พ่อท่านซุ่นบริกรรมคาถาฯ.
ความเชื่อต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์...บางแห่งอาจไม่ยิ่งใหญ่อลังการที่มีฝูงชนเลื่อมใสล้นหลามจนเป็นเรื่องฮือฮา อาจเพียงเล็กๆจิ๋วๆ แต่หาก มีพลังบันดาลให้ได้ประสบความสำเร็จ...ก็ได้รับแรงศรัทธา เช่นกัน
อย่างเช่น...“แมงสี่หูห้าตา” วัดดอยเขาแก้ว เชียงราย ซึ่งเป็นสัตว์มหัศจรรย์ขนปุยยาวสีดำ มี 4 หู 5 ตา กินถ่านไฟแดงๆเป็นอาหารแล้วขี้เป็นทองคำ สร้างความร่ำรวยแก่เจ้าของ ใครไปบนบานกล่าวขอ...ก็จะได้โชคลาภตามประสงค์
O O O
หรือลงใต้...ปัตตานี ที่ บ้านปลักปรือ อำเภอแม่ลาน ก็มี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน คือ “ทวดดีกา” ซึ่งก็ ได้รับแรงศรัทธาจากทั้งชาว “ไทย–พุทธ” และ “ไทย–มุสลิม” เพราะใครไปบนบานศาลกล่าวแล้ว...ไม่ผิดหวัง
โดยเฉพาะ...รอดพ้นภยันตภัย และรอดจากการคัดเลือกทหาร...!!
เมื่อ 250 ปี...ทวดดีกาเป็นชาวมุสลิมจากมาเลเซีย มาปักหลักที่ปลักปรือ อุปนิสัยร่าเริงชอบ ร่ายรำทำเพลง ก่อนสิ้นบุญสั่งลูกสั่งหลานว่าให้ฝังร่างไว้แห่งนี้ที่ปลักปรือ
...
O O O
ต่อมา...ชาว “ไทย–พุทธ” ได้ย้ายเข้ามาตั้งรกรากที่ปลักปรือ “ทวดดีกา” ได้มาเข้าฝันบอก บริเวณให้สร้างวัดแล้วจะได้รับความสำเร็จ (ปัจจุบันวัดแห่งนี้อยู่ใจกลางบ้านเรือนของชนไทย-มุสลิม)
และ...แต่ละครั้งก็จะมาเข้านิมิต พระครูมงคลสุวรรณาภรณ์ “พ่อท่านซุ่น วิสุทฺธสีโล” (...ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านลานควาย ซึ่งตอนนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านปลักปรือ...) ให้สร้างอาคาร โบสถ์ วิหาร ศาลา ฯลฯ ตรงจุดนั้นจุดนี้จะได้รับความสำเร็จ...
และก็แล้ว เสร็จตามประสงค์ ทุกอย่าง
ชาวบ้านปลักปรือ และใกล้เคียงจึงเลื่อมใสศรัทธา “ทวดดีกา” กับ “พ่อท่านซุ่น” มาอย่างต่อเนื่อง...
O O O
พ่อท่านซุ่น...เป็นชาวบ้านเกาะหวาย ต.วัด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี อุปสมบท ณ วัดบ้านลานควาย ต.กอลำ อ.ยะรัง แต่ต้องนิมนต์มาจำพรรษาที่วัด
บ้านปลักปรือ ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดจนมีเสนาสนะครบถ้วน
ชาวบ้านต่างให้ความศรัทธาว่า “พ่อท่านซุ่น” เป็นอริยสงฆ์ที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ด้วยได้รับการ ถ่ายทอดวิชาจากโยมบิดา (พ่อยก โอชา–อัมพวัน) ซึ่งมีวิชาอาคมตามแบบฉบับของภาคใต้ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เมื่อ บวชอยู่ปลักปรือมาเรียนวิชาทั้งในด้านมนต์ขลังและธรรมะกับ “พ่อท่านหวาน” ที่วัดบ้านลานควาย ในปี 2546 “พ่อท่านหวาน” มรณภาพ...“พ่อท่านซุ่น” จึงได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดบ้านลานควาย
O O O
บ้านลานควาย... เดิมเป็น พื้นที่เลี้ยงควายของข้าราชการระดับ “พระยา” ท่านหนึ่ง ครั้นเลิกใช้ประโยชน์แล้วจึงว่างเปล่า ชาวบ้านซึ่งเป็น “ไทย–พุทธ” จึงได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน จึงเรียกกันว่า “บ้านลานควาย” จากนั้นจึงสร้างวัดเล็กๆขึ้นเพื่อประกอบศาสนกิจ
ต่อมาได้ พัฒนายกฐานเป็นวัดถูกต้องตามราชการ ชาวบ้านก็ยังเรียกชื่อตามหมู่บ้านว่า “วัดบ้านลานควาย” แล้วจึงมีชื่อทางราชการว่า...วัดมหิงษ์สุวรรณนิมิต
O O O
ปัจจุบัน...สถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้ไม่ค่อยสงบ ปัตตานีก็เป็นหนึ่งในปริมณฑล จะมีข่าวรายวันกับเหตุการณ์ร้ายๆ แต่บริเวณโดยรอบหมู่บ้านลานควายนั่นยังมีร่มเงาแห่งสันติสุข ให้เห็นเป็นรูปธรรม
ด้วย มวลสมาชิกหมู่บ้านแม้จะต่างศาสนาก็ยังมีจิตสำนึกในการเป็นชาติเดียวกัน อยู่ร่วมอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย มีความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจกันอันดียิ่ง...จึงไม่มีเหตุไม่พึงปรารถนา
แต่ก็ มิวายหวาด...ด้วยการเชื่อมต่อของชุมชนแห่งนี้กับชุมชนอื่นๆภายนอก มีจุดเสี่ยงไม่น้อย เช่นกัน ไม่สามารถการันตีว่าไม่มีอันตราย...
