เมื่อเหล่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือฤกษ์งามยามดีสวมชุดไทยสีสันหลากตาเข้าประชุมงานที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทหารกล้า อาทิ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พากันสวมชุดผ้าไทยสีฟ้ากันเป็นขบวน ซึ่งปัจจุบันจะเห็นชุดรูปแบบแขนสั้นและแขนยาวอยู่บ่อยครั้ง เมื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชน โดยชุดดังกล่าวมีชื่อว่า "ไทยพระราชนิยม"
ไฉน ครม.'ประยุทธ์' สวมชุดผ้าไทย?
ไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรือไม่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์สั่ง ครม.สวมใส่ชุดไทยพระราชนิยมโดยพร้อมเพรียงกันในการประชุม ครม.หรือไม่ ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วกันว่า "สีฟ้า" ถือเป็นสีสัญลักษณ์ของวันแม่ 12 สิงหามหาราชินี อีกทั้งชื่อ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ถือเป็นเหล่าทหารองครักษ์ และได้รับพระราชทานสมญานามจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ นามว่า "เหล่าทหารเสือนวมินทราชินี" หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า"ทหารเสือราชินี" นั้น ก็เป็นหน่วยทหารสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รับราชการไต่เต้า มาตั้งแต่ต้น จนได้เป็น ผบ.ทบ. จึงอาจไม่น่าแปลกที่ ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจสวมใส่ชุดไทยสีฟ้า เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย แม้ว่าสีประจำค่ายทหารหน่วยนี้ความจริงจะเป็นสีม่วงก็ตามที
...
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องหมายเชิดชูเกียรติทหารเสือ ซึ่งผู้ที่สำเร็จการฝึกหลักสูตรทหารเสือทุกนาย จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายแสดงขีดความสามารถทหารเสือ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ องค์ผู้บังคับการพิเศษ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ซึ่งเข็มดังกล่าวทำด้วยโลหะ เป็นรูปหัวใจสีม่วงประดับพระนามาภิไธยย่อ สก. เบื้องล่างมีแพรแถบสีฟ้า บรรจุข้อความว่า "ทหารเสือ" ด้านข้างมีรูปเสือทะยานอยู่เหนือภูเขา เกลียวคลื่น ก้อนเมฆ ขนาบข้างหัวใจสีม่วงทั้งสองด้าน
โดยสัญลักษณ์ต่างๆ ในเครื่องหมายเชิดชูเกียรติทหารเสือของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ มีความหมายดังนี้ 1. หัวใจสีม่วงประดับพระนามาภิไธยย่อ สก. หมายถึง ผู้บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต และจริงใจ ทั้งนี้ เพราะผู้ที่ใกล้ตาย หัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง ในห้วงเวลานั้น บุคคลผู้นั้นจะไม่พูดปดหรือปิดบังสิ่งใด ๆ
2. เสือประคองหัวใจสีม่วง หมายถึง กำลังพลทหารเสือทุกนายเทิดทูนความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีแทบเบื้องพระยุคลบาท
และ 3. ภูเขา เกลียวคลื่น ก้อนเมฆ หมายถึง ทหารเสือทุกนายพร้อมจะดั้นด้นไปทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบนฟ้า พื้นดิน ภูเขา หรือในทะเล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของชาติ และองค์พระมหากษัตริย์
