สังคมไทยทุกวันนี้ดาษดื่นไปด้วยวาทกรรมที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งที่ล่วงมาแล้วก็มักจะสรุปความในลักษณะที่ฝ่ายตัวเองได้ประโยชน์เป็นที่ตั้ง
อย่างเช่นคำพูดที่ติดปากเมื่อกล่าวถึงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่ดินรัชดาว่าแค่เซ็นชื่อยินยอมให้เมียซื้อที่ดินก็ถูกลงโทษจำคุก
กรณีซื้อที่ดินรัชดานั้นถ้าผู้ซื้อเป็นคนอื่นครอบครัวอื่นที่ไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรี และที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินที่รัฐนำมาประมูลขายก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะไม่เข้าลักษณะขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย พูดง่ายๆก็คือผลประโยชน์ทับซ้อนน่ะรู้จักไหม
วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันหยุดราชการมาตั้งแต่เปลี่ยนการขึ้นปีใหม่ จากวันที่ 1 เมษายน มาเป็น วันที่ 1 มกราคม แล้วอยู่มาวันดีคืนดีก็ใช้อำนาจรัฐกำหนดให้เป็นวันทำการราชการปกติ เพียงเพื่อเลี่ยงภาษีการโอนที่ดินให้จ่ายน้อยเพราะหลังปีใหม่มีการกำหนดอัตราภาษีใหม่ให้สูงขึ้น
บ้างก็ว่า นายสมัคร สุนทรเวช แค่จัดรายการทำกับข้าวออกโทรทัศน์ ก็ถูกศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่ที่จริงเป็นการรับจ้างทำรายการแล้วมีกฎหมายระบุไว้ชัดว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีจะเที่ยวไปเป็นลูกจ้างใครเขาไม่ได้ จึงขาดคุณสมบัติตรงนี้ต่างหาก
การเรียกร้องให้ตรวจสอบความถูกต้องของโครงการจำนำข้าวก็บิดเบือนไปเป็นการรังแกชาวนาไม่เห็นใจชาวนาไปโน่นเลย
ลักษณะของการบิดเบือนแบบนี้ แม้แต่นักวิชาการ นักวิชาเกินทั้งหลายก็นิยมเอาไปพูดเอาไปเขียนเอาไปอ้างราวกับว่าเป็นวาทกรรมที่นึกว่าคมคายเสียเหลือเกิน
อีกเรื่องราวหนึ่งก็คือไม่เคยมียุคใดสมัยใดที่มีการออกมากล่าวหาวิพากษ์วิจารณ์ศาลมากเท่านี้ มีการแสดงปฏิกิริยาไม่ยอมรับคำตัดสินคำพิพากษาของศาลต่างๆนานาในทุกครั้งที่ฝ่ายตัวเองเสียประโยชน์
...
ลามปามไปถึงการหาว่าขัดขวางความเจริญก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศอะไรไปโน่น ดูไปแล้วก็ขัดขวางจริงๆนะแหละ ขัดขวางการทุจริตคอร์รัปชันโกงกินไงล่ะ
พึงสำเหนียกว่าคนในประเทศนี้ที่เขายอมรับอำนาจศาลและเห็นว่าศาลตัดสินถูกต้องตามครรลองคลองธรรมและบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้วนั้นมีมากมายมหาศาลกว่านัก เพียงแต่เขาไม่ได้เแสดงออกเท่านั้นเอง
มาถึงเรื่องย้ายข้าราชการเห็นออกมาค่อนแคะว่า รัฐบาลก่อนย้าย พลโทสุรพล เผื่อนอัยกา ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติไม่ผิด แต่ทำไมพอรัฐบาลนี้ย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จึงมีความผิด
ก็ที่ผิดเพราะคนอื่นเขาย้ายไปตามกระบวนการของกฎหมายแล้วก็ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงให้จับได้ว่าแท้ที่จริงเป็นรายการซิกแซ็กให้เครือญาติได้ประโยชน์ในการเลื่อนตำแหน่งต่างหาก มันผิดตรงนี้และผิดฉกรรจ์จนทำท่าว่าจะพังกันทั้งคณะนั่นแหละ
แล้วจะเอาข้อเท็จจริงเนื้อๆในสำนวนคำพิพากษามาให้ดูว่าที่ว่าผิดนั้นมันผิดยังไง.
“ซี.12”