...
O O O
เหล่าศิษยานุศิษย์....จึงร้องขอให้ “พ่อท่านซุ่น” สร้างเครื่องรางของขลังให้เพื่อติดตัวไปไหนๆ จะได้ปลอดภัย....ด้วยเชื่อมั่นและเลื่อมใสต่อวิชาอาคม
รุ่นแรก...“พ่อท่านซุ่น” ได้สร้าง “เบี้ยแก้” โดยใช้วิชาอาคมของ “พ่อท่านหวาน” กับของ “โยมบิดา” ร่วมเป็นสหศาสตร์ ให้วัตถุมงคลนี้มีความในความเข้มขลังสูงสุด...มีพลังเป็นดับเบิ้ล
เบี้ยแก้เป็นเครื่องรางที่มีพลังแห่งพุทธคุณมีความเข้มขลังหลายด้าน ไม่ว่าจะเรื่องของอยู่ยง คงกระพันป้องกันศัสตราวุธและคลาดแคล้วจาก
ภยันตภัย ไม่ว่าจะเป็นจากธรรมชาติ อุบัติเหตุ คุณไสย ภูตผี ปีศาจ สิ่งที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลาย มลายสิ้น...
O O O
ถึง ปัจจุบัน...ศัสตราวุธต่างๆมันมีประสิทธิภาพในการทำลายสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปืนหรือระเบิด เหล่าศิษยานุศิษย์จึงขอวัตถุมงคลที่มีพลังความคุ้มครองที่เข้มขลังกว่าพ่อท่านซุ่น...ซึ่งได้แนวคิดจากอมตะวาจาของ “อาจารย์นอง วัดทรายขาว” เกจิเรืองนามผู้ ซึ่งเป็นปฐม “ตะกรุดลูกปืน” สุดยอดของขลังที่ว่า “...แม่ไม่ฆ่าลูกฉันใด แม่ปืนจึงไม่ทำลายลูกปืนฉันนั้น...” จึงนำแบบอย่างมาสร้างจ่ายแจกศิษยานุศิษย์
โดย...เอาปลอกลูกปืนที่ยิงแล้วมีเสียงดัง (ลูกด้านไม่เอา) เหมือนกับประกาศถึงอำนาจ บารมี มาเป็นตัวตะกรุดและเพื่อให้ได้พุทธคุณครบถ้วนตามตำราคือ ใจของตะกรุด ทำจากแผ่นชนวน มวลสารนวมงคล (9 แร่ธาตุ) โดยผ่านการ...จารคาถามหาอุดจาก หลวงพ่อฟู อติภัทโท
...
O O O
พร้อมทั้ง บรรจุผงพุทธคุณมหามงคลที่รวบรวมจากงานปลุกเสกพิธีต่างๆ และ จีวรของ “พ่อท่านซุ่น” ประจุลงในปลอกลูกปืนแล้วประกบ 2 ปลอกประสานเข้ากัน ขณะอัดกำกับด้วยคาถาป้องกันอันตราย
จากนั้นนำเข้าพิธีกรรมเสกเพื่อให้พุทธคุณครบด้านแห่งอำนาจ บารมี แคล้วคลาด คงกระพันก่อนจ่ายแจกศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา...มีไว้ป้องกันแคล้วคลาดภัยจากปืน
...ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า “ตะกรุด” รุ่นนี้จะมีพลังไปในทิศทางใด เพราะอดีตมันขลังเป็นอมตะเพราะ “แม่ไม่ฆ่าลูก” แต่ยามนี้ยุคนี้มันเปลี่ยนเป็น...ลูกฆ่าทั้งครอบครัว...!!
ก้อง กังฟู