กองทัพอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาต่อเนื่องในช่วงเช้าวันพุธ หลังการโจมตีเมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย ขณะที่ผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮามาส ประกาศจะไม่หยุดยิงหากอิสราเอลไม่เลิกปิดกั้นชายแดน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอิสราเอลโจมตีถล่มฉนวนกาซาต่อเนื่องเป็นวันที่ 23 เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (30 ก.ค.) ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 ราย หลังจากเมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.) ถือเป็นวันที่นองเลือดที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลมากกว่า 100 คน ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์
ผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันพุธรวมถึง 20 ราย ที่โรงเรียนขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่หลบภัยสำหรับอพยพหลบหนีเหตุความรุนแรงในกาซา โดยเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติออกมายืนยันเรื่องเหตุโจมตีที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ค่ายผู้ลี้ภัย 'จาบาเลีย' พวกเขาระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5:30 น. กระสุนปืนใหญ่ตกใส่ห้องน้ำและห้องเรียน 2 แห่ง
ด้าน นายอัชราฟ อัล-คูดรา โฆษกสำนักงานฉุกเฉิน เผยด้วยว่า การระดมปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ทางเหนือของฉนวนกาซาในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้เด็กหญิงทุพพลภาพวัยเพียง 11 ปีเสียชีวิต และจากการโจมตีพื้นที่ใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกทำให้หญิงสาวอายุ 16 ปีเสียชีวิตด้วย ไม่นานหลังจากนั้น เกิดการโจมตีที่เมืองคาน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ทำให้ครอบครัวซึ่งมีสมาชิก 9 คน เสียชีวิตทั้งหมด และมีชายวัยกลางคนเสียชีวิตในการโจมตีที่เมืองราฟาห์ด้วย
ขณะเดียวกัน นายโมฮัมหมัด เดอีฟ ผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ออกมาประกาศกร้าวเมื่อคืนวันอังคารว่า พวกเขาจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ทั้งสิ้น หากข้อตกลงดังกล่าวไม่รวมการยุติการรุกรานของอิสราเอล และเลิกปิดกั้นชายแดนของกาซา
...
ทั้งนี้ อิสราเอลประกาศเริ่มปฏิบัติการป้องกันชายแดน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กลุ่มติดอาวุธฮามาสยุติการยิงจรวดใส่อิสราเอล เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ก่อนจะเริ่มใช้กองกำลังภาคพื้น เพื่อทำลายเครือข่ายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสในสัปดาห์ต่อมา โดยเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,262 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเมือง ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลสูญเสียทหารไป 53 นาย และมีพลเมืองในอิสราเอลเสียชีวิต 3 ราย รวมทั้งแรงงานชาวไทย 1 คน