ยังคงลุ้นระทึกกันต่อไปนะครับ สำหรับเหตุการณ์ทางการเมืองของบ้านเราที่ยังไม่มีใครคาดเดาถูกว่าจะลงเอยฉันใด? จะจบอย่างดราม่าน้ำตาท่วมจอ หรือแฮปปี้เอนดิ้ง ยังต้องลุ้นต่อไปอีกพักใหญ่ๆ
สำหรับผมทั้งวิงวอน ทั้งภาวนาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยครั้งแล้วก็ไม่รู้ว่า อยากให้จบสวยๆแบบแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนหนังไทยยุคก่อน...วันนี้ ขอภาวนาอีกครั้งก็แล้วกัน
ครับ! ก็เกริ่นเรื่องการเมือง พอไม่ให้ตกข่าวเท่านั้นแหละ มาพูดถึงข่าวดีๆกันดีกว่า เผื่อจะทำให้จิตใจของท่านผู้อ่านสดชื่นขึ้นมาบ้าง
นั่นก็คือ ข่าวจาก องค์การอนามัยโลก เมื่อวันก่อนที่ว่า ประชากรของโลกมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
เฉพาะค่าเฉลี่ยของโลกอย่างเดียว WHO บอกว่า ผู้หญิงทั่วโลกอายุขัยเฉลี่ย 73 ปีแล้วครับ ในขณะที่ผู้ชายอายุขัยเฉลี่ย 68 ปี
ดีขึ้นกว่าเมื่อปี 1990 ราวๆ 6 ปี ทั้งชายและหญิง
แต่ถ้ามองเป็นรายประเทศ จะพบว่าในปัจจุบันนี้ ประเทศที่มีประชากรหญิงอายุยืนที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น ซึ่งอายุขัยโดยเฉลี่ยถึง 87.0 ปีเลยทีเดียว นับเป็นแชมป์โลกอายุยืนฝ่ายหญิงว่าอย่างนั้นเถิด
รองแชมป์ในอันดับถัดไป ได้แก่ 2. สเปน เฉลี่ย 85.1 ปี, 3. สวิตเซอร์แลนด์ เฉลี่ย 85.1 ปี, 4. สิงคโปร์ 85.1 ปี, 5. อิตาลี 85.0 ปี, 6. ฝรั่งเศส 84.9 ปี, 7. ออสเตรเลีย 84.6 ปี, 8. เกาหลีใต้ 84.6 ปี, 9. ลักเซมเบิร์ก 84.1 ปี และ 10. โปรตุเกส 84.0 ปี
ส่วนแชมป์โลกฝ่าย ชาย นั้น เป็นของไอซ์แลนด์ครับ อายุขัย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 81.2 ปี สูงกว่าผู้ชายทุกๆประเทศในโลก
รองแชมป์เรียงตามลำดับได้แก่ 2. สวิตเซอร์แลนด์ 80.7 ปี, 3. ออสเตรเลีย 80.5 ปี, 4. อิสราเอล 80.2 ปี, 5. สิงคโปร์ 80.2 ปี, 6. นิวซีแลนด์ 80.2 ปี, 7. อิตาลี 80.2 ปี, 8. ญี่ปุ่น 80.0 ปี, 9. สวีเดน 80.0 ปี และ 10. ลักเซมเบิร์ก 79.7 ปี
...
ครับ! ก็คงต้องแสดงความยินดีกับญี่ปุ่นที่ครองแชมป์โลกอายุยืนฝ่ายหญิง และไอซ์แลนด์ แชมป์โลกฝ่ายชายไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
โดยเฉพาะญี่ปุ่นเป็นชาติที่น่าอิจฉามากครับ นอกจากจะเป็นแชมป์โลกฝ่ายหญิง อายุเฉลี่ย 87 ปีแล้ว ฝ่ายชายของเขาก็เป็นอันดับ 8 ของโรคอายุเฉลี่ยถึง 80 ปี
สิงคโปร์เพื่อนร่วมอาเซียนของเราก็น่าอิจฉาไม่เบา ฝ่ายหญิงติดอันดับ 4 ของโลก ในขณะที่ฝ่ายชายก็ติดอันดับ 5 โลก
ของไทยเราในรายงานข่าวไม่ได้บอกไว้ แต่จากการตรวจสอบกับสถิติของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้หญิงไทยอายุเฉลี่ย 78.1 ปี วัดเมื่อ พ.ศ.2556 หรือปีกลายครับ ในขณะที่ผู้ชายอายุเฉลี่ย 71.1 ปี
ถ้ามองย้อนอดีตกลับไปก็ถือว่าอายุขัยเฉลี่ยของเราก็ดีขึ้นมาก เผอิญผมไม่มีสถิติอยู่ในมือ จำได้ว่า ชายไทยเมื่อ 10 ปีก่อนเฉลี่ย 65-66 ปีเท่านั้น เดี๋ยวนี้เฉลี่ย 71 ปีเศษแล้ว ก็ต้องถือว่าดีขึ้นอย่างน่าพอใจ
องค์การอนามัยโลกให้เหตุผลว่า ความสำเร็จที่ทำให้ผู้คนมีอายุขัย ยืนยาวขึ้นเป็นผลมาจากการพัฒนาทางด้านสาธารณสุขและยารักษาโลก ตลอดจนการให้ความรู้ด้านออกกำลังและการกินอาหารที่ถูกลักษณะอนามัยของรัฐบาลต่างๆทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักๆก็ยังมีอยู่มากสำหรับประเทศที่มีการพัฒนาน้อย หรือประเทศยากจนทั้งหลาย ซึ่งมีถึง 9 ประเทศ ที่อายุขัยเฉลี่ยทั้งชายหญิงยังตํ่ากว่า 55 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในแอฟริกาครับ
แม้ข่าวนี้จะเป็นข่าวดี เพราะการที่มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีการวิเคราะห์กันว่า สังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก อาจจะมีหลายๆปัญหาตามมา
โดยเฉพาะภาระการเลี้ยงดู หรือการดูแลผู้อาวุโส ของแต่ละประเทศที่จะหนักขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพในการผลิตโดยเฉลี่ยของประเทศอาจจะลดลง เพราะประชากรในวัยทำงานลดลง ฯลฯ
แต่หักกลบลบกันแล้ว ผลดีน่าจะมีมากกว่า และก็หวังว่ามนุษย์จะดูแลตัวเองต่อไปให้อายุขัยยืนยาวเพิ่มขึ้นไปอีก
คุณหมอดังของสาธารณรัฐประชาชนจีนท่านหนึ่งเคยกล่าวปาฐกถาอันลือลั่นไว้ และผมก็เคยหยิบมาเขียนในคอลัมน์หลายปีก่อนโน้น เผอิญวันนี้นั่งเขียนอยู่นอกโรงพิมพ์ไม่ได้หยิบหนังสือของท่านมาด้วยเลยจำชื่อท่านไม่ได้เสียแล้ว แต่จำคำพูดของท่านได้อย่างแม่นยำว่า...
โปรดดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตกันให้ดีๆเถอะ...อายุ 100 ปี เป็นเรื่องไม่เหนือคาดหมายแน่นอนสำหรับมนุษย์เรา.
"ซูม"