“ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว คืออะไร เพิ่งจะมารู้ก็ตอนมาเรียน
ทำนากับโครงการ 1 ไร่ ได้ 1 แสนนี่แหละ มันไม่ได้หมายถึงในน้ำต้องมีปลา ในนาต้องมีข้าว เหมือนที่เราเข้าใจกันมาตั้งแต่เด็ก”
ตอนแรกเธอไม่อยากจะมาอบรม เพราะไม่เชื่อว่านา 1 ไร่ จะทำเงินเป็นแสนได้จริง แต่ต้องมาเพราะมีฐานะทางสังคมเป็นประธานศูนย์การเรียนรู้ หมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่คว้ารางวัลการประกวดมามากมาย...เลยจำใจมาท้าพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือโกหก
ผลที่ได้...ทำนามาหลายสิบปี ปีละ 150 ไร่ แต่เพิ่งจะได้เข้าใจ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว หมายความว่าอะไร
“อยู่บ้านเราทำนาปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงปลา ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เศรษฐกิจพอเพียง เรียกว่า ทำทุกอย่างตามที่ทางการแนะนำ มาเรียนทำนาที่นี่เราปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ แบบผสมผสานเหมือนกัน แต่ต่างกันตรง ที่เราเคยทำ จะทำแบบแยกกันอยู่ บ่อปลาก็อยู่ส่วนปลา นาก็อยู่ส่วนนา
เพราะนอกจากจะมีเป็ดมาช่วยกำจัดศัตรูข้าวให้แล้ว สารพัดหญ้าวัชพืชที่เราเคยเห็นเป็นศัตรูตัวฉกาจต้องเผาทิ้ง หรือไม่ก็ใช้ยาฆ่าหญ้าทำลายทิ้ง แต่ที่นี้สอนให้เรามองวัชพืชเป็นมิตร มีประโยชน์สามารถเอามาทำเป็นปุ๋ย เป็นอาหารสัตว์ได้
และการไม่เผาทำลายหญ้าทิ้ง ทำให้ตัวเบียน แมลงกำจัดศัตรูพืชในธรรมชาติ ไม่ถูกทำลาย เราเลยปลูกข้าวอินทรีย์แบบปลอดสารพิษได้โดยไม่ต้องใช้ทั้งปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ช่วยลดต้นทุนปลูกข้าวและเลี้ยงสัตว์ได้มาก”
ถ้าถามว่า 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน จริงแค่ไหน นางสมศรี บอกว่า สำหรับของตัวเธอตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะยังอบรมไม่จบโครงการ ยังไม่สามารถเคลียร์บัญชีรายรับรายจ่ายได้
แต่มั่นใจได้มากกว่า 1 แสน เพราะเพื่อนคนอื่นที่มาอบรมได้จดบัญชีไว้ สามารถทำได้เกือบ 2 แสนบาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว 1 ไร่ น่าจะเหลือเกิน 1 แสน
เพราะการทำนา 1 ไร่ 1 แสน เกษตรกรมีรายได้สารพัด ทั้งจากการขายผัก ขายไข่เป็ด ขายปลา กบ กุ้ง หอย และขายข้าวอินทรีย์ไร้สารพิษ นอกจากจะได้ราคาสูงกว่า ผลผลิตที่ได้ยังสูงกว่าด้วย
“ทำนามาหลายปีไม่เคยเห็นที่ไหนปลูกข้าวได้ผลผลิตมากอย่างน่าตกใจขนาดนี้ อยู่บ้านเนื้อที่ 1 ไร่ ใช้พันธุ์ข้าว 20-30 กก. พันธุ์ข้าว 1 เมล็ด ได้ข้าว 1 ต้น มี 1 รวง แต่ละรวงได้ข้าวแค่ 60-70 เมล็ด
แต่ที่นี่ใช้พันธุ์ข้าวแค่ 2 ขีดครึ่ง และพันธุ์ข้าว 1 เมล็ด ปลูกแล้วแตกกอได้ข้าว 52 ต้น ต้นละ 1 รวง แต่ละรวงได้ข้าวถึง 200 เมล็ด ผลผลิตต่างกันหลายเท่าตัว”
จากเคยอยู่บ้าน วันๆเอาแต่ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว กินเหล้า
