เดี่ยว-สุริยนต์ ยินดีรถเมล์-คะนึงนิจ มีหนุ่มรู้ใจคนใหม่แล้ว ย้ำยังโสดแต่เชื่อพระเจ้าจะประทานรักใหม่มาให้ รับมีคุยสาวๆ บ้าง แต่ยังเป็นเพื่อน เผยตายายเร่งแต่งบ่นอยากอุ้มหลาน แต่ตนยังสนุกกับการทำงาน...

ฝั่งอดีตแฟนสาว รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ก็ยอมรับว่ามีหนุ่มรู้ใจคนใหม่เรียบร้อยแล้ว พอนักข่าวได้มาร่วมงานบวงสรวงเปิดกล้องละคร "แรงปรารถนา" ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ และได้เจอพิธีกรและนักแสดงหนุ่ม เดี่ยว-สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล เลยสอบถามถึงความรู้สึก ซึ่งหนุ่มเดี่ยวเผยว่ารู้สึกยินดีที่อดีตคนรู้ใจมีคนดูแลแล้ว และทุกวันนี้ยังมีได้คุยกันบ้างแต่ไม่บ่อย ส่วนสถานภาพหัวใจของหนุ่มเดี่ยว เจ้าตัวบอกว่าตอนนี้ยังโสด และยังสนุกกับการทำงาน แต่ผู้ใหญ่โดยเฉพาะตายายเริ่มเร่งอยากให้แต่งงานมีลูกแล้วเหมือนกัน ซึ่งหนุ่มเดี่ยวเองก็เชื่อว่าสักวันพระเจ้าจะประทานรักครั้งใหม่มาให้แน่ๆ ส่วนสเปกสาวนั้น ชอบคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ดูโดยรวมแล้วเป๊ะเลยถูกใจ คุยกันได้ ยังไงก็ขอให้สมหวังมีคนรู้ใจคนใหม่ไวๆ นะจ๊ะ!!

ถามถึงเรื่องความรัก เห็นเราบอกว่ารอพระเจ้าประทานมาถึงจะมีความรักครั้งใหม่? "อ๋อ ใช่ครับ ผมมีความเชื่อในบุพเพสันนิวาส เรื่องเบื้องบนกำหนดมาให้เราแล้ว อาจจะมีบางช่วงที่ท่านอาจจะทดสอบความอดทน หรืออยากจะทำโทษในบางครั้งที่เราดำเนินชีวิตไม่ถูกต้องไป บางทีเราทำดี ท่านก็ประทานสิ่งที่ดีมาให้ ผมนับถือศาสนาพุทธครับ แต่ผมไม่ได้พูดถึงพระเจ้าในลักษณะนั้น คือผมมีความเชื่อว่าคนบนฟ้าเขากำหนดมา คือเราจะเป็นอะไรในอนาคต เขากำหนดมาให้แล้ว อาจจะกำหนดมา 10 อย่าง แต่ที่เหลือเราต้องตัดสินใจเดินทาง แต่สุดท้ายก็ไปลงตัวที่ 10 อย่างนั้นที่ท่านกำหนดมาให้" ทำไมเราถึงมีความเชื่ออย่างนั้น? "อืม อาจเป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัวด้วยแหละ คือผมเชื่อเรื่องการกระทำส่วนนึง และเชื่อเรื่องชะตาชีวิต ดวง บุญกรรม มีผลหมดครับ สิ่งที่เราทำในอดีตจะส่งผลมาถึงปัจจุบันและอนาคตด้วย"

...

แล้วตอนนี้พระเจ้าประทานใครมาให้รึยัง? "ยังเลยครับ รออยู่ครับ (หัวเราะ) คือเราพยายามทำตัวเป็นธรรมชาติมากที่สุด คือปัจจุบันมีสิ่งเราต้องรับผิดชอบคือเรื่องละคร เรื่องครอบครัวเราก็ทำเต็มที่ เมื่อไหร่ถึงจังหวะที่เราจะมีอะไรเพิ่มเติมมา เราก็ค่อยดูแลต่อไปครับ" แล้วมีคนที่คุยๆ ดูๆ อยู่ไหม? "ไม่มีเลยครับ ยังไม่มีที่คุยแล้วจะพัฒนาต่อไปเป็นแฟนเลยครับ" แสดงว่าคุยหลายคน? "อ๋อ เป็นเพื่อนๆ ซะส่วนใหญ่ (หัวเราะ) เป็นเพื่อนร่วมงานครับ" ตอนนี้เราห่างกับรถเมล์กี่ปีแล้ว? "น่าจะสักปีกว่าๆ  เหงาไหมก็มีบ้างตามธรรมชาติครับ" ช่วงแรกเห็นว่ายังตามง้อรถเมล์อยู่? "อ๋อ ก็มีพูดคุย คือเราไม่ได้เกลียดกัน อย่างที่เคยบอกไปว่าเราแยกกันด้วยเหตุผลที่เราสองคนตัดสินใจแล้ว ก็ยังมีพูดคุยตามวันสำคัญ มีอวยพรบ้างตามปกติ พี่ๆ อาจจะถามว่าทำไมไม่ได้คุย คือในเมื่อสถานภาพมันเปลี่ยนไปแล้วครับ วิธีการมันก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย"

