พท.ถล่มสมชัยผลาญงบดูงาน 60นักวิชาการร่อนจม.เปิดผนึก จี้คสช.เลิกคุกคามอาจารย์-นศ.

“ประวิตร” เข้าทำเนียบฯไหว้ “พระพรหม-ศาลพระภูมิ” เอาฤกษ์ก่อนลุยงาน ตั้งตู้เลี้ยงปลามังกรหนุนดวงเสริมบารมี ฉุนสื่อรุมซัก ล็อกสเปกคัดเลือก สปช. ว้ากลั่นล็อกอย่างไร ที่ไหน อย่าถามชี้นำ “ยุทธนา” โผล่แฉอีกกรรมการสรรหา สปช.ยโสธรทำเกินหน้าที่ ตัดสิทธิผู้ได้รับเสนอชื่อมิชอบ จ่อฟ้องกลับกู้คืนศักดิ์ศรี-ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมนายกฯ พท.ชักแถวถล่ม “สมชัย” สวนนโยบาย คสช. ผลาญงบดูงานประชามติสกอตแลนด์ จี้ “บิ๊กตู่” ตั้งกรรมการสอบด่วน “กกต.สมชัย” ขอบคุณ “โอ๊ค” ช่วยตรวจสอบ นัด 23 ก.ย. แจงคุ้มค่าได้ประโยชน์ 60 นักวิชาการจาก 16 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศลุกฮือ ร่อน จ.ม.เปิดผนึกประณาม คสช. โวยลั่นเลิกคุกคามคณาจารย์-นักศึกษา ลิดรอนเสรีภาพทางวิชาการ

การคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในขั้นตอนสุดท้ายงวดเข้ามาทุกขณะ ท่ามกลางการร้องเรียนจากผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.จังหวัดหลายแห่ง ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่องว่ากระบวนการพิจารณาสรรหา อาจมีปัญหาความไม่โปร่งใส และมีการเล่นพรรคเล่นพวก

อดีต ส.ว.โวยอีกเฟ้น สปช.มิชอบ

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีต ส.ว.ยโสธร ผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. จ.ยโสธร กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.ยโสธร ให้ตรวจสอบกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จ.ยโสธร ที่ทำเกินหน้าที่ ตัดสิทธิผู้เข้ารับการสรรหา สปช.จ.ยโสธรหลายคนโดยไม่ถูกต้องตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการสรรหาสมาชิก สปช. โดยตนและผู้เข้ารับการสรรหาจำนวนมากถูกตัดสิทธิ เนื่องจากเคยถูกร้องเรียนและถูกฟ้องร้อง ทำให้ขาดคุณสมบัติการสมัคร ทั้งที่คุณสมบัติดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ฎ.การสรรหาสมาชิก สปช. ถือว่ากรรมการสรรหา จ.ยโสธรทำเกินหน้าที่ ทราบว่าฝ่ายเลขาธิการคณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งเป็น กกต.ยโสธรเป็นผู้ชงเรื่องการตัดสิทธิเข้ามา ทำให้กรรมการสรรหาเข้าใจผิด ตัดสิทธิตนและผู้เข้ารับการสรรหาอีกหลายคน ถือเป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครคนอื่น เพื่อช่วยเหลือคนที่ตัวเองสนับสนุนให้ได้รับการสรรหาเป็น สปช.

...

ยื่นร้อง “บิ๊กตู่” ขอความเป็นธรรม

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ทราบถึงกระบวนการคัดเลือกที่ไม่ถูกต้อง และกำลังพิจารณาฟ้องร้องกรรมการสรรหา จ.ยโสธร ที่ใช้ดุลพินิจไม่ต้องถูกตัดสิทธิผู้เข้ารับการสรรหา การที่ต้องร้องเรียนเพื่อต้องการให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องในการทำงาน เพราะเรื่องที่ถูกร้องเรียนเป็นเรื่องเก่า ตั้งแต่สมัยได้รับเลือกเป็น ส.ว.ยโสธร ปี 51 แต่ยังได้รับการรับรองให้เข้ามาเป็น ส.ว. ดังนั้นจึงต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อขอความเป็นธรรม ไม่ให้เกิดการใช้บรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องมากล่าวหาตนอีกต่อไป จนกลายเป็นคนมีตำหนิ

