เปิดที่มาคลิปฉาว นายทหารถาม ผกก.ว่า "เขาดูแลท่านเดือนละเท่าไร" เกิดขึ้นที่ จ.น่าน หลังทหารร่วมสนธิกำลังจับไม้เถื่อน บ่อนพนัน และผู้ต้องหารายหนึ่งเป็นตำรวจยศ ด.ต. เตรียมลงดาบเอาผิดทั้งทางวินัย-อาญา
เมื่ิอวันที่ 23 มิ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปการจับกุมไม้เถื่อน หวยเถื่อน บ่อนการพนัน และอาวุธปืน ของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ จ.น่าน ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีนายทหารคนหนึ่ง กล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ทำนองว่าปล่อยปละละเลย หรืออาจรู้เห็นเป็นใจให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายนั้น เรื่องนี้เป็นการดำเนินการของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน สนธิกำลังเข้าตรวจค้นผู้มีอิทธิพล ผู้ลักลอบตัดไม้ พ่อค้าไม้ ยาเสพติด บ่อนการพนัน และอาวุธสงคราม พร้อมกับมีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา
ทัั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าว นำโดย พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน พร้อมด้วย นายอุกริช พึ่งโสภา ผวจ.น่าน นายประสิทธิ์ พัฒนใหญ่ยิ่ง ผอ.สำนักงานทรัพยากรสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน พ.อ.ธงชัย มีอนันท์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 32 พ.ต.อ.สมพงษ์ สวนคร้ามดี รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตำรวจป่าไม้ เข้าตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.ปัว และ อ.เชียงกลาง จ.น่าน หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ทางตู้ ปณ. 555 จังหวัดทหารบกน่าน ว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการลักลอบค้าไม้หวงห้ามและบ่อนการพนัน จำนวน 2 เป้าหมาย
...
หลังแรกตรวจค้นที่บ้านร้อง หมู่ 4 ต.ปัว พบไม้ท่อนและไม้แปรรูป จำนวน 103 แผ่น/ท่อน จากนั้นได้เข้าตรวจค้นไร่พิมานมาศ ของดาบตำรวจสมบูรณ์ แก้วโก ประจำ สภ.เชียงกลาง พบไม้หวงห้ามที่แปรรูปแล้ว กว่า 500 แผ่น เลื่อยวงเดือน 1 เครื่อง รถยนต์ 4 คัน รถ จยย.9 คัน อาวุธปืนสั้น 3 กระบอก อาวุธปืนลูกซอง 2 กระบอก กระสุนลูกซอง 10 นัด กระสุนปืนสงคราม M.16 จำนวน 28 นัด แม็กกาชีน M.16 จำนวน 1 อัน อุปกรณ์เล่นการพนัน โพยหวยใต้ดินหลายรายการ และเงินสดจำนวน 9,000 บาท โดยอาวุธปืน รถยนต์ และรถ จยย.ที่ตรวจยึดส่วนหนึ่งผู้ครอบครองอ้างว่ามีผู้นำมาจำนำไว้ ซึ่งในส่วนผู้กระทำผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะถูกดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คือ การที่เจ้าหน้าที่ทหารระดับผู้บังคับบัญชานายหนึ่ง ได้ตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจยศผู้กำกับ ที่นิ่งเฉยไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ซึ่งถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังใจความตอนหนึ่ง ดังนี้
นายทหาร : "ถามจริง เขาดูแลท่านเดือนละเท่าไร" (ไม่มีคำตอบ) นายทหาร : "ผู้การมาถึงเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีใครมาทำคดีเลย ต้องมารอเจ้าของท้องที่อีก" (นายตำรวจรีบโทรศัพท์ไปตามเจ้าหน้าที่มาทำคดี) นายทหาร : "ที่เขาไม่แจ้งผู้กำกับก่อน นายอำเภอก่อน เพราะเขารู้อะไรเป็นอะไร อะไรอยู่ข้างใน พวกขยะใต้พรม เพราะที่เขาร้องเรียนไปเขาก็บอกก่อนเลยว่าอย่าแจ้งตำรวจ ไม่งั้นก็จะไม่เจออะไร จะเจอแต่ความสวยงาม ก็บอกแล้วว่าใครแตะของร้อนอยู่เดิม ก็ให้ถอยซะก่อนนะ ก็ให้โอกาสถอยกันแล้ว เราไม่ถอยกันเอง ไอ้เรื่องเก่าเราก็พยายามไม่เอามาคิดแล้ว แต่ถ้าบอกให้ถอยแล้วยังไม่ถอย ไม่ถอนตัวกัน ก็ไม่รู้จะว่าไงนะ ผู้กำกับยื้อเวลาแบบนี้ มันไม่เป็นผลดีกับผู้กำกับเลย"
ทางด้าน นายอุกริช พึ่งโสภา ผวจ.น่าน กล่าวว่า หลังจากทาง คสช. ยึดอำนาจ ทำให้ทางฝ่ายทหารปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้น โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกฝ่าย เป็นผลให้ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน มีศักยภาพในการทำงานมากขึ้น.
ชมคลิป ที่นี่