จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจครอบครัวไม่กี่เจ้า ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งโดยไม่ถูกกลืนกิน แถมยังสยายปีกขยายกิจการต่อเนื่องไปทั่วทุกมุมโลก
ในโอกาสที่ทายาทเจเนอเรชั่นสามของลองฌอมป์ “มร.ฌอง กาสแกร็ง” ซีอีโอคนปัจจุบัน เดินทางมาเยือนเมืองไทย เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เปิดใจเล่าถึงตำนานการสร้างชื่อของแบรนด์ลองฌอมป์ทุกแง่มุม พร้อมเผยอาวุธลับสุดยอดท็อปซีเคร็ต ที่ทำให้ลองฌอมป์ยังครองใจสาวๆทั่วโลกทุกรุ่นทุกวัยมาจนถึงปัจจุบัน
แบรนด์ “ลองฌอมป์” มีประวัติความเป็นมายาวนานขนาดไหน
“ลองฌอมป์” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1948 ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคุณปู่ของผม “มร.ฌอง กาสแกร็ง” เริ่มสร้างธุรกิจจากการผลิตไปป์ตกแต่งด้วยหนัง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ทหารอเมริกัน, ออสเตรเลีย และรัสเซีย รวมถึงคนดังๆของยุค อย่างเช่น “เอลวิส เพรสลีย์” เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คุณปู่และคุณพ่อของผมอยากจะขยายตลาด และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จึงหันไปผลิตสินค้าเครื่องหนังอื่นๆสำหรับผู้ชาย โดยเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องหนังขนาดเล็ก, เครื่องหนังขนาดกลาง และกระเป๋าสตางค์ รวมไปถึงกระเป๋าเดินทางที่ผลิตจากหนัง เพิ่งจะมาในยุคต้นทศวรรษ 1980 ที่พ่อของผมเปลี่ยนมาผลิตเครื่องหนังสำหรับผู้หญิง เพราะเห็นว่ามีกำลังซื้อสูงกว่าผู้ชาย อย่างไรก็ดี ในยุคนั้น ผู้หญิงมักซื้อกระเป๋าเพื่อประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงแฟชั่น ลองฌอมป์จึงเป็นกระเป๋าแฟชั่นแบรนด์แรกๆของฝรั่งเศส คุณปู่ของผมมีวิสัยทัศน์อินเตอร์มาก ท่านเดินทางไปเปิดตลาดในต่างประเทศตั้งแต่ยุคนั้น และเปิดแผนกเฉพาะเพื่อส่งออกสินค้าขายทั่วโลก โดยเริ่มจากอเมริกาและญี่ปุ่น แม้แต่ชื่อแบรนด์ก็ตั้งใจให้ออกเสียงง่ายในหลายๆภาษา
...
อะไรคืออาวุธลับที่สร้างความเหนือกว่าให้ “ลองฌอมป์” มาหลายทศวรรษ
นวัตกรรมและการเป็นผู้ผลิตเต็มตัว เมื่อเราตั้งใจผลิตกระเป๋าหนัง จึงได้ตัดสินใจไปเปิดโรงงานผลิตของตัวเองที่เมืองเซอเกร ทางตะวันตกของฝรั่งเศส จนถึงขณะนี้มีโรงงานทั้งสิ้น 6 แห่ง โรงงานเหล่านี้เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของช่างหนังฝีมือดี ที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูง ปัจจุบัน “ลองฌอมป์” เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ของยุโรปที่ผลิตเครื่องหนังด้วยตนเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าทุกขั้นตอน
ทั้งๆที่เป็นแบรนด์เก่าแก่ 66 ปี เหตุใดจึงครองความนิยมไม่เสื่อมคลาย
ผมคิดว่าจุดแข็งของเราอยู่ที่ความเป็นธุรกิจครอบครัว ทำให้เราไม่เปลี่ยนนโยบายบ่อย ครอบครัวเราถือคติมาตลอดว่า จะสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป แต่เติบโตอย่างยั่งยืน พ่อของผม “ฟิลิป กาสแกร็ง” เป็นผู้นำบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 1972 ส่วนผมเองก็เติบโตมาท่ามกลางเครื่องหนังและเข้ามาทำงานกับลองฌอมป์เต็มตัวเมื่อปี 1991 น้องชายคนเล็กของผม “โอลิเวีย กาสแกร็ง” ไปอยู่ที่นิวยอร์กเกือบ 15 ปี เพื่อดูแลธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ขณะที่น้องสาวอีกคน “โซฟี เดอลาฟองเตน”
รั้งตำแหน่งอาร์ตไดเรคเตอร์ แม้ทุกวันนี้ คุณพ่อจะขยับขึ้นไปเป็นประธานบริษัท และปล่อยให้ผมทำหน้าที่ซีอีโอดูแลงานบริหารประจำวัน แต่ท่านก็ยังแอคทีฟและเข้าออฟฟิศทุกวัน ท่านจะดูแลเรื่องดีไซน์และการออกแบบใกล้ชิด เพราะถือว่าความประณีตและคุณภาพของสินค้าคือหัวใจสำคัญของลองฌอมป์
ถูกวางตัวตั้งแต่เล็กๆเลยไหมว่าโตขึ้นจะต้องรับช่วงสืบทอดกิจการ
...
