โค้งสุดท้ายของศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2013 เหลือเพียง 2 ทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ลีกสูงสุด ก็คือ จ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อันดับที่ 2 ที่มีแต้มตามก้นแข้งเซราะกราวอยู่ 5 คะแนน
กับโปรแกรมที่เหลือ 4 นัดสุดท้ายของทั้งคู่ ผมดูแล้วว่า บุรีรัมย์ฯใสกว่าเยอะ โดยคิวเตะของทีมปราสาทสายฟ้า มีดังนี้ 5 ต.ค. บุกไปเยือน “ราชัน มังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 20 ต.ค.เปิดบ้านรับ พัทยา ยูไนเต็ด 27 ต.ค. ออกไปเยือน “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด และกลับมาปิดท้ายในไอ-โมบาย สเตเดียมของตัวเอง กับ ทีโอที เอสซี ในวันที่ 3 พ.ย.
ส่วนแชมป์เก่า เอสซีจี เมืองทองฯ 4 เกมสุดท้ายของพวกเขา จะต้องออกไปเยือน “พลังเอ็ม” โอสถสภา ที่สระบุรี ในวันที่ 5 ต.ค. ต่อด้วย 20 ต.ค.เปิดบ้านรอรับแข้ง “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ก่อนออกไปเยือน บีอีซี เทโรศาสน ในวันที่ 27 ต.ค. และส่งท้ายในบ้าน 3 พ.ย. กับ ชัยนาท เอฟซี ที่เอสซีจี สเตเดียม ซึ่งดูเหลี่ยมไหนยังไงก็คงเป็นเรื่อง “ยาก” ที่จะแซงปาดหน้า บุรีรัมย์ฯคว้าแชมป์
พูดถึง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปีนี้พวกเขากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และมีลุ้นคว้าทั้ง 3 ถ้วยเมเจอร์ของเมืองไทยได้อีกคำรบ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แชมป์เซราะกราวดูเหนือกว่าทีมอื่น ก็คือเรื่องของขุมกำลังนักเตะต่างชาติ ที่ล้วนแต่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ออสมาร์ อิบันเญซ, คาร์เมโล กอนซาเลซ หรือฆาเวียร์ ปาติโญ
โดยรายล่าสุดที่บุรีรัมย์ฯเพิ่งเปิดตัวไป ก็คือ “เจย์ ซิมป์สัน” กองหน้าชาวอังกฤษ วัย 24 ปี ที่เคยเป็นผลผลิตของทีมเยาวชน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ซึ่งทีมเซราะกราวคว้ามาร่วมทัพหลังจากเจ้าตัวหมดสัญญากับ ฮัลล์ ซิตี้
งานนี้ทีมปราสาทสายฟ้าเซ็นสัญญากับ ซิมป์สัน เป็นเวลา 2 ปี และต้องจ่ายค่าเหนื่อยเป็นสถิติสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีกถึง 4.7 หมื่นยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยก็ตก 1.88 ล้านบาท ต่อเดือนเลยทีเดียว
เอ้า ไหนๆ ก็เขียนถึงเรื่องค่าเหนื่อยของดาวยิงตัวใหม่ของบุรีรัมย์ฯกันแล้ว ทีนี้เราลองมาดูซิว่า ณ ปัจจุบัน นักเตะคนไหนในไทยพรีเมียร์ลีกที่รับเงินเดือนสูงติดอันดับ “ท็อปเทน” 1-10 กันบ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางนิตยสาร “ฟุตบอลสยาม” รายสัปดาห์ ฉบับล่าสุด เขารวบรวมตัวเลขมา
เริ่มจาก อันดับ 10 เป็น “เจ้าโก้” ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์จอมเก๋าของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่รับค่าเหนื่อยตกประมาณ 2.5 แสนบาทต่อเดือน อันดับ 9 “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย รับจาก บางกอกกล๊าส เดือนละ 3 แสน
อันดับ 8 “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอก เมืองทองฯ ได้ 4 แสนบาทต่อเดือน เท่าๆกับ อันดับ 7 อย่างดาวยิงของ อาร์มี่ ยูไนเต็ด บียอร์น ลินเดอร์มัน และอันดับ 6 คลีตัน ซิลวา ที่ฟันค่าเหนื่อย ระดับ 4 แสนเช่นกัน
ส่วนอันดับ 5 ชาริล ชัปปุยส์ ดาวเตะลูกครึ่งไทย-สวิส ของบุรีรัมย์ฯรับเดือนละ 6 แสนบาท อันดับ 4 คาร์เมโล กอนซาเลซ เดือนละ 6 แสนเศษๆ อันดับ 3 ออสมาร์ อิบันเญซ กัปตันชาวสเปนของ บุรีรัมย์ ฟาดไป 7 แสนต่อเดือน ขณะที่อันดับ 2 เป็น คิม ยู จิน กองหลังพลังโสมของทีมกิเลนผยอง ได้ถึงเดือนละ 1.2 ล้านบาท
และนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดเป็น อันดับ 1 ในลีกไทย ณ ตอนนี้ ก็คือ “ซุปเปอร์มาริโอ” มาริโอ ยูรอฟสกี้ กองหน้าพระกาฬจากมาซิโดเนีย ที่รับจากเอสซีจี เมืองทองฯ เป็นตัวเลขไม่มากไม่น้อย
แค่เดือนละ 1.4 ล้านบาทเท่านั้นเอง!!!
...
บี บางปะกง