สยองเกาะเต่า ตร.ปิดท่าเรือ ตามล่าไอ้โหด
2 หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวชาว อังกฤษ ถูกฆาตกรรมอำมหิต ทิ้งศพประจานความเหี้ยมบนชายหาดเกาะเต่า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.สุราษฎร์ธานี หลังช่วงหัวค่ำเข้าร่วมงานปาร์ตี้ริมทะเล ตกดึกแยกตัวออกจากกลุ่มไปพลอดรักกันด้านหลังโขดหินปลายแหลม จปร. รุ่งเช้าพบทั้งคู่เป็นศพถูกฆ่าเปลือย ตำรวจคาด 2 หนุ่มสาวแอบมามีเพศสัมพันธ์กันในที่ลับตา แต่ไอ้หื่นมาเห็นเข้าเลยเกิดอารมณ์ทำร้ายฝ่ายชายสิ้นใจ ก่อนลากตัวหญิงสาวไปข่มขืน เหยื่อต่อสู้เจอจอบทุบหัวแบะ สงสัยฝีมือแรงงานต่างด้าวก่อเหตุ หรืออาจเป็นคู่เกย์ของฝ่ายชายที่แค้นคู่ขาหนีไปกิ๊กสาวชาติเดียวกัน ผบช.ภ.8 บินด่วนดูสถานการณ์ สั่งปิดเกาะไล่ล่าฆาตกรทมิฬให้ได้โดยเร็ว
เหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 08.50 น.วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.ท.จักรพันธ์ แก้วขาว พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ประจำหน่วย สภ.ย่อยเกาะเต่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบศพนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ราย ถูกฆาตกรรมทิ้งศพบนชายหาดรี ต.เกาะเต่า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน ชุดสืบสวน ภ.จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินด่วนไปยังเกาะเต่า ร่วมกับแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ชันสูตรศพ
จุดเกิดเหตุอยู่หลังโขดหินริมชายหาด ด้านปลายแหลม จปร.ของหาดทรายรี พื้นที่หมู่ 2 ต.เกาะเต่า พบศพนักท่องเที่ยวชาวยุโรป 2 ราย รายแรกเป็นหญิง ทราบชื่อ น.ส.ฮานน่าห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ นอนหงายเปลือยกาย อวัยวะเพศฉีกขาด ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งและมีคมจนกะโหลกหน้าผากยุบ ใกล้กันมีรองเท้าแตะสีชมพู เสื้อยืดสตรีสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีเทาดำ เสื้อยืดผู้ชายสีเทา และกางเกงในสีขาววางอยู่ ห่างไปราว 20 เมตร ในซอกหินพบศพชายนอนเปลือยกายคว่ำหน้าอยู่ในน้ำทะเล ระดับน้ำสูงราว 50 ซม. ทราบชื่อนายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ ถูกตีด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอยจนกะโหลกศีรษะแตก ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ คราบเลือดแดงฉานเปรอะเปื้อนบนพื้นทรายขาวละเอียด ส่วนบริเวณใต้ต้นสนบนชายหาดพบจอบขุดดินด้ามไม้เปื้อนเลือด ถุงปุ๋ยสีแดง และถุงยางอนามัยใช้แล้ว 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
...
