ผู้บำบัดยาเสพติดหนีจากสถานฟื้นฟูฯ เข้าร้องเรียนทหารนำกำลังบุกตรวจ แฉมีชายฉกรรจ์คอยทำโทษ ซ้ำเรียกเก็บค่าแรกเข้ากว่าครึ่งแสน ยังมีค่ารายเดือนและอื่นๆ อีกจิปาถะ ผญบ.เผย เคยเห็นกับตาว่าเด็กถูกทำร้าย แนะผู้เสียหายไปแจ้งความเอาผิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ต.ค. ได้มีชายวัย 33 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด เข้าพบ ร.ต.เสนีย์ ทองสุขศรี ผบ.ร้อยรักษาความสงบ อ.พนมสารคาม พร้อมให้ข้อมูลว่า บ้านเพียรพิทักษ์ สถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม มีผู้เข้าโครงการทั้งชายหญิงประมาณ 100 คนเศษ กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการถูกชายฉกรรจ์ ประมาณ 12 คน ที่ทำหน้าที่ดูแล ใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ผู้ฟื้นฟูทุกคนยังต้องเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้าจำนวนมากกว่า 50,000 บาท เสียรายเดือนอีกเดือนละ 12,000 บาท ไม่รวมค่าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวระหว่างฟื้นฟู โดยเฉพาะตอนเจ็บป่วยไม่มีหมอรักษา ต้องไปรักษาที่ รพ.พนมสารคาม ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท เป็นค่ารถที่เจ้าหน้าที่พาไป หากไม่เช่นนั้นก็ต้องซื้อยากินเม็ดละ 5 บาท
หลังได้ข้อมูล ทาง ร.ต.เสนีย์ จึงได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขของบ้านเพียรพิทักษ์ ทำทีว่าจะนำญาติเข้าบำบัดฟื้นฟู พร้อมสอบถามรายละเอียด โดยมีการบันทึกเสียงการสนทนาเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบ้านเพียรพิทักษ์ แจ้งว่า ต้องเตรียมเงิน 52,000 บาทเพื่อจ่ายงวดแรก พร้อมชุดเสื้อผ้าสำรองอีก 10 ชุด ส่วนรายเดือนๆละ 12,000 บาท โดยให้ติดต่อมาอีกครั้งจะมีคนชื่อ แบงก์ รับสาย ต่อมาได้มีการตกลงจะนำตัวผู้เข้าบำบัดเดินทางไปรักษาตัวในช่วงบ่าย เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน
ทาง ร.ต.เสนีย์ ทองสุขศรี ผบ.ร้อย รักษาความสงบ อ.พนมสารคาม จึงได้ประสานงานขอกำลังจาก ร.ท.สิทธิพร เฟื่องสำรวจ ผบ.ร้อย รักษาความสงบ อ.สนามชัยเขต (พัน ซรบ.กรม สน.พล.ร.2 รอ.) นายสุพจน์ ตรีรัตนนุกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.พนมสารคาม น.ส.ภิรมย์ สงวนทรัพย์ นักวิชาการสาธารณสุข รพ.สต.หนองแหน นายสมควร แซ่โค้ว สาวัตรกำนันตำบลหนองแหน และนายกำพล สุขประเสริฐ ผญบ.หมู่ 6 ต.หนองแหน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและ อส.จำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าตรวจสอบสถานฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด บ้านเพียรพิทักษ์ เลขที่ 59/7 ม.6 ต.หนองแหน ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.หนองแหน ประมาณ 100 เมตร
...
เมื่อไปถึง พบว่าประตูทางเข้าสถานฟื้นฟูแห่งนี้ถูกล็อกกุญแจอย่างหนาแน่น มีชายวัยรุ่นไขกุญแจเปิดประตูให้เข้าไปภายใน พบปลูกสร้างเป็นอาคารสองชั้นสองหลัง หลังหน้าเป็นสำนักงานติดต่อ มีชายวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน นั่งดูแลความเรียบร้อย ภายในอาคารหลังในมีวัยรุ่นที่เข้าร่วมฟื้นฟูอายุ 16 – 25 ปี นั่งอยู่ประมาณ 30 คน ที่โรงครัวด้านหลังประมาณ 30 คน และด้านหน้าห้องน้ำประมาณ 15 คน ส่วนในหอหญิงมีผู้ฟื้นฟู 4 คน นอกจากนี้ ยังอยู่กระจัดกระจายตามที่ต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง จากการดูด้วยสายตา ภายในพื้นที่มีบริเวณกว้างประมาณ 5 ไร่ มีการสร้างกำแพงสูงประมาณ 2 เมตร เหนือกำแพงมีรั้วลวดหนามหีบเพลง วางซ้อนกันอีก 2–3 ชั้น
