ข่าวกรอง น่าจะแว่วอะไรตั้งเค้ามา

ตามปรากฏการณ์ที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปฏิบัติราชการรอง ผบช.น.

เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับความมั่นคง ร่วมกับตำรวจ ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร

ก่อนมีคำสั่งคุ้มกันเข้มอาคารรัฐสภา

โดยให้ทหาร ตำรวจ ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันม็อบป่วนในวันที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย
ถึงขั้นเตรียมแผนอพยพคนในสภาไปในที่ปลอดภัย หากเกิดความวุ่นวาย

งานนี้คงไม่ใช่แค่เทกแอ็กชั่นโชว์บทดุข่มขวัญกัน

เพราะไม่จำเป็นฝ่ายถืออำนาจคงไม่ต้องการกระพือกระแสให้แตกตื่นในสถานการณ์ที่กำลังประคองบรรยากาศให้นิ่งเท่าที่จะนิ่งได้

ที่แน่ๆเลย มันน่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่มือมืดโปรยใบปลิวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์และทีม คสช.เกลื่อนถนนราชดำเนิน เย้ยกันไม่เว้นแม้หน้ากองบัญชาการกองทัพบก

ขณะที่เจ้าตัวหัวหน้า คสช.ก็ยอมรับกลางสภา การต่อต้านยังมีอยู่ทุกที่ เพียงแต่รอเวลา

สรุปว่ายังไม่กล้าละสายตา ประมาทไม่ได้

แต่เรื่องของเรื่องที่เห็นกันอยู่ตรงหน้า ณ ห้วงนี้ก็คือคิวของพวกที่คิดว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน กับอาการเฮี้ยวๆของเครือข่ายพันธมิตรฯที่เดินเกมกดดันกระบวนการปฏิรูปพลังงาน พุ่งเป้าไปที่การลุยล้างผลประโยชน์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

เร้ากระแสกดดันแบบกัดไม่ปล่อย

ต่อเนื่องกับจังหวะความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานภาคใต้ ที่เริ่มเดินเท้าจากจังหวัดสงขลามุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ รณรงค์ปฏิรูปพลังงานตามแนวทางของพันธมิตรฯ

โดยไม่สนใจทหารที่มีคำสั่งเรียกแกนนำเข้าพบและมีคำสั่งให้เครือข่ายฯหยุดเดินขบวนโดยไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก ซึ่งประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักรอยู่ในขณะนี้

...

เริ่มปฏิบัติการ “แหย่” ลองของลองเชิงอำนาจพิเศษ

จริงอยู่มันยังเป็นแค่จุดดำเล็กๆ ที่ไม่น่ามีอันตรายต่อ คสช.ที่กำลังห้าวเป้ง แน่นปึ้ก

แต่มันจะกลายเป็นเชื้อไฟปะทุ ลุกลามเร็วเมื่อถึงเวลาที่มีเชื้อผสมโรง

โดยเฉพาะในจังหวะที่ คสช.พลาดพลั้ง สะดุดกระแสสังคม อารมณ์ของประชาชนเริ่มเบื่อเซ็งกับการบริหารภายใต้รัฐบาลท็อปบูต

แบบที่โคตรเซียนยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” ทำนายไว้ จากแรงกดดันด้านการบริหารเศรษฐกิจ และการปฏิรูปการเมืองที่ทำได้ยาก

ไม่เกิน 1 ปี คสช.ต้องปล่อยคืนอำนาจแน่

และก่อนอื่นเลย มันก็ประเมินได้กับการที่ คสช.ต้องเผื่อสถานการณ์ในการประคองความชัวร์

วางคนในขุมข่ายไว้ใจได้ล็อกทุกจุด

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) มีมติเห็นชอบให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่

ตอกย้ำพลังขุมข่าย “บูรพาพยัคฆ์”

เบื้องหลังใครเกี่ยวโยงกันมาอย่างไร แทบไม่ต้องสาธยาย ทั้งวงในวงนอกรู้กันหมดแล้ว

แต่ที่ต้องแกะรอยตามหลังจากนี้ กับกระแสที่โยงไปถึงการตั้งพรรคการเมืองของทหาร ที่กำลังอยู่ในขั้นก่อร่างสร้างตัว เพื่อให้แล้วเสร็จภายในปีหน้าให้ทันเลือกตั้งใหญ่

แน่นอนด้วยปรากฏการณ์หัวขั้วอำนาจใหม่ที่กำลังสปาร์กอยู่ที่ “บูรพาพยัคฆ์” ตามกระแสมันก็เลยหนีไม่พ้นชื่อของพี่น้องค่ายสีน้ำเงินอย่าง “เสี่ยเน” เนวิน ชิดชอบ กับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล บอสใหญ่ค่ายภูมิใจไทย เข้าไปมีเอี่ยวด้วย

ในฐานะรับเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในดีลนี้.

ทีมข่าวการเมือง