จี้ คสช.เคลียร์ก่อนบานปลาย

นายเจตน์ ศิราธรานนท์ สนช. ในฐานะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูป (สปช.) ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่มีอดีต ส.ว.ร้องเรียนการสรรหา สปช.ในบางจังหวัดไม่โปร่งใสว่า เป็นเรื่องของแต่ละคนไปร้องเรียนได้ หากพบว่าการสรรหาไม่โปร่งใสและยุติธรรม มีการเล่นพวก คิดว่าบางพื้นที่อาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเรื่องนี้ คสช.คงต้องเร่งตรวจสอบและพิจารณาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อย่าปล่อยไว้ เพราะจะทำให้ความยุติธรรมหมดไป แต่ในส่วนกลางทั้ง 11 ด้าน คิดว่าไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะมีวิธีการคัดสรรบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบ ได้คนเหมาะสมในแต่ละด้าน

ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานีกล่าวว่า ในต่างจังหวัดถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการเล่นพรรคเล่นพวก ข้าราชการในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ ต้องอิงฝ่ายการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อยู่ได้ยาก การสรรหา สปช.บางพื้นที่ยังมีกลุ่มการเมือง และผู้ต้องการผลประโยชน์แฝงอยู่ ดังนั้น คสช.ต้องจัดการหากอยากให้เกิดความปรองดอง

“บิ๊กป้อม” เลี้ยงปลามังกรเสริมบารมี

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.09 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ โดยขึ้นไปสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ถวายรูปปั้นช้าง 1 คู่ ผลไม้ 9 ชนิด ขนมหวาน 9 ชนิด จากนั้นลงมาสักการะศาลพระภูมิ ศาลตา ยาย โดยถวายตุ๊กตานางรำ สาวสี สาวใช้ และช้างม้า แล้วเดินมาทักทายสื่อมวลชนที่มารอติดตามทำข่าวว่า “วันนี้วันหยุด มากันทำไม ไม่หยุดกันหรือ” จากนั้นขึ้นห้องทำงาน บนชั้น 4 ตึกบัญชาการ และเดินทางกลับออกจากทำเนียบฯไปเวลา 15.49 น. ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ทีมงานของ พล.อ.ประวิตรนำตู้ปลาซึ่งมีปลามังกรเกล็ดทอง 1 ตัว มาตั้งประดับไว้ในห้องทำงาน พล.อ.ประวิตร ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งปลามังกรตามความเชื่อโชคลางของคนจีนและคนเอเชียนับถือเป็นสัตว์มงคล เลี้ยงไว้เพื่อเสริมมงคล ความรุ่งเรือง มั่งคั่ง โชคลาภ อำนาจ บารมี

ปลูกไทรอังกฤษกั้นรังนกกระจอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงวันหยุดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.คนงาน ช่างจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กทม.และทำเนียบรัฐบาล ยังคงเข้าปรับปรุงอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ทำเนียบฯ โดยคนสวนประจำทำเนียบฯ นำต้นไทรอังกฤษ ความสูง 2.5 เมตร จำนวน 50 ต้น มาปลูกเรียงเป็นกำแพงความยาวประมาณ 10 เมตร ด้านข้างห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 (รังนกกระจอก) ประจำทำเนียบฯ ฝั่งติดกับสวนหย่อมหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำให้ผู้สื่อข่าวในรังนกกระจอก 1 มองการเคลื่อนไหวภายในทำเนียบฯได้ยากขึ้น และจะมีการปลูกต้นไทรอังกฤษตลอดแนวด้านหลังตึกนารีสโมสรด้วย ซึ่งผู้รับผิดชอบงบประมาณปลูกต้นไทรอังกฤษระบุว่าใช้งบประมาณไม่เกิน 100,000 บาท ตกราคาต้นละกว่า 1,000 บาท รวมอยู่ในโครงการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล ที่เริ่มปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าว และสวนหย่อมหน้าตึกบัญชาการ

“ประวิตร” แจง รธน.ยุบ 14 อรหันต์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาลถึงการยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ 117/2557 ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า เป็นการทำตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดชัดเจน การคัดเลือก สปช.เป็นเรื่อง คสช.เพราะฉะนั้น คสช.ก็จะมีเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.และผู้บริหาร คสช.ทำงานเรื่องนี้ คนที่ไม่อยู่ใน คสช.ไม่สามารถทำได้

ฉุนว้ากสื่อซักล็อกสเปกคัด สปช.

เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนล็อกสเปก สปช.พล.อ.ประวิตร หันหน้าไปยังผู้สื่อข่าวที่ถามพร้อมกล่าวพร้อมน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ล็อกสเปกไหน พูดหลายทีเหลือเกิน ล็อกยังไง เล่าให้ผมฟังซิ หนูลองล็อกซิ” โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า แต่มีการตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตรยังคงตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกว่า “จะล็อกยังไงบอกซิครับ คุณต้องบอกซิวิธีล็อก เขาล็อกยังไง คนสมัครตั้ง 7,000 คน จะล็อกยังไง และมีคณะกรรมการสรรหา สปช.ตั้ง 77 คน ด้านละ 7 คน ใน 11 ด้าน อย่าไปพูดล็อกสเปก ล็อกยังไงบอกด้วย ผมอยากล็อก มันล็อกได้ไหม ล็อกได้ไหมคะ ล็อกยังไง มันไม่ได้ คนเขามีตำแหน่งหน้าที่ เป็น ดร. เป็นศาสตราจารย์ทั้งนั้น ทุกคนอยากทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปพูด ไม่ดีหรอกครับ ถามนำในทางที่ไม่ดี ถ้าน้องทำได้บอกวิธีล็อกสเปกมา”
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า สปช.ที่ได้จะเป็นที่มั่นใจของประชาชน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พยายามหาในทุกภาคส่วน แต่จะให้ทุกคนยอมรับได้หมดหรือไม่ ตนไม่ทราบ พยายามหาทุกพื้นที่ หาผู้ที่มีคุณวุฒิตั้งแต่ปริญญาเอกลงมาจนถึงไม่มีปริญญา และมีทุกอาชีพให้มีความรู้หลากหลาย เพื่อจะมาปฏิรูปทุกเรื่องใน 11 ด้าน

ไม่กล้ายันไร้คลื่นใต้น้ำป่วน

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามทำให้ประเทศเดิน พยายามทำให้ประเทศนิ่ง แต่ทุกคนอ่านไม่ออกหรอกว่าคิดอย่างไร แต่ต้องอยู่ในระเบียบกฎหมาย ถ้าไม่อยู่ในกฎหมายต้องพูดกัน เพราะขณะนี้เราต้องการความสงบ ความเรียบร้อย ความปรองดองของคนในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ เมื่อถามว่ายังพบมีคลื่นใต้น้ำอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า บอกไม่ได้ว่ามีหรือไม่มี แต่เท่าที่ปรากฏขณะนี้ ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีความกังวล เพราะต้องทำให้ประเทศ ประชาชน เดินไปข้างหน้าให้ได้ เมื่อถามว่าจะเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงอยู่แล้ว ในฐานะดูงานด้านความมั่นคง สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงแทนได้ และมีรองนายกฯฝ่ายต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าที่ตน

“ไพบูลย์”เรียกหาหลักฐาน

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช.กล่าวว่า ไม่แน่ใจถึงเหตุผลของการยกเลิกคำสั่ง คสช.ให้ตั้ง 14 คณะกรรมการคัดเลือกสมาชิก สปช. ขอให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตามรัฐธรรมนูญให้อำนาจ คสช.เป็นผู้คัดเลือกสมาชิก สปช. ที่ได้รับจากคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และกรรมการสรรหาประจำจังหวัดจำนวน 250 คนอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ คสช.ยังไม่ได้รับรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหา ทราบว่ายังคัดเลือกไม่แล้วเสร็จ โดยหลักการเมื่อคัดเลือกเสร็จแล้วต้องส่งให้เลขาธิการ คสช.เพื่อเสนอต่อ คสช.พิจารณา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจังหวัดสุรินทร์ มีการล็อกสเปกสรรหา สปช.นั้น การพูดว่าล็อกสเปกจะต้องมีหลักฐาน จะรู้ได้อย่างไรว่ากรรมการสรรหาจะเลือกใคร แต่ไม่ใช่ผู้ไม่ได้รับการสรรหาเป็น สปช.แล้วบอกว่ามีการล็อกสเปก จึงถามกลับว่าคุณสมบัติล็อกสเปกคืออะไร ต้องพูดให้ชัดเจนด้วย

ให้ ปชช.รอตัดสินผลงานจริง

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษา กล่าวว่า เมื่อมาตรา 30 (6) ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กําหนดให้ คสช.เป็นผู้คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการ
แต่งตั้งเป็น สปช.อยู่แล้ว การตั้งคณะกรรมการคัดเลือก สปช.ก็ไม่มีความจำเป็น ที่มองว่าเป็นความผิดพลาดของ คสช.ไม่ขอวิจารณ์ ถึงแม้ยุบคณะกรรมการคัดเลือก สปช.เชื่อว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามที่กำหนด ต้องส่งรายชื่อให้ คสช.พิจารณาภายในวันที่ 22 ก.ย.ยังพอมีเวลา สำหรับการร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการสรรหา สปช. ระดับจังหวัด คงเป็นเพราะอาจเกรงว่าจะมีขบวนการช่วยเหลือกัน คงต้องรอผลงานว่าเมื่อออกมาแล้วประชาชนยอมรับหรือไม่ สื่อมวลชนต้องจับตาดู ทั้งนี้การสรรหา สปช.ด้านการศึกษาส่งการบ้านไปแล้ว คงไม่สายเกินรอ และหวังว่าตอบสังคมได้ อย่างน้อยด้านการศึกษาที่รับผิดชอบได้พิจารณาอย่างรอบคอบจริงๆ

ดักคอส่อเค้าลากตั้งซ้ำรอย สนช.

