ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน พร้อมกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าวระบบน้ำใต้ดินมีปัญหา เป็นเหตุให้นักเรียน-ครู ท้องเสีย หลังดื่มน้ำ เตรียมวางระบบน้ำใหม่ ป้องกันปัญหาเกิดขึ้นซ้ำสอง...
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 57 ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ดร.วรนุช ตรีวิจิตรเกษม ผู้อำนวยการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กรุงเทพฯ กรมควบคุมโรค นพ.โรม บัวทอง และทีมสอบสวนโรคจากสำนักระบาดวิทยา พญ.สิริทัย จารุพูนผล ผอ.ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวถึงกรณีที่นักเรียนและครู ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ท้องเสียหลายคน ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 6 มิ.ย. 57 จนต้องสั่งหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว ซึ่งต่อมาโรงเรียนทราบถึงสาเหตุว่า เกิดจากระบบน้ำในโรงเรียนมีปัญหา เพราะมีระบบน้ำบางส่วนอยู่ใต้ดิน และอาจมีรอยรั่วซึมจนทำให้มีเชื้อโรคปนเปื้อน ซึ่งขณะนี้โรงเรียนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ดร.วรนุช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โรงเรียนได้รับรายงานว่า มีครูและนักเรียนป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงจำนวนมาก และมีบางรายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยทยอยป่วยตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ค. 57 ทางโรงเรียนจึงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ก่อนประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่วมกันหาสาเหตุ รวมทั้งมีการส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) เข้าตรวจสอบอาหารและน้ำดื่ม สอบถามนักเรียนที่ติดเชื้อ รวมถึงตรวจอุจจาระเพื่อหาเชื้อโรคที่อาจเป็นสาเหตุของการป่วย
กระทั่งพบว่ามีการปนเปื้อนจากเชื้อไวรัสในน้ำ สาเหตุคาดว่ามาจากบ่อพักน้ำดิบที่ถูกติดตั้งเอาไว้ใต้ดินเกิดการแตกร้าว เนื่องจากการยุบตัวของดินในกรุงเทพฯ ทำให้เชื้อไวรัสสามารถปนเปื้อนเข้ามาในระบบน้ำดื่มได้ ทางโรงเรียนจึงดำเนินการทุบบ่อพักน้ำดังกล่าวทิ้ง ก่อนจะจัดวางระบบน้ำใหม่ มีการทำความสะอาดระบบน้ำดื่มทั้งหมดภายในโรงเรียน โดยผ่านการฆ่าเชื้อด้วยวิธีคลอรีนช็อก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
...
ทางด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า โรงเรียนได้ตรวจจับและเฝ้าระวังอาการป่วยของนักเรียน และเริ่มพบผู้ป่วยเป็นนักเรียนตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.57 มีอาการไข้ อาเจียน ถ่ายเหลว วินิจฉัยว่า เป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โดยตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. - 6 มิ.ย.57 พบผู้ป่วยเป็นนักเรียน จำนวน 846 คน ครู 70 คน คิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนนักเรียนและครูทั้งหมด
ทั้งนี้ โรงเรียนได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กทม. และเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค จึงได้มาสอบสวนโรค พบว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคในน้ำ จึงมีการแนะนำให้มีการปรับปรุงระบบน้ำ จากเดิมมีการเก็บน้ำไว้ไต้ดินเพราะฉะนั้น อาจมีการรั่วซึมของระบบน้ำ โรงเรียนได้มีการปรับปรุงนำบ่อพักน้ำมาไว้บนดินแล้ว จากนี้จะมีการเฝ้าระวังต่อว่ามีเด็กป่วยหรือไม่ เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
"ฤดูนี้ไม่ใช่อุจจาระร่วงระบาด แต่เกิดขึ้นได้ ในแต่ละปีมีรายงานผู้ป่วยเดือนละ 1 แสนราย ตั้งแต่ ม.ค.- พ.ค. 57 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยกว่า 5 แสนราย ไม่มีการระบาดหนัก ส่วนชุมชนรอบ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน ก็ไม่พบการป่วยด้วยโรคนี้ที่ผิดปกติ ไม่ต้องตื่นตระหนกว่ามีโรคระบาด ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วง สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นด้วยการดื่มน้ำผสมผงเกลือแร่ สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ควรให้โรงเรียนมีการตรวจสอบและเฝ้าระวังน้ำดื่มและน้ำแข็ง อาหารบริจาค โดยเฉพาะโรงเรียนต่างจังหวัด ควรเข้มงวดกำชับ ติดข้อมูลว่าผลิตเมื่อไร รวมถึงนมโรงเรียน และระบบปรุงอาหารในโรงเรียนต้องมีการตรวจสุขภาพและเข้มงวดเรื่องสุขาภิบาลกับผู้ปรุง" นพ.โอภาส กล่าว
ขณะที่ นพ.โสภณ กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างน้ำ น้ำกรองจากตู้กดน้ำ น้ำแข็งที่ผลิตเอง และอุจจาระจากผู้ป่วยเพื่อส่งตรวจพบว่า เชื้อก่อโรค ทำให้มีอาการป่วยระยะเวลาที่สั้น จึงเข้าได้กับเชื้อไวรัส โดยเป็นเชื้อโนโรไวรัสและโรตาไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่พบได้ว่าเป็นเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ที่ไม่ทำให้มีอาการรุนแรงจนทำให้เสียชีวิต เว้นแต่ในผู้ป่วยที่มีการถ่ายมาก หรืออาเจียนมาก ไม่ใช่เชื้อไวรัสที่แปลกใหม่ เดิมโนโรไวรัสและโรตาไวรัส จะพบเป็นสาเหตุอุจจาระร่วงได้บ่อยในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนประเทศไทยส่วนใหญ่เชื้อก่อโรคจะเป็นแบคทีเรีย แต่ระยะหลังพบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสมากขึ้น.