ด้าน ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มาไขข้อข้องใจกรณีดังกล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ โดยยืนยันว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมไปถึงคณะ ครม.ต้องสวมใส่ชุดไทยสีฟ้า เข้ามาประชุมนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่า ความเป็นจริงไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ว่าตอนแรก มีการขอกันว่า ให้ใส่ชุดไทยแต่ไม่ได้กำหนดว่า ต้องเป็นสีฟ้าหรือสีอะไร แต่เหตุที่เป็นสีฟ้า เป็นเพราะทุกคนเพิ่งตัดชุดนี้ใช้กัน ในงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ คนใน ครม.จึงมีอยู่แล้ว ทั้งยังเป็นชุดไทยตามที่กำหนดกันเอาไว้ตั้งแต่แรก นั่นจึงเป็นที่มาของการใส่ชุดไทยในวันนั้น มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ โดยเฉพาะเหตุผลที่มีการพูดกันไปต่างๆ นานาว่า ทำไมนายกฯและครม.ต้องสวมใส่ชุดไทยสีฟ้า ส่วนที่มีหลายอย่างไปตรงกับตัวท่านพล.อ.ประยุทธ์นั้น เห็นว่าเป็นความบังเอิญมากกว่า ซึ่งตัวผมเองและครม.อีกหลายๆ คนที่ไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนั้นก็ไม่ได้ใส่ชุดสีฟ้าแต่อย่างใด และมีหลายสีอีกด้วย
ย้อนรอย ชุดไทยพระราชนิยม
ที่ผ่านมาชาวไทยมีการแต่งกายที่เป็นลักษณะเฉพาะของตนเองมาช้านาน และมีวิวัฒนาการสืบต่อกันมาเป็นลำดับ ส่วนหนึ่งได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรม การแต่งกายจากต่างประเทศ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมการแต่งกายแบบตะวันตก เป็นแบบสากลนิยม แต่ในบางโอกาสก็ไม่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศ ชุดไทยพระราชนิยมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแต่งกายของชาวไทยยุคปัจจุบัน เพื่อใช้สวมใส่ในโอกาสสำคัญต่างๆ
อีกทั้งการสวมใส่ยังแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติไทย เนื่องจากมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ดิน ฟ้า อากาศ และสามารถเลือกใช้เนื้อผ้าที่ผลิตได้เองในประเทศ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไทย และก่อให้เกิดรายได้และเงินทุนหมุนเวียนภายในประเทศอีกทางหนึ่ง โดยชุดไทยพระราชนิยมของชายและหญิงมีหลายแบบ ซึ่งจะคัดเลือกเฉพาะแบบที่สะดวกใช้ในชีวิตประจำวัน และโอกาสสำคัญที่สามารถนำแบบไปประยุกต์และปรับปรุงให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล
สาวปูมหลังก่อนเป็นชุดพระราชนิยม
การแต่งกายดังกล่าวเป็นแบบไทยตามแนวพระราชนิยม โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2500 – 2525 จนเป็นวิวัฒนาการการแต่งกายแบบไทย ซึ่งในอดีต สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริว่า "ไทยเรายังไม่มีชุดแต่งกายประจำชาติที่เป็นแบบแผนเหมือนชาติอื่นๆ" นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป และสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ก็เป็นราชการสำคัญ จึงโปรดฯ ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ได้หารือกับผู้รู้ทางประวัติศาสตร์ ค้นคว้าเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของไทยสมัยต่างๆ และโปรดฯ ให้คุณอุไร ลืออำรุง ช่างตัดฉลองพระองค์เลือกแบบต่างๆ มาดัดแปลงแก้ไขให้เหมาะสม จัดเป็นชุดไทยพระราชนิยมหลายชุด และกำหนดให้เลือกใช้ในวาระต่างๆ กัน
