เลขาธิการ กพฐ.ปลื้ม สอบสัมภาษณ์ครูผู้ช่วยราบรื่น จี้เขตพื้นที่เรียกผู้ที่บรรจุลอตแรก 1,888 คน เลือกโรงเรียนก่อนเปิดเทอม เอื้อโรงเรียนเอกชนหาครูทดแทนได้ทัน พร้อมแก้เกณฑ์เรียกใช้บัญชีข้ามเขตยึดตามภูมิศาสตร์ หวังสกัดบรรจุข้ามภาคและเรียกร้องเงิน ขณะที่การสืบข้อเท็จจริงกรณี ผอ.โรงเรียนในบุรีรัมย์โผล่สอบยังไม่คืบ แต่คาด 29 เม.ย.นี้ รู้ผลเบื้องต้น ยันผิดวินัยแน่นอนเพราะให้ข้อมูลเท็จ แถมรูปที่ใช้ยังใส่แค่เชิ้ตธรรมดา

เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยสำหรับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ตำแหน่งครูผู้ช่วยทั่วไป ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ซึ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย. เป็นการสอบภาค ค หรือการสอบสัมภาษณ์ สำหรับมีผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 60 ในการสอบภาค ก และ ข เข้าสอบสัมภาษณ์จำนวน 23,511 คน ใน 90 สนามสอบทั่วประเทศ โดยนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมดูความเรียบร้อยสนามสอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) พระนครศรีอยุธยา เขต 1 ว่าการสอบครูผู้ช่วยถือว่าเสร็จสิ้นลงด้วยดี ในภาพรวมไม่มีการรายงานว่าพบการทุจริต เนื่องจากการสอบสัมภาษณ์ในครั้งนี้ สพฐ.อุดช่องโหว่อย่างรอบคอบรัดกุม โดยมีกรรมการสอบสัมภาษณ์ถึง 5 คน และใช้วิธีตัดคะแนนสูงสุดและต่ำสุดออกจากนั้นจะนำคะแนนที่เหลือจากกรรมการ 3 คนมาหาค่าเฉลี่ยเป็นคะแนนสอบสัมภาษณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าจะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่สามารถช่วยเหลือกันได้ตามที่หลายฝ่ายเป็นห่วง

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ผู้ที่สอบผ่านภาค ค จะได้รับการขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี โดยจะเรียกบรรจุครั้งแรกตามอัตราว่าง 1,888 อัตรา จากนั้นหากมีอัตราว่างจะทยอยเรียก โดยตนให้นโยบายว่าหลังการประกาศผลให้เรียกผู้ที่ได้รับการบรรจุลอตแรกมาเลือกโรงเรียนก่อนที่จะบรรจุในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีเวลาเตรียมตัวหาครูมาทดแทนได้ทัน กรณีมีครูมาสอบและได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วย ส่วนปัญหาที่มีเขตพื้นที่การศึกษาไม่ยอมเปิดสอบบรรจุครูผู้ช่วย แต่รอใช้บัญชีของเขตพื้นที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดกรณีเรียกบรรจุข้ามภาคจากภาคใต้ไปภาคอีสานมาแล้ว และอยู่ได้ไม่นานก็ขอย้ายกลับ รวมทั้งมีการร้องเรียนมายังคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่ามีการเรียกรับเงินทั้งต้นทางและปลายทาง ดังนั้นที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาวิสามัญพัฒนาระบบทำหน้าที่แทน ก.ค.ศ. ซึ่งมีตนเป็นประธานได้แก้ปัญหาด้วยการแก้ไขเกณฑ์การขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้โดยให้ยึดตามเขตภูมิศาสตร์หรือเขตพื้นที่ใกล้เคียงก่อน นอกจากนี้ ต้องทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ ก.ค.ศ.ด้วย เพื่อเร่งรัดเขตพื้นที่ที่ขอใช้บัญชี

...

นายอภิชาติยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพฐ. กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนและครูอีก 2 คนไปสอบด้วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ ยังไม่กลับมารายงาน เพราะการสืบครอบคลุมเขตพื้นที่ถึง 4 เขต ได้แก่ สพป. สมุทรสาคร สพป. กาญจนบุรี เขต 1 สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา (สพม.) 32 จ.บุรีรัมย์ คาดว่าภายในวันที่ 29 เม.ย. จะกลับมารายงานความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนต้องมีความผิดทางวินัย เนื่องจากไปสอบโดยไม่ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชา และให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยระบุว่าประกอบอาชีพอื่น รูปที่ใช้ก็เป็นรูปที่ใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดา แต่โทษจะอยู่ในระดับใดนั้นต้องรอผลสรุปจากคณะกรรมการก่อน ส่วนครูหากไม่มีวิทยฐานะ สามารถไปสอบได้โดยไม่มีความผิด เพราะไม่ได้ทำให้เสียประโยชน์อะไร แต่ครูที่มีวิทยฐานะสูงๆหรือเป็นติวเตอร์มาสอบ สพฐ.จะเสนอปัญหาเพื่อให้ ก.ค.ศ.หาทางออก นอกจากนี้ยังมีปัญหาการตรวจสอบข้อมูลรายบุคคลของเขตพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่ไม่ยอมส่งข้อมูลมาเชื่อมระบบการตรวจสอบรับรองข้อมูลทะเบียน ประวัติ (ก.พ.7) อิเล็กทรอนิกส์ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ล่วงหน้า ดังนั้น การสอบครั้งต่อไปต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้

วันเดียวกันที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ตรวจเยี่ยมสนามสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการหรือพนักงานท้องถิ่น ประจำปี 2556 โดยนายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดี มสด.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายประชากล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับ มสด.จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2556 สอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไปและภาค ข ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 27 เม.ย. ใน 378 สนามสอบ การสอบในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีอัตราว่างบรรจุได้ 7,374 อัตรา มีผู้มีสิทธิสอบ 511,374 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้พิการทางการมองเห็นและผู้พิการซ้ำซ้อน 107 คน จึงให้ มสด.ดูแลอำนวยความสะดวกในการสอบให้เป็นพิเศษ

ด้านนายสุขุมกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ขาดสอบกว่าร้อยละ 50 อันเนื่องมาจากการเลื่อนสอบหลายครั้ง ประกอบกับการเดินทางที่ไม่สะดวก ทั้งนี้ ได้ป้องกันการทุจริตอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีข่าวการแอบอ้างชื่อนักการเมืองผู้ใหญ่ว่าสามารถช่วยเหลือให้สอบได้ ทำให้ มสด.ต้องระมัดระวังเป็น พิเศษ โดยให้ผู้เข้าสอบแต่งกายด้วยเสื้อยืด ไม่มีปก ไม่มีกระดุม ไม่มีกระเป๋า สวมกางเกงวอร์มขายาว และไม่สวมรองเท้าและถุงเท้า ไม่อนุญาตให้สวมนาฬิกา หรือเครื่องประดับใดๆ ห้ามนำกระเป๋าสิ่งของต่างๆ ตลอดจน หนังสือ ตำรา โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือและ อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เข้าห้องสอบเด็ดขาด หากมีผู้ใดทุจริตหรือมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต กรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบจะรายงานคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วน ท้องถิ่น เพื่อพิจารณาปรับตก รวมทั้งถูกตัดสิทธิ์ในการสอบเข้ารับราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดไป และจะดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ทุจริต หากผู้ ทุจริตเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น จะแจ้ง ต้นสังกัดเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงด้วย