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการจัดงานปาร์ตี้ที่ริมชายหาด บริเวณหน้าโอเชี่ยนวิว บังกะโล ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 30 เมตร โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน ดื่มกินและเต้นรำกันจำนวนมาก กระทั่งดึกงานเลิก จึงแยกย้ายกันกลับที่พัก ต่อมาเวลา 06.17 น. มีแรงงานชาวพม่าลงไปทำความสะอาดที่ชายหาดพบรอยเลือดจำนวนมาก จึงเดินตามรอยเลือดไปจนพบศพ และรีบมาบอกให้นายจ้างชาวไทยทราบ ก่อนแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ สอดคล้องกับแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพระบุทั้งคู่เสียชีวิตมาราว 6-8 ชั่วโมง
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายทั้ง 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ โดยนายเดวิด วิลเลียม เดินทางเข้ามาพร้อมเพื่อนชาย 2-3 คน ผ่านด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.57 ส่วน น.ส.ฮานน่าห์ วิคตอเรีย เดินทางมาพร้อมเพื่อนผู้หญิง 4 คน ผ่านด่าน ตม.สุวรรณภูมิ เช่นกัน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.57 โดยที่ทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเข้าพักที่โอเชี่ยนวิว บังกะโล ได้พักห้องติดกัน นายเดวิดและ น.ส.ฮานน่าห์จึงมีความสนิทสนมกัน ก่อนเกิดเหตุทราบว่าทั้งหมดออกไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ชายหาดหน้าโรงแรม ซึ่งจากการสอบปากคำเพื่อนๆของ น.ส.ฮานน่าห์ ทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนได้ปลีกตัวออกจากงานปาร์ตี้หายไปด้วยกันทั้งคืน กระทั่งมาพบศพในช่วงรุ่งเช้าดังกล่าว
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการสืบสวน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทั้งคู่อาจมีเพศสัมพันธ์กันที่บริเวณโขดหินที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีคนร้ายมาพบเห็นและเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงทำร้ายร่างกายนายเดวิดที่พยายามต่อสู้ แต่คนร้ายมีจอบเป็นอาวุธ และใช้ทำร้ายนายเดวิดจนเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายพยายามข่มขืน น.ส.ฮานน่าห์ แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืน คนร้ายโมโหคว้าจอบทุบหัวเหยื่อเสียชีวิตไปอีกราย ส่วนอีกประเด็น ผู้ก่อเหตุอาจเป็นเพื่อนชายของนายเดวิด เนื่องจากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่พบพิรุธบางอย่าง และตามร่างกายผู้ต้องสงสัยมีรอยขีดข่วนและมีแผลฉกรรจ์ที่หลังมือ อาจเป็นไปได้ว่าผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเป็นคู่เกย์ของนายเดวิด ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำ
“เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุยังคงอยู่ในเกาะเต่า เนื่องจากคาดการณ์เวลาเกิดเหตุอยู่ช่วงเวลา 03.00-05.00 น. จึงคาดว่าคนร้ายยังไม่สามารถออกจากเกาะได้เพราะมีคลื่นลมแรง ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน เร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกัน ให้เร่งตรวจตราอย่างละเอียดในทุกท่าเรือ และห้ามเรือทุกลำออกจากเกาะโดยเด็ดขาด ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย นำส่งตรวจชันสูตรที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว” พล.ต.ต.เกียรติพงศ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะพะงันทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างแสดงความโกรธแค้นคนร้ายรายนี้ ที่ก่อเหตุฆาตกรรมสยองกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากจะส่งผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดยรวม รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเกาะสมุยและเกาะพะงัน ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะเต่า และเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวกันที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวทั้ง 3 เกาะ ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นมีคลื่นลมมรสุม ปกตินักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวเกาะแก่งน้อยอยู่แล้ว เมื่อมาเกิดเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้ จะยิ่งส่งผลลบต่อธุรกิจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะพะงันจึงประกาศรวมตัวปิดท่าเรือทุกแห่งบนเกาะเต่า เพื่อกดดันไม่ให้คนร้ายออกจากพื้นที่ และเร่งให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นแรงงานต่างด้าวเนื่องจากผู้พักอาศัยบนเกาะเต่าที่เป็นคนไทยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ และคงไม่ยอมทุบหม้อข้าวตนเองแน่
ด้านนางวรรณี ไทยพานิชย์ นายกสมาคมส่งเสริม การท่องเที่ยวเกาะพะงันกล่าวว่า การฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 2 รายในครั้งนี้ หากสาเหตุเกิดจากแรงงานต่างด้าวจริง จะต้องรีบดำเนินการจัดระเบียบโดยเร่งด่วน เนื่องจากสภาพสถานประกอบการบนเกาะเต่าใช้แรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายจ้างควรตระหนักและให้ความสำคัญด้วย เพราะลักษณะการก่อเหตุของแรงงานต่างด้าวมีความ รุนแรงกว่าคนไทย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะสั้น และตำรวจควรเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
...
ขณะที่สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพี รายงานข่าวนี้ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน เป็นเพศชายและหญิง อายุ 24 ปีเท่ากัน ถูกพบเป็นศพเปลือยไม่ไกลจากบังกะโลที่พัก ริมชายหาดของเกาะเต่า แหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังชื่อดังในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการตรวจสอบเบื้องต้น ตำรวจพบรอยแผลหลายจุดตามร่างกาย รวมทั้งแผลลึกเหวอะหวะที่ศีรษะของผู้ตายทั้ง 2 คน และยังพบเสื้อผ้าของเหยื่อและจอบเปื้อนคราบเลือดอยู่ใกล้ๆด้วย จึงตั้งประเด็นสงสัยว่าทั้ง 2 คนอาจถูกทำร้ายด้วยจอบ โดยตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหาร โรงแรมและร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเพื่อแกะรอยหาตัวคนร้ายต่อไป