จึงทำให้การแต่งกายของสตรีไทยได้นิยมตามแบบที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารในพระองค์ แสดงแบบเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2507 ณ เวทีสวนอัมพร ในโอกาสครบรอบร้อยปีของกาชาดสากล
จากนั้นมา พล.อ. เปรม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จึงได้ดำริให้มีการแต่งกายชุดประจำชาติสำหรับบุรุษ เพื่อให้การแต่งกายสอดคล้องกับสตรี โดยได้ขอพระราชทานเครื่องแต่งกาย และได้รับโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยต่อมาเรียกว่า ชุดพระราชทาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คนไทยได้มีเครื่องแต่งกายอันมีลักษณะเฉพาะเป็นของตนเอง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2523 อนุมัติให้แบบเสื้อชุดไทยพระราชทาน ใช้แทนชุดสากลได้
ชุดไทยพระราชนิยมของสตรี
รูปแบบชุดไทยของสตรีในปัจจุบันได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริปรับรูปแบบชุดไทย ให้เหมาะสมกับโอกาสต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและงามสง่า ประกอบด้วย
1. ชุดไทยเรือนต้น ใช้ในโอกาสที่ไม่เป็นพิธีการ เช่น งานกฐิน งานทำบุญต่างๆ ผ้าซิ่นมีริ้วตามยาวหรือขวาง ป้ายหน้ายาวกรอมเท้า สีของเสื้อจะกลมกลืนหรือตัดกับซิ่นก็ได้ คอกลมตื้นไม่มีขอบ แขนสามส่วน ผ่าอก กระดุม 5 เม็ด
2. ชุดไทยจิตรลดา ใช้ในพิธีกลางวัน ซิ่นใช้ผ้าไหมเกลี้ยงมีเชิงหรือยกดอกทั้งตัวผ้า ซิ่นยาวกรอมเท้า ป้ายหน้า ตัวเสื้อแขนยาวผ่าอก คอกลมมีขอบตั้ง
3. ชุดไทยอัมรินทร์ ใช้งานพิธีตอนค่ำ ผ้าซิ่นใช้ผ้ายกไหมที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งตัว ซิ่นยาวกรอมเท้า ป้ายหน้าตัวเสื้อแขนยาว ผ่าอก คอกลมมีขอบตั้ง ผู้สูงอายุ อาจใช้คอกลมกว้างไม่มีขอบตั้ง แขนสามส่วน
4. ชุดไทยบรมพิมาน ใช้ในพิธีตอนค่ำ โดยใช้เข็มขัดยกผ้าไหม หรือยกทอง มีเชิงหรือยกทั้งตัวได้ เป็นชุดติดกัน ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า ยาวจรดข้อเท้า ที่ชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด เสื้อแขนยาว คอกลม มีขอบตั้ง ผ่าด้านหน้า หรือด้านหลังก็ได้ ชุดไทยแบบนี้ ใช้ในงานเต็มยศ หรือครึ่งยศ งานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ใช้เครื่องประดับงดงาม เป็นชุดที่เจ้าสาวนิยมใช้ใส่ในการเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ หรือพิธีรดน้ำสังข์ ชุดนี้ต้องคาดเข็มขัดทอง ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สวมสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือและเกี้ยวประดับผม
5. ชุดไทยจักรี เป็นชุดไทยแบบหนึ่งของชุดไทยพระราชนิยม ใช้ในพิธีเต็มยศงานราตรี ผ้านุ่งจีบยกข้างหน้ามีชายพก คาดเข็มขัดไทย และห่มสไบ ผ้ายกเป็นแบบมีเชิง หรือยกทั้งตัว ท่อนสไบ จะเย็บติดกับซิ่นหรือแยกต่างหากก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่ ทิ้งชายยาวด้านหลังพอสมควร เหมาะกับพิธีเลี้ยงฉลองสมรส สามารถสวมเครื่องประดับทองครบชุด อันได้แก่ สร้อยคอ สร้อยสังวาล สร้อยข้อมือ ต่างหู รัดแขน และเข็มขัด เป็นต้น