รถเมล์มีคนใหม่แล้วรู้สึกจี๊ดๆ บ้างไหม? "ไม่จี๊ดๆ เพราะว่าน้องเป็นคนดี น่ารัก สิ่งดีๆ ก็เกิดขึ้นกับน้องก็ดีใจด้วย อะไรก็แล้วแต่ที่เขามีความสุข เราก็โอเคอยู่แล้ว" เสียดายไหม? "ไม่เสียดายครับ เพราะตลอด 7 ปีที่เรารู้จักกันมาเนี่ย ผมมีความสุขทุกวัน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียดายเลย ดีใจที่เราเคยมีช่วงเวลาที่ดีด้วยกัน ต่อไปเรายังเป็นเพื่อนกันได้อยู่ ไม่มีปัญหาครับ" มีได้ถามเขาถึงเรื่องนี้ไหม? "อ๋อ ไม่ครับ เพราะถือว่าตรงนี้เป็นเรื่องของคนสองคนแล้ว อันนี้เราจะไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอยู่แล้วครับ" เป็นเพราะเขามีคนใหม่เลยทำให้เราไม่คุยสนิทสนมเหมือนก่อนด้วยรึเปล่า? "อืม...อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะผมว่า อย่างที่บอกว่าพอสถานภาพมันเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำ เพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวมันคลุมเครือ เนื่องจากน้องเป็นพี่สาวคนโต ดูแลน้องและคุณแม่แล้ว  และเขาอาจมีคนที่ถูกใจแล้ว เนื่องด้วยตรงนี้ เขาก็ต้องให้กับทางนั้นเต็มที่อยู่แล้วถูกไหมครับ ทางเราก็เหมือนเป็นเพื่อนคนนึง ก็ออกมา เพราะเราไม่เกี่ยวกับส่วนตรงนั้นอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ต้องทำงานด้วยก็ต้องเหนื่อย อีกอย่างเรามีวิถีของเรา มีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ มีครอบครัวต้องดูแลครับชีวิตก็ต้องเดินหน้าครับ"

ตั้งสเปกคนใหม่ไว้ไหมว่าต่อไปต้องเป็นยังไง? "สเปกเนี่ยไม่ได้อยู่ที่ตัวผม ถ้าอยู่ที่ตัวเรา มันก็แค่เป็นหนึ่งเดียว มันก็ค่อนข้างยาก จริงๆ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นตลอดถูกไหมครับ เพราะผู้หญิงแต่ละคนก็จะมีความน่ารัก ความสวยเป็นสไตล์ของตัวเอง สเปกผมอยู่ที่สไตล์ผู้หญิง ผมชอบคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ดูโดยรวมแล้วเป๊ะเลยถูกใจ ก็คุยได้ แต่ในลักษณะที่เขาต้องถูกใจเราด้วยนะ และสุดท้ายทุกคนต้องจูนกันอยู่ดี เพราะไม่มีใครที่เป็นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ หรอกครับ" เพื่อนๆ มีหาสาวๆ ให้บ้างไหม? "ไม่มีครับ (หัวเราะ) เพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มผมตั้งแต่สมัยเรียนยังไม่มีแฟนกันเลยครับ" อายุใกล้ 30 แล้ว คุณพ่อคุณแม่มีพูดไหมว่าอยากเห็นลูกสะใภ้แล้ว? "คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยถาม แต่คุณตาคุณยายถาม (หัวเราะ) เพราะว่าถ้าเราอายุประมาณนี้ ในชีวิตจริงก็สามารถแล้ว แต่ด้วยหน้าที่การงาน ไลฟ์สไตล์ของเรา เรายังมีความสุขกับการทำงานตรงนี้อยู่ เรื่องนี้เลยไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่จังหวะชีวิตตอนนี้ อะไรที่สำคัญที่สุดเราต้องทำก่อน" คุณตาคุณยายมีบอกอยากอุ้มหลานไหม? "ก็มีนะ ก็มีพูดคุย แต่ผมก็บอกว่ายังหาภรรยาไม่ได้เลยครับ (หัวเราะ) ก็สนุกๆ ขำๆ กันไป แต่ไม่ได้กดดันอะไร  คือท่านก็ทราบแต่ท่านก็แซว เพราะท่านเห็นว่าเพื่อนๆ ญาติๆ แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็เลยถามแค่นั้นเองครับ".