เสมา 1 ลั่นเดินหน้าปฏิรูปศึกษาทั้งระบบ ปักธงยกระดับคุณภาพ-ดึงคนเรียนอาชีวะ รับหนักใจ พร้อมอ้อนขอเวลา...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ และ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เดินทางเข้า ศธ.เป็นวันแรก โดยได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ศธ.ก่อนมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร ศธ. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ จากนั้นได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
โดย พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า ที่ผ่านมา คุณภาพการศึกษายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ได้รับ จึงเป็นการบ้านสำคัญที่รัฐมนตรีและชาว ศธ.ต้องช่วยกันเดินหน้าปฏิรูป โดยได้มอบ 5 นโยบายทั่วไป ได้แก่ การพัฒนาและปฏิรูปการศึกษาต้องยึดหลักการมีส่วนร่วม กระจายอำนาจ และความต้องการของทุกภาคส่วนในสังคม การสร้างโอกาสทางการศึกษาในสังคมไทย ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ต้องมีการพัฒนาระบบการศึกษาและหลักสูตรเพื่อยกระดับความรู้ให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานสากล
...
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเฉพาะ 7 ด้าน อาทิ การพัฒนาการศึกษาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 และการดำรงความต่อเนื่องภายหลังการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน และสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย โดยต้องดำเนินการให้เห็นผลภายใน 1 ปี
ขณะเดียวกันยังมีนโยบายเร่งด่วนอีก 10 ด้าน อาทิ เร่งสำรวจและเยียวยารวมทั้งฟื้นฟูโรงเรียน สถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย เร่งแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เร่งสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา ปรับภาพลักษณ์ และกำหนดมาตรการเพื่อจูงใจให้นักเรียน นักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครองส่งเสริมให้บุตรหลานเข้ามาเรียนสายอาชีวศึกษามากขึ้น เพราะถือเป็นกำลังสำคัญสร้างชาติ โดยอาจจะเพิ่มตัวเลขผู้เข้าเรียนให้ได้ร้อยละ 50-60 หรือ 70 เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ตนให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ที่ต้องเห็นผลภายใน 3 เดือน
“ผมได้หารือกับผู้บริหาร ศธ.แล้ว ทุกคนพร้อมที่จะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาไปพร้อมๆกัน ดังนั้น เชื่อว่าจะสามารถปฏิรูปการศึกษาได้สำเร็จ เพียงแต่อาจต้องใช้เวลา ผมอาจรู้สึกหนักใจบ้าง เพราะงานการศึกษา ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่มีความซับซ้อน และต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ จะว่ายากกว่าการบริหารงานในกองทัพเรือก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม มีเป้าหมายไว้ในใจแล้วว่า ต้องการจะยระดับคุณภาพการศึกษาให้ได้ ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้าง ศธ.นั้น ถ้าส่วนไหนจำเป็นต้องปรับ เพราะเป็นปัญหาต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ก็คงต้องทำ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้าน ส่วนการมอบหมายงานนั้นสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน” พล.ร.อ.ณรงค์กล่าว
ด้าน ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวว่า การแบ่งงานจะลงตัวในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม การพัฒนางานอุดมศึกษานั้น ต้องสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลคือ ผลิตกำลังคนตามที่ตลาดแรงงานต้องการ ไม่ใช่ตามความต้องการของผู้เรียน ขณะที่ พล.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนพร้อมดูแลงานทุกด้านที่ได้รับมอบหมาย และเป็นผู้เสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการด้วยว่า ควรแบ่งงานให้ดูแลตามเนื้องานในภาพรวม.