พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แจง สแกนแชทไลน์ แค่พวกกระทบความมั่นคงต่อประเทศ...

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในฐานะ รองประธานภูมิภาคเอเชีย เซาท์ แปซิฟิก ด้านอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของอินเตอร์โพล (องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ) เปิดเผยว่า ปอท. จะเข้าดูแลและควบคุมการใช้โปรแกรมต่างบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมไปถึงโปรแกรมแชทต่างๆ อาทิ ไลน์ เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมทางโลกไซเบอร์ เนื่องจากปัจจุบันการก่ออาชญากรรมดังกล่าวมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ซึ่ง ปอท. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้ให้บริการโปรแกรมไลน์ ในการให้ข้อมูลยืนยันตัวบุคคล ภายใน 90 วัน หลังจากที่ก่อเหตุ โดยไม่จำเป็นต้องขอหมายศาล เพราะเซิร์ฟเวอร์อยู่ในต่างประเทศ เมื่อสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ปอท. จะตรวจสอบข้อความการสนทนาจากโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความชัดเจน ถึงแม้จะมีการลบข้อความนั้นทิ้งไปแล้วก็ตาม

ซึ่งในการจับตาดู ปอท.จะมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มที่กระทำความผิดกฎหมาย อาทิ การประกาศขายอาวุธปืน ,การค้าเสพติด ,การโพสต์ข้อความเชิญชวนซื้อบริการทางเพศ และจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงกลุ่มที่กระทำผิดกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อย เท่านั้น ส่วนผู้ที่มีการพูดคุยสนทนาระหว่างกัน โดยไม่มีเนื้อหาเข้าข่ายความผิดที่ว่ามา ปอท.ก็จะไม่เข้าไปละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลแต่อย่างใด ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ยังฝากถึงประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิล์คว่าควรใช้ในเชิงสร้างสรรค์ มากกว่าจะนำมาสร้างความวุ่นวาย

...


ด้านนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุ ว่า กรรมการสิทธิ์ฯ จะเข้ามาไปตรวจสอบว่าเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล หรือไม่ โดยจะเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อไป

อย่างไรก็ดี ไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยังไลน์ประะเทศไทย เพื่อสอบถามเรื่องนี้ โดยทาง LINE Corporation ระบุว่า ยังไม่ได้รับคำขออย่างเป็นทางการจากทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดังนั้น LINE จึงยังคงไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ในประเด็นดังกล่าวได้ในตอนนี้

ทั้งนี้ LINE ยังคงมีนโยบายหลักในการรักษาข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล