ยังถกเถียงกันไม่จบ กรณี คุณชัยเกษม นิติสิริ รักษาการรัฐมนตรียุติธรรม “เสนอให้รัฐบาลใช้วิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ทูลเกล้าฯให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย” หาก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกฯรักษาการและห้ามปฏิบัติหน้าที่

ผมก็นึกไม่ถึงว่า คุณชัยเกษม เป็นถึงอดีตอัยการสูงสุดของแผ่นดิน รักษาการรัฐมนตรียุติธรรม จะกล้าเสนอแบบนี้ ซึ่งไม่เคยมีข้าราชการคนไหนกล้าทำมาก่อน

ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่รู้ลึกเรื่องกฎหมาย แต่วันนี้ผมจะอัญเชิญ พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตรัสถึง รัฐธรรมนูญมาตรา 7 และ นายกรัฐมนตรีพระราชทาน ไว้อย่างชัดเจน ต่อคณะผู้พิพากษาที่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 มาลงให้อ่านกัน มีความดังนี้

“...แต่ก่อนนี้มี มีอย่างเดียว ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอาญา ศาลแพ่ง เดี๋ยวนี้มีหลายอย่างอันนับไม่ถูก ก็เมื่อมีก็ต้องให้ไปดำเนินการด้วยดี ดังนั้น ก็ขอให้ไปปรึกษากับคนอื่นๆด้วย จะทำให้บ้านเมืองปกครองแบบประชาธิปไตยได้ อย่าไปคอยที่จะให้ขอนายกฯพระราชทาน เพราะขอนายกฯพระราชทาน ไม่ได้เป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย

ข้าพเจ้ามีความเดือดร้อนมาก ที่เอะอะอะไรก็ขอพระราชทาน นายกฯพระราชทาน ซึ่งไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย ถ้าไปอ้างมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เป็นการอ้างที่ผิด มันอ้างไม่ได้ มาตรา 7 มี 2 บรรทัดว่า อะไรที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ปฏิบัติตามประเพณี หรือตามที่เคยทำมา ไม่มี เขาอยากจะได้นายกฯพระราชทาน เป็นต้น จะขอนายกฯพระราชทาน ไม่ใช่เป็นเรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นการปกครองแบบ ขอโทษ พูดแบบมั่ว แบบไม่ ไม่ ไม่มีเหตุผล

สำคัญอยู่ที่ท่านเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา มีสมองที่แจ่มใสสามารถ ควรจะสามารถที่จะไปคิดวิธีที่จะปฏิบัติ คือ ปกครองต้องมีสภา สภาที่ครบถ้วน ถ้าไม่ครบถ้วน เขาว่าไม่ได้ แต่ก็เขา แต่อาจจะหาวิธีที่จะ ที่จะตั้งสภาที่ไม่ครบถ้วน และทำงาน ทำงานได้ ก็รู้สึกว่า มั่วอย่างที่ว่า ต้องขอโทษอีกทีนะ ใช้คำว่ามั่ว ไม่ถูก ไม่ทราบใครจะทำมั่ว

...

แต่ว่า การปกครองประเทศมั่วไม่ได้ ที่จะคิดอะไรแบบ แบบว่าทำปัดๆไปให้เสร็จๆไป ถ้าไม่ได้ เขาก็โยนให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งยิ่งร้ายกว่าทำมั่วอย่างอื่น เพราะ พระมหากษัตริย์ ไม่มีหน้าที่ที่จะไปทำมั่ว ก็เลยต้องขอร้องฝ่ายศาล ให้คิด ให้ช่วยกันคิด เดี๋ยวนี้ประชาชน ประชาชนทั่วไปเขาหวังในศาล โดยเฉพาะศาลฎีกา ศาลอื่นๆ

เขายังบอกว่าศาล ขึ้นชื่อว่าศาล ดี ยังมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีเหตุมีผล และมีความรู้ เพราะท่านได้เรียนรู้กฎหมายมา และพิจารณาเรื่องกฎหมาย ที่จะต้องศึกษาดีๆ ประเทศชาติจึงจะรอดพ้น ถ้าไม่ทำตามหลักกฎหมาย หลักของการปกครองที่ถูกต้อง ประเทศชาติก็ไปไม่รอด อย่างที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ เพราะว่าไม่มี ไม่มีสมาชิกสภาถึง 500 คน ทำงานไม่ได้

ก็ต้องพิจารณาดูว่า จะทำยังไง สำหรับให้ทำงานได้ จะมาขอให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้ตัดสิน เขาอาจจะว่ารัฐธรรมนูญนี้ พระมหากษัตริย์เป็นคนลงพระปรมาภิไธยจริง แต่ลงพระปรมาภิไธยก็เดือดร้อน แต่ว่าในมาตรา 7 นั้น ไม่ได้บอกว่าพระมหากษัตริย์สั่งได้...แล้วก็ขอยืนยันว่า ไม่เคยสั่งการอะไร ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง อย่างที่เขาขอ บอกว่าขอให้มี ให้พระราชทานนายกฯพระราชทาน ไม่เคย ไม่เคยมีข้อนี้ มีนายกฯแบบ มีการรับสนองพระบรมราชโองการ อย่างที่ถูกต้องทุกครั้ง

มีคนเขาก็อาจจะมา มาบอกว่า พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 เนี่ย ทำตามใจชอบ ไม่เคยทำอะไรตามใจชอบ ตั้งแต่เป็นมา มีรัฐธรรมนูญหลายฉบับ แล้วก็ทำมาหลายสิบปี ไม่เคยทำอะไรตามใจชอบ ถ้าทำไปตามใจชอบ ก็เข้าใจว่า บ้านเมืองล่มจมมานานแล้ว...”

ทรงรับสั่งละเอียดแจ่มแจ้งทุกประการเรื่องมาตรา 7 ผมก็หวังว่า นักกฎหมายทุกฝ่ายที่พยายามทำเรื่องนี้ จะได้ยุติความคิดอันไม่ชอบนี้เสียที และ อย่าได้คิดทำอะไรให้ระคายเบื้องพระยุคลบาทอีก เพราะพวกท่านเป็นผู้ที่รู้กฎหมายดีที่สุดว่าถูกหรือผิด.

 

“ลม เปลี่ยนทิศ”