ตั้งแต่เด็กๆผมเดินทางตามคุณพ่อไปออกงานแสดงสินค้าในหลายประเทศทั่วโลก เติบโตคลุกคลีมากับเครื่องหนังของลองฌอมป์ ชีวิตนี้จึงไม่เคยคิดจะประกอบอาชีพอื่น นอกจากการดำเนินธุรกิจของครอบครัว หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากประเทศฝรั่งเศส ผมก็ออกไปหาประสบการณ์ทำงานที่นิวยอร์ก โดยเป็นที่ปรึกษาการบริหารธุรกิจ ก่อนจะกลับมาเริ่มทำงานเต็มตัวกับลองฌอมป์
ในฐานะซีอีโอ กลยุทธ์ไหนที่เน้นเป็นพิเศษเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
แม้ตลาดใหญ่ที่สุดของเราจะยังเป็นฝรั่งเศสและอเมริกา แต่เราก็พยายามหันมาโฟกัสที่ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียด้วย เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก โดยเฉพาะประเทศจีน ถือเป็นตลาดใหญ่ที่น่าจับตามองที่สุด ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เป็นตลาดที่เติบโตอย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ล้วนแต่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ประชากรของประเทศเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีกำลังซื้อสูงขึ้นพอที่จะจับจ่ายสินค้าคุณภาพจากยุโรป ปัจจุบันเราเปิดร้านมากกว่า 275 สาขาทั่วโลก และกำลังขยายสาขาเพิ่มขึ้นไปตามเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงลอนดอน, บาร์เซโลนา, มิวนิก, วอชิงตัน, ดูไบ รวมถึงการเปิดแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่บนถนนช็อปปิ้งชื่อดังของกรุงปารีส “ฌอมป์ เซลิเซ่” ขณะเดียวกัน ก็ขยายไลน์สินค้าไปยังสินค้าประเภทอื่นๆเพื่อให้ครบวงจร เรามีทั้งเครื่องหนังชิ้นเล็กๆ, เสื้อผ้าและรองเท้า
...
กระเป๋ารุ่นไหนเป็นรุ่นยอดฮิตขายดิบขายดีตลอดกาล
“เลอ ปลิยาจ” เป็นกระเป๋าไนลอนรุ่นแรกของโลกที่คิดค้นขึ้นโดยคุณพ่อของผม เมื่อปี 1993 ใช้วัสดุจากเต็นท์ทหาร ปัจจุบันมียอดขายกว่า 32 ล้านใบทั่วโลก กระเป๋ารุ่นนี้เป็นกระเป๋ายอดนิยมของสาวๆทุกรุ่นทุกวัย เพราะพับเก็บได้, น้ำหนักเบา, ทนทาน, หูจับผลิตจากหนังวัวพรีเมียม และเหมาะกับการใช้งานทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกัน ก็มีความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ และสามารถผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายกับความหรูหรา
รูปทรงโดดเด่นไม่เหมือนใครของ “เลอ ปลิยาจ” ได้แรงบันดาลใจจากไหน
“เลอ ปลิยาจ” เป็นศัพท์ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “พับ” คุณพ่อได้แรงบันดาลใจจากศิลปะการพับกระดาษโอริกามิของแดนอาทิตย์อุทัย ระหว่างเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น
การจับมือกับศิลปินดังๆระดับโลกให้ผลตอบแทนคุ้มค่าลงทุนไหม
(พยักหน้า) ที่ผ่านมา “ลองฌอมป์” ร่วมมือกับศิลปินชื่อดังมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานลิมิเต็ด เอดิชั่นใหม่ๆลงบนกระเป๋าไนลอนรุ่นฮิต ไม่ว่าจะเป็น เทรซี เอมิน, เจเรมี่ สก๊อต, แมรี่ แคทรานท์ซู และเคท มอส สำหรับปีนี้ เรามีโปรเจกต์ใหม่กับ “ซาราห์ มอร์ริส” นักวาดภาพชื่อดังสัญชาติอเมริกัน-อังกฤษ เพื่อสร้างสีสันสดใสใหม่ๆ
...
อะไรคือแม่เหล็กใหม่ของ “ลองฌอมป์” ที่จะดูดเงินจากกระเป๋าแฟนๆ
(ยิ้มกว้าง) “เลอ ปลิยาจ เอฮิตาจ” เป็นกระเป๋าไอคอนน้องใหม่ที่ภูมิใจมาก เพราะเป็นตัวแทนของงานฝีมือจากช่างเก่าแก่ที่มีประสบการณ์ตัดเย็บเครื่องหนังชั้นสูงของลองฌอมป์ ที่สั่งสมจากรุ่นสู่รุ่น โดยกระเป๋าแต่ละใบผลิตด้วยหนังวัวด้านคุณภาพสูงให้ผิวสัมผัสนุ่ม ยิ่งมีคุณค่าระดับขึ้นหิ้งเมื่อผสมผสานกับความประณีตในการตัดเย็บ เทคนิคการฟอกหนัง, ย้อมสี, วัดขนาด และตัดเป็นชิ้น นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์พิเศษ “เลอ ปลิยาจ เควียร์ เพอร์เซอนัลไลซ์” เปิดโอกาสให้แฟนๆได้เลือกออกแบบกระเป๋าหนังพับเก็บได้รุ่นดัง ตามสไตล์และสีสันเฉพาะตัว โดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศสจะรังสรรค์ขึ้นแบบใบต่อใบ จึงมีเพียงใบเดียวในโลก
อนาคตของ “ลองฌอมป์” จะเติบโตสยายปีกไปในทิศทางใด
ผมอยากพัฒนาแบรนด์ลองฌอมป์ให้เป็นตัวแทนความหรูหราในแบบฝรั่งเศส และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำสินค้าลักชัวรี่ของโลก.
ทีมข่าวหน้าสตรี