ต่อมาได้มี นายนิพันธ์ เตรียมกิจไพศาล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/7 ม.6 ต.หนองแหน นำเอกสารอนุญาตให้ตั้งสถานฟื้นฟูบ้านเพียรพิทักษ์ จากสถาบันธัญญารักษ์ โดยนายวิโรจน์ วีระชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ เป็นผู้ลงนามอนุญาต เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2557 มีนายโชคชัย ทัพทวี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/48 ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส โดยอ้างว่า ผู้เข้าฟื้นฟูทั้งหมดมาจากทั่วประเทศ เสียค่าใช้จ่ายแรกเข้า 12,000 บาท รายเดือนๆ ละ 8,000 บาท มีระยะเวลาฟื้นฟู 1 ปี 6 เดือน หากหลบหนีผู้ปกครองจะต้องรับผิดชอบเงินประกันจำนวน 30,000 บาท ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างผู้ปกครองกับบ้านเพียรพิทักษ์
นายนิพันธ์ กล่าวว่า สถานฟื้นฟูฯ ดูแลผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี และมีการหลบหนีออกไปบ้าง ก็ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวกลับมา และมีการทำโทษเป็นบางครั้งกับผู้เข้ารับการฟื้นฟูที่พยายามหลบหนี แต่ไม่รุนแรง หรือทุบตี กระทำทารุณแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามที่พักและอาคารต่างๆ พบกุญแจมือแบบตำรวจ จำนวน 8 คู่ ปลอกกระสุนปืน ขนาด.357 จำนวน 19 ปลอก ไพ่ป๊อก 16 สำรับ และบุหรี่ยี่ห้อต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ฟื้นฟูเข้าห้องโถงใหญ่ นับได้ผู้หญิง 4 คน ชาย 101 คน ส่วนใหญ่ถูกนำตัวมาจากจังหวัดทางภาคใต้ มี 4 คน ถูกทำโทษด้วยการให้นั่งเก้าอี้เดี่ยวหันหน้าเข้าอ่านประกาศที่ติดไว้บนฝาผนัง สอบถามทราบว่าถูกให้ทำแบบนี้มานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศว่า ใครอยากกลับบ้านให้ไปนั่งอีกด้านหนึ่ง ปรากฏว่า มีผู้ฟื้นฟูชายมากกว่า 60 คน ลุกขึ้นออกจากกลุ่มย้ายไปนั่งรวมกัน ในจำนวนนี้มีชาย 1 คน ลุกขึ้นไปนั่งกับกลุ่มทหารในลักษณะหวาดกลัว สังเกตตามร่างกายและลำตัว มีรอยบาดแผลคล้ายถูกทุบตี พร้อมให้โทรศัพท์ติดต่อผู้ปกครองที่ จ.ระยอง ให้มารับตัวกลับเพราะอยู่ที่บ้านเพียรพิทักษ์มานานกว่า 2 ปีแล้ว ขณะที่ผู้ฟื้นฟูรายอื่นๆ พยายามให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็เพียงกระซิบบอกว่า มีกล้องวงจรปิด คาดว่ากลัวอันตรายหลังเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว
ด้านนายกำพล สุขประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้าน ม. 6 ต.หนองแหน กล่าวว่า เคยเจอมาด้วยตัวเองหลายครั้ง ที่มีวัยรุ่นที่หลบหนีออกไปจากบ้านเพียรพิทักษ์ แล้วถูกชายฉกรรจ์ที่ทำหน้าที่ดูแลติดตามตัว มีการใช้กำลังทำร้ายร่างกายแบบทารุณ ตนห้ามปรามและต่อว่าไปว่าอย่าทำร้ายเด็ก ก็ไม่ฟัง และเคยช่วยเด็กหลังที่ไปขอความช่วยเหลือ โดยติดต่อผู้ปกครองมารับตัวไป เพราะเด็กคงทนต่อพฤติกรรม หรือบางสิ่งบางอย่างไม่ได้
เช่นเดียวกับ นายสมควร แซ่โค้ว สารวัตรกำนันตำบลหนองแหน กล่าวว่า เรื่องบ้านเพียรพิทักษ์นั้น เกิดปัญหาลักษณะนี้มานานหลายปีแล้ว ชาวบ้านตำบลหนองแหนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้านี้ มีเยาวชนที่เข้าบำบัด พยายามหลบหนีออกจากบ้านแห่งนี้บ่อยครั้งมาก จนชาวบ้านผวาไปตามๆ กัน เคยนำเข้าที่ประชุมหมู่บ้านในเรื่องนี้ ว่าไม่สมควรตั้งเป็นสถานฟื้นฟูยาเสพติด แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขลงมาตรวจสอบว่า บ้านเพียรพิทักษ์ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูง
...
ขณะที่ ร.ต.เสนีย์ ทองสุขศรี กล่าวว่า ต้องให้เด็กอยู่ที่บ้านเพียรพิทักษ์ไปก่อน เพราะติดขัดเรื่องของบันทึกข้อตกลงระหว่างบ้านเพียรพิทักษ์กับผู้ปกครอง ขั้นตอนนี้ทำได้เพียงส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล ไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องของการทำร้ายทารุณอย่างที่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการอนุญาตนั้น จะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อตรวจสอบ ทั้งเรื่องของเงินจำนวนมากที่เป็นค่าใช้จ่าย รวมไปถึงข้อกฎหมายต่างๆ
"หากมีผู้เสียหายซึ่งเข้ารับการฟื้นฟูกล้าร้องเรียน ก็จะต้องไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง แล้วดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป" ร.ต.เสนีย์ กล่าว