เชียร์มวยตู้ เสียทั้งเงินทั้งเวลา ชีวิตตัวเองเหมือนไม่มีอนาคต เพราะช่วยพ่อแม่ทำนาทำสวน มีรายได้แค่พออยู่พอกินไปวันๆเท่านั้น แต่พอมาได้อบรมทำนาแบบนี้ ได้ลงมือทำเอง เห็นผลงานของตัวเอง ทำให้ตอนนี้มีความมั่นใจในอนาคตตัวเองมากขึ้น
“รู้ว่าจากนี้ไป สามารถทำอะไรเป็นอาชีพได้แล้ว กลับไปบ้านจะเริ่มจากเล็กๆก่อน ทำแค่ 1 ไร่ จนอยู่ตัว จากนั้นจะค่อยๆ ขยายพื้นที่ทำเป็น 2-3 ไร่ ทำแค่นี้ผมเชื่อว่าอยู่ได้สบาย”
ไม่น่าเชื่อว่าเกษตรกรไทยจะมีวิชั่น คิดไกลมองข้ามช็อตไปถึงอนาคตของประเทศชาติ
“ถ้าเกษตรกรไทยทำอย่างนี้กันมาก จะช่วยลดการรุกป่าสร้างที่ทำกินได้ไม่น้อย เพราะพื้นที่แค่ 1 ไร่ ทำเงินได้เป็นแสน ได้มากกว่าการทำเกษตรแบบเดิมที่ใช้พื้นที่หลายสิบไร่
ฉันเองมีนาอยู่ 7-8 ไร่ ให้ผลผลิตแค่พอเก็บไว้กิน รายได้หลักมาจากทำไร่ข้าวโพด ในเนื้อที่บุกเบิกป่า 30 ไร่ ปีที่แล้วลงข้าวโพด ขายได้เงินประมาณ 98,000 บาท หักต้นทุนค่าปุ๋ยค่ายาแล้วเหลือ
40,000-50,000 บาท แต่นี่ต้องลงมือทำเองนะ จ้างคนอื่นไม่ได้ เพราะถ้าจ้าง ค่าแรงจะกินหมดไม่เหลือกำไร”
คิดดู 1 ไร่ ทำเงินได้มากกว่า 30 ไร่ จะช่วยลดการรุกป่าได้ขนาดไหน...เป็นวิชั่นจากสมองชาวนาที่ยากจะหาได้ในกลุ่มผู้บริหารประเทศ
ในขณะที่ชาวนาอย่าง สมศรี ทำนาปีละ 150 ไร่ เป็นนาของตัวเอง 5 ไร่ ที่เหลือเป็นนาเช่าจากนายทุน บอกว่า อบรมจบหลักสูตร 5 เดือน จะกลับไปทำนาแบบนี้ในที่ดินของตัวเองสัก 1 ไร่ นอกจากจะให้เพื่อนชาวนาได้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว
ผลผลิตที่ได้จะไม่ขายไม่จำนำ แต่จะเก็บไว้กินเอง เพราะเป็นข้าวอินทรีย์ปลอดภัยไร้สารพิษ...คนในครอบครัวจะได้ปลอดภัยห่างไกลมะเร็ง
ส่วนแปลงนาที่เช่านายทุนจะทำนาใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง เอาไปขายเข้าโครงการรับจำนำเหมือนเดิม
และเมื่อถามว่า ในเมื่อมีที่ทำนามากมาย รายได้จากการขายข้าวเข้าโครงการจำนำ ที่รัฐบาลบอกว่าช่วยให้ชาวนามีรายได้สูงขึ้นนั้นจริงไหม
เธอตอบว่า ก็ได้บ้าง แต่ไม่มากเหมือนที่ว่ากัน...ราคาจำนำที่บอกว่า ตันละ 15,000 บาท แต่พอเอาข้าวไปโรงสี ถูกหักค่าความชื้น ค่าสิ่งเจือปน
ชาวนาดูไม่ออก ตรวจวัดไม่เป็น...ทำไปทำมาได้แค่ตันละ 11,000-11,400 บาท
ในขณะที่สารพัดต้นทุนขยับขึ้นราคายกแผง...แบบเดียวกับประกาศขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ของกินของใช้ขึ้นราคาไปรอล่วงหน้า โดยที่รัฐบาลทำได้แค่ให้สัมภาษณ์ ได้สั่งการกำชับให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลแล้ว แต่มิเคยช่วยให้ของถูกลงแต่อย่างใดนั่นแหละ
“ค่าเช่าที่นาก่อนหน้านี้ อยู่ที่ไร่ละ 500 บาท แต่พอรัฐบาลประกาศให้ราคาจำนำสูง ค่าเช่าก็ขึ้นไปเป็นไร่ละ 1,200-1,500 บาท เพราะเจ้าของที่นาอ้างว่า รัฐบาลให้ราคาข้าวดี เขาก็ควรได้ราคาดีด้วย”
พื้นที่ปลูกข้าวนาปีนาปรังรวมกันประมาณ 73 ล้านไร่...1 ไร่ใช้ปุ๋ย 2 กระสอบ...10 ไร่ ใช้ยา 1 ลัง
คิดดูก็แล้วกันรับจำนำ นายทุนผูกขาดขายปุ๋ย–ยาฆ่าแมลง และแลนด์ลอร์ดนายทุนที่นาฟันไปกี่หมื่นล้าน...อย่างนี้หรือที่เขา เรียกว่าช่วยชาวนา.
...