6. ชุดไทยดุสิต เน้นการปักตกแต่งเสื้อ ผ้าซิ่นยกไทยหรือทอง คาดชายพก ด้วยเข็มขัดไทย ตัวเสื้อแบบคอกลมกว้าง ไม่มีแขน ผ่าหลังปัก แต่งลวดลาย ที่ตัวเสื้อใช้ในงานพระราชพิธี ที่กำหนดให้แต่งเต็มยศ เป็นอีกชุดที่เจ้าสาวนิยมใช้เป็นชุด ในงานเลี้ยงฉลองสมรส ควรสวมสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู และเข็มขัด โดยใช้เครื่องประดับ ที่เป็นชุดกัน
7. ชุดไทยจักรพรรดิ นิยมสวมใส่ชุดไทยชุดนี้ ในงานเลี้ยงช่วงค่ำ ใช้ผ้ายกทั้งตัว มีเชิงยกไหมทองหรือดิ้นทอง ผ้าซิ่นจีบ หน้านางมีชายพกคาด เข็มขัดไทย แล้วห่มสไบ ปักด้วยดิ้นและพลอย ทับบนสไบอัดจีบ ใช้เครื่องประดับ และมักประดับด้วยสร้อยคอ สร้อยสังวาล สร้อยข้อมือ เข็มขัด รัดเกล้า และต่างหู
8. ชุดไทยศิวาลัย มักนิยมใส่ชุดไทยชุดนี้ ในพิธีรดน้ำสังข์หรือพิธีเลี้ยง ฉลองงานในตอนค่ำ ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง ตัดแบบติดกันซิ่นยาวจีบ หน้านางมีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ตัวเสื้อแขนยาว คอกลม มีขอบตั้ง เล็กน้อย ผ่าหลัง ตัวเสื้อตัดติดกับซิ่นคล้ายแบบไทยบรมพิมาน แต่ห่มผ้า ปักลายไทยใช้ในโอกาสพิเศษ ที่กำหนดให้ แต่งกายเต็มยศเจ้าสาวของไทย และมักประดับด้วยเครื่องประดับทองได้แก่ สร้อยคอ สร้อยสังวาล เข็มขัด ต่างหู และรัดเกล้า
เสื้อพระราชทานของบุรุษ
1. แบบแขนสั้น เป็นเสื้อคอตั้งสูงประมาณ 3.5 - 4 ซม. ตัวเสื้อเข้ารูปเล็กน้อย ผ่าอกตลอด มีสาบกว้างประมาณ 3.5 ซม. ขลิบรอบคอและสาบอก ปลายแขนขลิบหรือพับแล้วขลิบที่รอยเย็บ ติดกระดุม 5 เม็ด กระดุมมีลักษณะเป็นรูปกลมแบนทำด้วยวัสดุหุ้มด้วยผ้าสีเดียวกันหรือคล้ายคลึงกับเสื้อ กระเป๋าบนมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เป็นกระเป๋า เจาะข้างซ้าย 1 กระเป๋า กระเป๋าล่างเป็นกระเป๋าเจาะข้างละ 1 กระเป๋า อยู่สูงกว่าระดับกระดุมเม็ดสุดท้ายเล็กน้อย ขอบกระเป๋ามีขลิบ ชายเสื้ออาจผ่ากันตึง เส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เดินจักรทับตะเข็บ
2. แบบแขนยาว เป็นเสื้อคอตั้งสูงประมาณ 3.5 - 4 ซม. ตัวเสื้อเข้ารูปเล็กน้อย ผ่าอกตลอด มีสาบกว้างประมาณ 3.5 ซม. ขลิบรอบคอและสาบอก ติดกระดุม 5 เม็ด กระดุมมีลักษณะเป็นรูปกลมแบนทำด้วยวัสดุหุ้มด้วยผ้าสีเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกับเสื้อ กระเป๋าบนมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เป็นกระเป๋าเจาะข้างซ้าย 1 กระเป๋า กระเป๋าล่าง เป็นกระเป๋าเจาะข้างละ 1 กระเป๋า อยู่สูงกว่าระดับกระดุมเม็ดสุดท้ายเล็กน้อย ขลิบที่ขอบแขนเสื้อ ตัดแบบเสื้อสากล ปลายแขนเย็บทาบด้วยผ้าชนิดและสีเดียวกันกับตัวเสื้อ กว้างประมาณ 4 - 5 ซม. โดยเริ่มจากตะเข็บด้านในอ้อมด้านหน้า ไปสิ้นสุด เป็นปลายมนทับตะเข็บด้านหลังชายเสื้ออาจผ่ากันตึง เส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เดินจักรทับตะเข็บ.
เอาเป็นว่าชุดไทยพระราชนิยมสีฟ้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ และเหล่าทหารสวมใส่ ด้วยรอยยิ้มทักทายให้กับสื่อมวลชนที่รอปักหลักทำข่าว พร้อมท้องฟ้าที่สดใสไร้เงาเมฆฝนในวันนั้นของ ครม.ประยุทธ์ ถือเป็นการ "เอาฤกษ์เอาชัย" ให้เดินหน้าประเทศไทยต่อไป สมกับเป็น "วันฟ้าใหม่" ก็แล้วกัน...