ตร.เชียงใหม่ ตามรวบตัวหนุ่มแสบ อ้างเป็นอดีตทหาร รวมหัวกับพวกสวมรอยเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ก่อเหตุปล้นทรัพย์หลายท้องที่ เลือกเหยื่อที่มีประวัติพัวพันยาเสพติด...
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2555 ที่ห้องประชุม สภ.เมืองเชียงใหม่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รองผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อักษรี วงศ์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายวสันต์ ธรรมสืบศักดิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และ น.ส.กาญจนา ทูลศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 หมู่ 5 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน และร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยวผู้อื่นจนปราศจากเสรีภาพ พร้อมของกลาง ชุดเครื่องแบบทหาร รองเท้าคอมแบท วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ ร่วม 30 รายการ
พล.ต.ต.ชำนาญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา มีคนร้าย 4 คน เป็นชาย 2 หญิง 2 คน แอบอ้างเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด (ปส.) บุกเข้าไปปล้นทรัพย์ ที่ห้อง เอ 4 หอพักจีรนันท์ บ้านเกาะกลาง ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จับตัว นายเจริญ โสภานะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 8 ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และ น.ส.วันทนีย์ ใจบาล อายุ 25 ปี ภรรยา มัดมือไพล่หลังอุดปาก ปล้นเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง 1 เส้น แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 วง ของ น.ส.วันทนีย์ เงินสดจำนวน 22,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนหลบหนียังยัดยาบ้าให้ผู้เสียหายอีกด้วย
หลังเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสนใจในคดีนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหาแอบอ้างตัวเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ทำให้เสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นอย่างมาก จึงให้ตำรวจท้องที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ต่อมาตำรวจเแกะรอยติดตามผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จนทราบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ในท้องที่ กทม. จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส. ประสานกับตำรวจ สน.ดินแดง เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 181/1 ซอยเฟื่องสิน แขวงและเขตดินแดง กทม. ค้นในบ้านพบของกลางเครื่องแบบทหารและวิทยุสื่อสาร และของกลางที่คาดว่าได้มาจากการประทุษร้าย นำมาแถลงข่าวดังกล่าว
...
รองผบช.ภ.5 เผยอีกว่า ยังมีผู้ต้องหาเพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีไปได้อีก 2 คน ถูกออกหมายจับแล้วคือ นายวรวุฒิ ชุ่มชื่น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ 8 แขวงและเขตจอมทอง กทม. และ น.ส.วาสนา ศรีคูณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/1 หมู่ 4 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใช้ปืนยิงเปิดทางแหกวงล้อมตำรวจ ขับรถเก๋งหลบหนีไปได้
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้ง 2 คน ให้การภาคเสธว่า ได้ไปด้วยกันในวันเกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้ลงมือ นายวรวุฒิเป็นคนลงมือเอง ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้แอบอ้างเป็นตำรวจ ปส. โดยนายวสันต์อ้างชื่อ "ผู้กองเต๋า" ส่วนนายวรวุฒิอ้างชื่อ "จ่าแม็ค" เคยร่วมกันก่อคดีปล้นทรัพย์เหยื่อในท้องที่ จ.เชียงใหม่ ประกอบไปด้วย สภ.สารภี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2555 สภ.เมืองเชียงใหม่ วันที่ 16 ก.ย. 2555 สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ 16 ก.ย. 2555 สภ.เมืองสุพรรณบุรี 3 ราย ท้องที่ สน.บางมด กทม. 1 คดี
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว นายวสันต์ ผู้ต้องหาอ้างว่าเคยรับราชการทหารยศสิบตรี เป็นลูกน้องเก่าของ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล มีความประพฤติไม่ดีจึงถูกไล่ออกจากราชการ ปัจจุบันเป็นคนคุมวินรถ จยย.ย่านประตูน้ำ ส่วนนายวรวุฒิ หรือจ่าแม็ค ที่หลบหนีไปได้นั้น เคยเป็นพลทหารมาก่อน และเคยเป็นสายลับให้ตำรวจนครบาล สน.บางขุนเทียน มีความเชี่ยวชาญในการปล้นทรัพย์เหยื่อ โดยเเลือกเป้าหมายกลุ่มที่มีประวัติพัวพันยาเสพติด.