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า กรณี คสช.ออกคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช.ว่า ความจริงการตั้งกรรมการขึ้นมาตอนต้นดูเข้าท่า ประชาชนรับทราบแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร จู่ๆ มายกเลิกไปต้องอธิบายให้ได้ว่าคืออะไร การจะกลับไปให้ คสช.เลือกทั้งหมด ไม่ต่างจากการเลือก สนช.ที่ผ่านมา เป็นพรรคพวกตัวเองทั้งนั้น ประเภทยกมือปุ๊บผ่านปั๊บทุกเรื่อง ที่บอกว่าจะมาปฏิรูปประเทศ สังคมคงต้องตั้งคำถามแล้ว และการทำแบบนี้สอดคล้องกับที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเราจะเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ตรงนี้ความหมายคืออะไร จะเป็นประชาธิปไตยนะจ๊ะใช่หรือไม่ อาจเป็นประชาธิปไตยแบบพม่า กัมพูชา จีน อาจเป็นประชาธิปไตยที่สังคมโลกไม่ยอมรับ ฉะนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์ออกมาอธิบายให้ชัด ทุกคนตั้งใจฟังท่านอยู่แล้ว จะเอาอย่างไรบอกมาเลย วันนี้ประเทศถอยหลังไป 8 ปีแล้ว จะถอยอีกก็ไม่เป็นไรลองดู

“นิพิฏฐ์” สับแค่ผลัดกันเกาหลัง

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวการสรรหา สปช.ระดับจังหวัดมีการล็อกสเปก ตามที่อดีต ส.ว.จังหวัดต่างๆออกมาร้องเรียนว่า ตามปกติหลักการคัดเลือกคนมาทำงาน โดยเฉพาะการสรรหาที่ใช้คำอ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ควรต้องเปิดเผยโปร่งใส ประกาศให้สังคมรู้เพื่อจะร่วมตรวจสอบได้ว่าเป็นคนดีจริง มีความรู้ความสามารถจริงหรือไม่ ไม่ใช่ปกปิดเช่นนี้ และเคยบอกแต่ต้นแล้วว่าที่สุดก็เป็นแค่กรรมการที่ผลัดกันเกาหลัง คือตัวแทนกรรมการที่คัดเลือก 5 ฝ่ายของจังหวัดที่มี ผวจ. หัวหน้าศาล ประธาน กกต.จังหวัด นายก อบจ.และตัวแทนองค์กรเอกชน แต่ละคนไปเลือกคนมา 3 คน รวม 15 คนแล้วคัดเหลือ 5 คน ก็ต้องเลือกคนที่ตัวเองเสนอมาแต่ละคน

ท้าประกาศชื่อพิสูจน์โปร่งใส

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ที่สำคัญการสรรหาที่ระบุให้เป็นความลับ ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องลับ แทนที่จะให้ประชาชนแต่ละจังหวัดตรวจสอบว่าตรงใจหรือไม่ เช่นอดีต ส.ว.ที่ออกมาให้ข่าว ทำงานในพื้นที่ พบปะชาวบ้านจนชาวบ้านยอมรับเลือกมาได้คะแนนเป็นแสน แต่ไม่ถูกเลือกไปเลือกอดีตข้าราชการ หรือคนที่ชาวบ้านไม่รู้จัก ยิ่งเป็นความลับก็ไม่รู้ว่า ผวจ.จะเลือกลูกน้องตัวเอง นายก อบจ.จะเลือกอดีต ส.จ.สอบตกมาเป็น สปช.หรือไม่ ออกจะแปลกประหลาด ถ้ากล้าประกาศให้สังคมรู้ชื่อทั้ง 15 คนว่ากรรมการแต่ละคนเสนอชื่อใครมา และเลือกเหลือ 5 คนเป็นใครบ้าง เมื่อตรวจสอบจะรู้ว่าผลัดกันเกาหลังจริงหรือไม่

อาสาปฏิรูปต้องกล้าโชว์ทรัพย์สิน