ตร.ภูธรภาค 5 รวบตัวหนุ่มใหญ่ หลังก่อเหตุโพสต์เฟซบุ๊กเชิงคุกคาม และใส่ร้ายสาวผู้ช่วยพยาบาล รพ.แห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ จนฝ่ายหญิงผวากลัวไม่ปลอดภัย ต้องแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี ใช้นานร่วมเดือนจึงจับกุมตัวได้ รับสารภาพทำไปเพราะหลงรักสาวที่เห็นบนเฟซบุ๊ก ขณะที่ ตร.เตรียมดำเนินคดีตามความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ...

จากกรณีเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 มิ.ย.นี้ น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลห้องศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ได้นำเอกสารปึกใหญเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ. 5 ว่าได้รับความเดือดร้อนชายชายนิรนามที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "องค์การลับผู้พิทักษ์ ศาสนาอยู่ จ.สงขลา" คุกคามโดยใช้โลกอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก และโปรแกรม วีแซท โดยถึงขั้นมีการนำรูปไปลงในเฟซบุ๊ก ว่าเป็นหญิงประกาศขายบริการทางเพศ โดยบอกราคาและสถานที่ติดต่อ และหนักเข้าถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิตเลย เคยไปแจ้งความกับตำรวจ ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่ก็ไม่มีผลในการดำเนินการ จึงอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะถูกข่มขู่เข้ามาตลอด ถึงขั้นจะเอาชีวิตจนไม่เป็นอันทำงานแล้ว จึงเข้าร้องทุกข์กับทาง พล.ต.ต.ชำนาญ ให้เข้าดำเนินการดังกล่าว

...


ข่าวคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 กค 56 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 สามารถสืบสวนและเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายของคนร้ายที่ก่อเหตุ จนสามารถออกหมายจับตัว นายจิรภาส สะรุโฌ อายุ 41 ปี ชาวบ้าน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 เครื่องได้ที่บ้านพักจึง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ดำเนินคดี โดย มี พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค 5 เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเองอย่างละเอียด พร้อมกับพนักงานสอบสวนฯ โดยทางนายจิรภาส ได้ขอร้องไม่ให้มีการแถลงข่าวและทำข่าวเพราะอับอายเรื่องที่ก่อขึ้น

นายจิรภาส ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือโพสต์ข้อความเขียนข้อความด่า น.ส.เจี๊ยบ จริง โดยปลอมชื่อไปตั้งเฟสบุ๊คขึ้นมาใหม่ เพราะแค้นใจที่ผู้หญิงตีตัวออกมาห่างเมื่อรู้ความจริง และไปมีแฟนใหม่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง และตำรวจดังกล่าวเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว จึงได้ดำเนินการเพื่อเป็นการเตือนสติให้ น.ส.เจี๊ยบ ได้สำนึกรู้ตัว และกลับมาหาตนเหมือนเดิม โดยตัวเองนั้นได้รู้จักกับ น.ส.เจี๊ยบ ทางเฟซบุ๊ก ต่อมาก็ได้รู้จักและติดต่อกันมาตลอด จนมีการขออยู่ด้วยกัน แต่ก็ได้รับการปฎิเสธจนเกิดความแค้นตามก่อกวนมาตลอดจนถึงขั้นข่มขู่สาด น้ำกรดให้เสียโฉม และนำไปประจานในหน้าเฟซบุ๊กดังกล่าว


ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเขาก็รับสารภาพ ทำไปเพราะความรักความแค้น และเป็นห่วงผู้หญิงไม่อยากให้ผู้หญิงไปแย่งแฟนคนอื่น และข้อความที่ข่มขู่ในเฟซบุ๊กที่ถือว่ารุนแรง และทำให้ผู้หญิงเกิดความกลัว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ และการใช้ข้อความลงในเฟซบุ๊กและทาง วีแซท นั้นทางตำรวจสืบสวนจนรู้ และมีจุดหนึ่งที่ผู้ต้องหาพลาดหลุดไปในเฟซบุ๊กและโปรแกรม วีแซท ทำให้รู้ว่าคนที่ดำเนินการดังกล่าวเป็นคนร้าย และเรื่องการโทรศัพท์ข่มขู่ นั้นก็ชัดเจน จึงได้ตั้ง ข้อหา "หมิ่นประมาท และข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นประชาชน เผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการใดที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน.