สหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศต่างออกมาประณามการสลายชุมนุมของรัฐบาลอียิปต์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ชุมนุมประกาศไม่เลิกประท้วงแค่นี้...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี จำนวนหลายร้อยคน ก่อเหตุบุกเผาอาคารรัฐบาลในเมืองกีซี ใกล้กับกรุงไคโร ในวันพฤหัสบดี โดยไม่สนการประกาศภาวะฉุกเฉินและกฎเคอร์ฟิวที่รัฐบาลรักษาการประกาศเมื่อวันพุธ หลังจากการสลายการชุนนุมในกรุงไคโร ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และบาดเจ็บอีกหลายพันคน

เหตุนองเลือดในอียิปต์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่จำกัดเพียงในกรุงไคโรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนครอเล็กซานเดรีย เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของอียิปต์ และอีกหลายเมืองในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ มีผู้บาดเจ็บรวมเกือบ 4,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยมีจำนวน 525 ราย และ 43 รายในจำนวนนี้เป็นตำรวจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก เนื่องจากหน่วยงานรัฐนับจำนวนผู้เสียชีวิตจากศพที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลเท่านั้น
...
มีรายงานจากสื่อหลายสำนักทั้งซีเอ็นเอ็นและบีบีซีว่า มีศพผู้เสียชีวิตอีกราว 100-140 ศพ ถูกห่อในผ้าห่อศพเก็บไว้ที่มัสยิด อีมาน ใกล้กับมัสยิดราบา อัล-อดาวิยา หนึ่งในสองค่ายหลังของกลุ่มผู้สนับสนุนนายมอร์ซี โดยที่ศพเหล่านี้ และอีก 4 ศพล่าสุดจากเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับชาวบ้านในนครอเล็กซานเดรีย ยังไม่ถูกนับรวมในยอดผู้เสียชีวิตของกระทรวงสาธารณสุข ด้านเว็บไซต์ของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นแกนนำการชุมนุม ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมมากกว่า 2,000 ราย

สถานการณ์ในกรุงไคโรในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.) ดูสงบอย่างประหลาด การจราจรตามท้องถนนซึ่งปกติจะเต็มไปด้วยรถและผู้คนสัญจรกลับบางตา ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคง และกลุ่มผู้สนับสนุนนายมูร์ซีอีกครั้ง ซึ่ง กลุ่มภราดรภาพมุสลิมประกาศกร้าวในวันเดียวกันนี้ว่า พวกเขาจะไม่ยุติการประท้วง และจะออกมาชุมนุมทั่วประเทศ จนกว่าประชาธิปไตยและการปกครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะกลับคืนมาสู่อียิปต์
ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลชั่วคราวของอียิปต์ออกมากล่าวโทษผู้ประท้วงว่า เป็นฝ่ายทำให้เกิดความรุนแรงเมื่อวันพุธ เนื่องจากพวกเขาใช้กำลังเข้าขัดขวางความพยายามยุติการชุมนุมอย่างสงบของรัฐบาล

ทั้งนี้ หลายประเทศทั่วโลกออกมาประณามการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงของอียิปต์ โดย ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงในวันพฤหัสบดีจากบ้านพักในเมืองชิลมาร์ก รัฐแมสซาชูเซตส์ ว่า เขาขอประณามการใช้กำลังของอียิปต์ รัฐบาลกลับเลือกใช้ความรุนแรงและการจับกุมประชาชนตามอำเภอใจ มากกว่าโอกาสในการแก้ไขวิกฤติด้วยการพูดคุยอย่างสันติ โอบามายังเรียกร้องให้อียิปต์ยกเลือกรัฐบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉิน และเริ่มกระบวนการเพื่อความปรองดองโดยทันที
นอกจากนี้ โอบามาได้ประกาศยกเลิกการรว่มซ้อมรบทางทหารกับอียิปต์ ที่ตามกำหนดการณ์จะมีขึ้นในเดือนก.ย. พร้อมเตือนว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ไม่อาจกระทำต่อไปได้เหมือนปกติ ในเมื่อประชาชนกำลังถูกฆ่าอยู่ตามท้องถนนเช่นนี้

...
ในเวลาเดียวกัน ประเทศเดนมาร์ก ประกาศระงับการให้เงินช่วยเหลือแก่อียิปต์ ขณะที่จีนออกมาเรียกร้องให้อียิปต์อดกลั้นไม่ก่อความรุนแรง ส่วนเยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส และอีกหลายๆ ประเทศ ออกคำสั่งเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำอียิปต์กลับประเทศ เพื่อแสดงออกว่าไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรง
ล่าสุดประเทศฟิลิปปินส์ ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังภัยในอียิปต์สู่ระดับ 3 ซึ่งหมายถึงมีความไม่สงบและไม่มั่นคงในสังคมสูง และเรียกร้องให้พลเมืองในอียิปต์ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6,000 คน เดินทางออกนอกประเทศทันที.